'ธรรมกาย'แก้ได้ด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ 'อำนาจ-กำลัง'

27 ก.พ. 2560 | 14:22 น.
เมื่อคืนนั่งดูข่าว “วัดธรรมกาย” จนดึก กลับไปนอนก็คิดเรื่องนี้ หลับไปไม่กี่?ชั่วโมงก็ตื่นมาคิดแล้วลุกขึ้น ตอนแรกคิดว่า ช่วงนี้จะยังไม่เขียนถึงวัดธรรมกาย เพราะเรื่องคงไม่จบง่ายๆเหมือนเรื่อง “อื้อฉาว” บางเรื่องเขียนถึงเรื่องนี้ซ่ะหน่อยนะ เนื่องจากวัดธรรมกายเคยมีเรื่องอื้อฉาวเป็นข่าวตั้งแต่ 44 ปีที่แล้ว

กล่าวคือ ก่อนวัดจะขยายอาณาเขตจนใหญ่โตก็มีข่าวขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์รายวันฉบับต่างๆ เริ่มตั้งแต่สานุศิษย์เอาปืนไปข่มขู่ไล่ที่เพื่อบีบซื้อที่ดินจากชาวนา โดยอำนาจรัฐไม่เคยเป็นที่พึ่งให้ชาวนา-ชาวสวนที่ป็นเจ้าของเดิมย่านนั้นได้เลย
44 ปี ของวัดพระธรรมกายจากที่ดินว่างเปล่าที่ไร้สิ่งก่อสร้าง พัฒนามาสู่การเป็นวัดที่มีพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ก่อนขยายศาสนสถานที่ถูกประเมินค่าว่า ไม่น่าจะน้อยกว่า ล้านๆ บาท ที่กลายเป็นประเด็นให้คนในสังคมตั้งข้อสงสัยว่าวัดเอาเงินจำนวนมากมายขนาดนี้มาจากไหน?

ไม่นับรวมสาขาวัดที่ขยายไปทั้งในและต่างประเทศอีกจำนวนมาก....ซึ่งถ้าพิจารณาจากคำพูดของ “พระธัมมชโย” บางช่วง-บางตอนในอดีต ก็จะเห็นว่ามีบุคคลในแวดวงธุรกิจจำนวนไม่น้อย ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับวัด รวมทั้งข่าวอื้อฉาวต่างๆ ตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา อาทิ เช่นสหกรณ์คลองจั่น และฯลฯ

คำอวยพรในวันคล้ายวันเกิด “คนดัง” ที่พระธัมชโยอ้างว่ามีความสำคัญกับวัด สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์อย่างชัดเจนจากที่ดินเริ่มต้น196 ไร่ ที่ขยายพื้นที่ครอบครองกว่า 2,000 ไร่ทั้งในย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี และอีกหลายพื้นที่ในต่างจังหวัด ก่อนเกิดคำถามว่ามูลค่าโครงการที่ต้องใช้ในเครือข่ายวัดธรรมกาย สามารถทำได้ด้วยเงินทำบุญจากผู้ศรัทธาโดยปราศจากการสนับสนุนจากกลุ่มทุนหรือไม่?

และอีกด้านหนึ่งคือการเปิดเผยตัวของ “คนดัง+นักธุรกิจ” ระดับชาติหลายๆ คนที่ศรัทธาต่อวัดและพระธัมมชโยก็สะท้อนภาพให้เห็นด้วยว่า เงินลงทุนเพื่อก่อสร้างศาสนสถานมากมายนั้นมาจากไหน?

เรื่องดังกล่าว ถูกเปิดเผยโดยคลิปวีดีโอที่แพร่ภาพและข้อมูลผ่านช่อง DMC USA เมื่อปลายปีก่อน ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาของวัดพระธรรมกาย และ นายอนันต์ อัศวโภคิน รวมทั้ง นายบุญชัย เบญจรงคกุล ที่ปรากฎตัวในบทบาทผู้ศรัทธาครั้งล่าสุด ผ่านรายการข่าวเคลียร์ เคลียร์ข่าวชัด วัดพระธรรมกาย (17 มิถุนายน 2559)

พร้อมเชิญชวนผู้ศรัทธาเดินทางไปร่วมปฏิบัติธรรม ในช่วงเวลาที่กระแสการบุกค้นวัดโดยชุดปฏิบัติการจาก DSI กำลังถูกพูดถึง นี่คือส่วนหนึ่งของผู้ศรัทธาที่มีฐานะและกิจการใหญ่โตภายในประเทศที่มีส่วนร่วมขยายศาสนสถานของวัดและเครือข่าย

นอกจากนั้น ข้อมูลการเงินของวัดพระธรรมกายยังเปิดเผยมูลค่าโครงการก่อสร้างที่ดำเนินการโดยวัด และมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกา คุณยายจันทร์ขนนกยูง ในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือมูลนิธิคุณยายจันทร์ ตั้งแต่ปี 2547 ถึง 2558 รวม 34 โครงการ มูลค่าไม่น้อยกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท

โครงการอาคาร 100 ปี ที่ดำเนินการโดย มูลนิธิคุณยายจันทร์ ใช้งบประมาณสูงที่สุด ไม่น้อยกว่า 5,100 ล้านบาท รองลงมาคืออาคารจอดรถวัดพระธรรมกาย 2,600 ล้านบาท มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า มูลนิธิคุณยายจันทร์ จดทะเบียนก่อตั้ง 30 กรกฎาคม 2547 บริหารงานโดยเครือญาติของนักการเมืองและนักธุรกิจใหญ่

ด้วย “เครือข่าย” ที่มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน เมื่อ DSI เปิดยุทธการไล่ล่าและขอเข้าตรวจค้นศาสนสถานของวัด เพื่อหาตัว “ธัมมชโย” สถานการณ์ต่างๆ ก็ตึงเครียดขึ้นเป็นลำดับ รวมทั้งยังไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ร้ายต่างๆ และทั้งหลาย-ทั้งปวงนั้น เกิดจากความไม่เด็ดขาดของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องที่ไม่ใช้ความเด็ดขาดฉับพลันแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น

ในฐานะคนดู ก็ขอภาวนาอย่าให้เหตุการณ์ขยาย “บานปลาย” มากไปกว่านี้ รวมทั้งไม่เกิดการกระทบกระทั่งจนเลือดตกยางออก บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถ้าเพียงแต่ทุกคนทำตามกฎหมาย หรือ “กติกา” ทุกอย่างก็คงจบลงด้วยดีเองแหล่ะ....คนไทยด้วยกันทั้งนั้นนี่ อย่าให้มหากาพย์เรื่องนี้เป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” เลยนะครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560