Importance of family issues for the business ครอบครัวเรื่องไม่เล็กของธุรกิจ
เมื่อ KPMG และ European Family Businesses (EFB) ได้ทำการสำรวจธุรกิจครอบครัวแบบออนไลน์ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ปีค.ศ. 2013 จำนวน 600 ราย จากประเทศในยุโรป 14 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย บัลแกเรีย สาธารณรัฐเช็ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ อิตาลี โปรตุเกส สเปน เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร เพื่อศึกษาแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตของธุรกิจครอบครัว พบว่า โดยภาพรวมธุรกิจครอบครัวยังคงมีความเชื่อมั่นในความสามารถของพวกเขาไม่เฉพาะในเรื่องของการอยู่รอดในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันเท่านั้นแต่ยังรวมถึงความได้เปรียบในเรื่องของโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การลงทุนและความสำเร็จอีกด้วย และแม้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง แต่วิสัยทัศน์ หลักการและรากฐานของธุรกิจครอบครัวยังคงดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ยังพบว่าเมื่อเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงและตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก เป็นเหตุให้ธุรกิจมากมายต้องทำการตัดสินใจอย่างยากลำบาก แต่ธุรกิจครอบครัวกลับมีความเฟื่องฟูขึ้นโดยสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จของพวกเขาก็ประกอบไปด้วย การมีโครงสร้างและกระบวนการธรรมาภิบาลที่ดีในองค์กร ซึ่งจะเห็นว่าพวกเขามีความเป็นอิสระอย่างมากในการต่อสู้เพื่อความสำเร็จในอนาคตของตนเอง และพวกเขามีการตระหนักรู้ถึงการมีธรรมาภิบาลที่ดีสูงถึง 72% (fig. 3) ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด
[caption id="attachment_132148" align="aligncenter" width="449"]
Importance of family issues for the business ครอบครัวเรื่องไม่เล็กของธุรกิจ[/caption]
นอกจากนี้ธุรกิจครอบครัว 60% ยังชี้ว่าความยุติธรรมระหว่างสมาชิกในครอบครัวมีความสำคัญต่อการสร้างจรรยาบรรณหรือธรรมนูญครอบครัว และระบุว่าอยู่ในระดับที่สำคัญถึง 67% เพราะจะทำให้มีการกำหนดกลยุทธ์การสืบทอดกิจการขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจครอบครัว 87% (fig. 6) ก็เห็นว่าการเตรียมความพร้อมและฝึกอบรมทายาทก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้นำเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุด ขณะที่ธุรกิจครอบครัว 32% เห็นว่าความสามารถในการมีมุมมองระยะยาวเป็นจุดแข็งของธุรกิจของพวกเขา
อย่างไรก็ตามพบว่าความสมดุลระหว่างการระบุตัวทายาทและการรับมือกับการแข่งขันกันของทายาทไม่สอดคล้องกันมากนัก จากผลสำรวจที่พบว่ากว่าครึ่งของธุรกิจครอบครัวระบุว่าไม่ได้มีความกังวลกับการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งของทายาท ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าธุรกิจครอบครัวเห็นว่าการแข่งขันในครอบครัวอาจจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในอนาคตได้
ขณะที่ในส่วนของการรักษาอำนาจควบคุมของครอบครัวต่อธุรกิจนั้นธุรกิจครอบครัว 84% เห็นว่าการรักษาอำนาจควบคุมธุรกิจครอบครัวถือเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จที่สำคัญ รวมถึงการที่ธุรกิจครอบครัว 54% ยังชี้ว่าการรักษาตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่เกษียณหรือลาออกไปไว้ให้กับสมาชิกในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าครอบครัวมีสิทธิมีเสียงอยู่มากในธุรกิจ นอกจากนี้ปัจจัยในการขับเคลื่อนความสำเร็จยังประกอบด้วยการสื่อสารระหว่างสมาชิกในครอบครัวระหว่างรุ่น 86% (fig. 8) และการสร้างความมั่นใจว่าครอบครัวมีความเชี่ยวชาญในเรื่องธุรกิจ 84% (fig. 4) ตามลำดับอีกด้วย
ที่มา: KPMG. 2013. European Family Business Barometer : Sustaining Future Growth. www.kpmgfamilybusiness.com.
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560
ทั้งนี้ยังพบว่าเมื่อเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงและตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก เป็นเหตุให้ธุรกิจมากมายต้องทำการตัดสินใจอย่างยากลำบาก แต่ธุรกิจครอบครัวกลับมีความเฟื่องฟูขึ้นโดยสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จของพวกเขาก็ประกอบไปด้วย การมีโครงสร้างและกระบวนการธรรมาภิบาลที่ดีในองค์กร ซึ่งจะเห็นว่าพวกเขามีความเป็นอิสระอย่างมากในการต่อสู้เพื่อความสำเร็จในอนาคตของตนเอง และพวกเขามีการตระหนักรู้ถึงการมีธรรมาภิบาลที่ดีสูงถึง 72% (fig. 3) ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด
[caption id="attachment_132148" align="aligncenter" width="449"]
นอกจากนี้ธุรกิจครอบครัว 60% ยังชี้ว่าความยุติธรรมระหว่างสมาชิกในครอบครัวมีความสำคัญต่อการสร้างจรรยาบรรณหรือธรรมนูญครอบครัว และระบุว่าอยู่ในระดับที่สำคัญถึง 67% เพราะจะทำให้มีการกำหนดกลยุทธ์การสืบทอดกิจการขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจครอบครัว 87% (fig. 6) ก็เห็นว่าการเตรียมความพร้อมและฝึกอบรมทายาทก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้นำเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุด ขณะที่ธุรกิจครอบครัว 32% เห็นว่าความสามารถในการมีมุมมองระยะยาวเป็นจุดแข็งของธุรกิจของพวกเขา
อย่างไรก็ตามพบว่าความสมดุลระหว่างการระบุตัวทายาทและการรับมือกับการแข่งขันกันของทายาทไม่สอดคล้องกันมากนัก จากผลสำรวจที่พบว่ากว่าครึ่งของธุรกิจครอบครัวระบุว่าไม่ได้มีความกังวลกับการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งของทายาท ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าธุรกิจครอบครัวเห็นว่าการแข่งขันในครอบครัวอาจจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในอนาคตได้
ขณะที่ในส่วนของการรักษาอำนาจควบคุมของครอบครัวต่อธุรกิจนั้นธุรกิจครอบครัว 84% เห็นว่าการรักษาอำนาจควบคุมธุรกิจครอบครัวถือเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จที่สำคัญ รวมถึงการที่ธุรกิจครอบครัว 54% ยังชี้ว่าการรักษาตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่เกษียณหรือลาออกไปไว้ให้กับสมาชิกในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าครอบครัวมีสิทธิมีเสียงอยู่มากในธุรกิจ นอกจากนี้ปัจจัยในการขับเคลื่อนความสำเร็จยังประกอบด้วยการสื่อสารระหว่างสมาชิกในครอบครัวระหว่างรุ่น 86% (fig. 8) และการสร้างความมั่นใจว่าครอบครัวมีความเชี่ยวชาญในเรื่องธุรกิจ 84% (fig. 4) ตามลำดับอีกด้วย
ที่มา: KPMG. 2013. European Family Business Barometer : Sustaining Future Growth. www.kpmgfamilybusiness.com.
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560