Local Experiences เปลี่ยนเรื่องเที่ยวเป็นธุรกิจ ตอบโจทย์ชีวิตนักเดินทางยุคใหม่

26 ก.พ. 2560 | 06:00 น.
“อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุค Internet of Things ภาพรวมการท่องเที่ยวซึ่งจากเดิมคือการใช้บริการบริษัทนำเที่ยวและการหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและออกเดินทางด้วยตัวเองนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงและก้าวไปสู่อีกระดับ คือ การเปิดประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่หรือ Local Experiences หนึ่งไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่เป็นดั่งฟันเฟืองที่สำคัญในการยกระดับด้านท่องเที่ยวไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้เติบโตอย่างมีเอกลักษณ์ เพิ่มมูลค่า และที่สำคัญก่อเกิดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนทัศนคติที่ดีต่อกันจากแนวคิดของผุ้บริหารรุ่นใหม่ คุณต้า-อมรเชษฐ์ จินดาอภิรักษ์ CEO และผู้ก่อตั้ง TakeMeTour

คุณต้า หรือ คุณทาโร่ ซึ่งมาจากการเติมตัว “O” ของชื่อเล่นเดิม “Tar” เป็นคนรักในการเรียนรู้และหลงไหลในเสน่ห์ของการเดินทางท่องเที่ยวมาตั้งแต่ยังเด็ก จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจครั้งสำคัญต่อยอดการเดินทางเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ หลังจากจบการศึกษาปริญญาตรีในสาขาวิชาวิศวกรรมการสื่อสารและสารสนเทศ SIIT คุณต้าได้คว้าทุนการศึกษา ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขาวิชา Vision Image&Robotics, Herrot-watt University สหราชอาณาจักร

“เราไม่ได้ท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ในทางกลับกันเราสร้างโอกาสควบคู่กันไปด้วย” คุณต้า เล่าว่า ระหว่างการศึกษาได้ทำความรู้จักกับกลุ่มเพื่อนหลากหลายชาติพร้อมกับการเลือกสถานที่เรียนซึ่งเปลี่ยนภาคเรียนการศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆไม่ซ้ำ นับตั้งแต่ สก็อตแลนด์ สเปน นอร์เวย์ ฝรั่งเศส และออสเตรีย ไม่เพียงแต่เรียนรู้วัฒนธรรมยังเกิดการแลกเปลี่ยนทัศนคติ ความเป็นมาของชนชาติ ตลอดจนสถานที่ที่น่าสนใจ จึงเป็นที่มาของการเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองท้องถิ่นที่เพื่อนอาศัยอยู่รวมถึงการเป็นผู้นำเที่ยวให้กับเพื่อนๆที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ ซึ่งทำให้พบกว่า รูปแบบและเสน่ห์ของการเดินทางไม่ได้อยู่เพียงแต่จุดหมายปลายทาง แต่อยู่ระหว่างทางที่ทำให้เราได้เรียนรู้รสชาติความเป็นท้องถิ่นของชนชาตินั้นๆอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่สร้างความแตกต่างให้โสตประสาทผู้รับอย่างเราเกิดความตื่นเต้น ประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นประโยชน์จากบุคคลในท้องถิ่นจะยิ่งทำให้เราเข้าใจอย่างเข้าถึงกลิ่นไออันกลมกล่อมของความสุขจากการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งหากมองในมุมกว้างนี่คือโอกาสในการสร้างโมเดลธุรกิจโดยใช้เครื่องปรุงจากบริบทโดยที่เราไปเรียนรู้ สัมผัส มาเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ผ่านผู้นำทางที่เรียกว่า “Local Expert”

MP32-3239-c หลังจากจบการศึกษาคุณต้าได้รับโอกาสในการไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งระหว่างการทำงานก็ยังไม่ละทิ้งโอกาสที่ตนได้ขุดค้นพบ จึงได้ริเริ่มสร้างบริษัทฯ พร้อมกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์อย่างคุณนพ -นพพล มิตรสหายในวัยมัธยมที่เห็นพ้องต้องกันในการสานต่อเจตนารมย์ในการสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่นำพานักเดินทางเข้าถึงความเป็นท้องถิ่นอย่างแท้จริงในชื่อว่า “พาฉันเที่ยว” หรือ “TakeMeTour” โดยใช้ช่องทางสื่อสารออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คเป็นหมุดเริ่มต้นในการสื่อสารกับผู้บริโภค

ผู้ก่อตั้ง TakeMeTour เล่าต่ออีกว่า หลังจากเริ่มต้นสร้างธุรกิจ จึงมองหาช่องทางการเรียนรู้เพิ่มเติม จึงเปลี่ยนจากการทำงานด้านวิศวกรรม ไปสู่งานการตลาดบนแพลตฟอร์มใหม่เต็มตัวในองค์กรยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Google และนำวิชาความรู้ที่ได้มาสร้าง “Marketplace” แพลตฟอร์มสุดทันสมัยที่เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนสามารถนำนักท่องเที่ยวพาเที่ยวไปยังท้องถิ่นต่างๆ ด้วยตนเอง โดยทริปที่เรากำหนดนั้นจะเป็นแบบ One day trip ที่มุ่งเน้นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในการเปิดประสบการณ์และความประทับใจที่ดีผ่านการเรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย แบบถึงแก่นจริงๆ ซึ่งเป็นทริปที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหน แต่หาได้ที่ TakeMeTour ยกตัวอย่างทริปที่พานักท่องเที่ยวไปทานกาแฟย่านทองหล่อ ทริปพาไปเดินเล่นและไปทานอาหารที่เยาวราช ทริปพาไปปลูกข้าว ชกมวยและอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 2 ปี ในทุกเดือนมีจำนวนทริปสูงถึง 300-500 ทริป ครอบคลุมกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศไทยและมีผู้นำทางท่องเที่ยวในท้องถิ่นหรือ Local Expert ประมาณ 10,000 คน ที่มีความรู้ความสามารถในการสื่อสารได้ถึง 9-10 ภาษา

“TakeMeTour.com เราทำหน้าที่เสมือนกับตลาดที่ต้องดูแลความปลอดภัยและคุณภาพในการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวในทุกความต้องการ” คุณต้า เล่าต่ออีกว่า ความปลอดภัยเป็นหัวใจที่สำคัญของธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งผู้ที่จะมาเป็น Local Expert ทุกคนได้รับการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมทุกคนอย่างละเอียด มีการพบปะพูดคุยกับทีมงานบ่อยครั้ง ไม่เพียงแต่ความเชื่อใจสำหรับผู้นำเที่ยว เรายังให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวด้วยการทำประกันอุบัติเหตุการเดินทางตลอดวันเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยอย่างสุขใจเมื่อใช้บริการจากเรา ด้านคุณภาพเราใช้เกณฑ์การวัดการดำเนินงานอยู่ที่รีวิวใน 3 มิติ คือ ภาษา ความเป็นมิตร และความรู้ในท้องถิ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเป็นผุ้ดำเนินการ โดยภาพรวมของผลลัพธ์เป็นไปในทิศทางที่ดีเกิดการบอกต่อและกลับมาใช้บริการซ้ำบ่อยครั้ง

MP32-3239-b ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมและคัดเลือกทริปแห่งความสุขต่างๆได้อย่างสะดวกสบายผ่านช่องทาง www.takemetour.com ขณะเดียวกันทางบริษัทได้สร้างความร่วมมือกับทาง dtac ในแคมเปญ dtac Tourism Sim ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวในการใช้บริการจากเราเมื่อใช้ซิมโทรศัพท์จาก dtac ยิ่งไปกว่านั้นยังเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยได้พัฒนาตนเองในหลากหลายด้าน ยกตัวอย่างเช่น รายได้ ภาษา และภาพรวมเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวคึกคักเกิดการกระจายได้เข้าไปยังทุกท้องถิ่นอย่างทั่วถึง ที่สำคัญสอดรับกับแผนพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีหรือไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างเด่นชัด

การถูกปลูกฝังให้เป็นนักวิจัยอยู่เสมอจากทางครอบครัวและการศึกษาแบบวิทยาศาสตร์ ทำให้ผู้บริหารหนุ่มวัย 28 ท่านนี้ ไม่หยุดนิ่งในการค้นคว้าและคิดค้นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นและมีมาก่อนในตลาด เพราะนอกจากความแปลกใหม่ นี่ยังเป็นแนวทางสู่การสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ ควบคู่ไปกับทัศนคติเชิงบวก การใส่ใจและทำความเข้าใจบริบทโดยรอบ ตลอดจนการแปรเปลี่ยนความชื่นชอบเป็นพลังในการก้าวเดินและลงมือปฏิบัติสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจด้วยการเป็นสื่อกลางในการสร้างความสุขสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยไปยังท้องถิ่นต่างๆ อย่างทั่วถึง นี่คือความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ที่ชื่อ “คุณอมรเชษฐ์ จินดาอภิรักษ์”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560