เฟอร์รารี่ 488 สไปเดอร์ หาถนนได้ก็ไปให้สุด

24 ก.พ. 2560 | 10:00 น.
มันม่วนซื่น ชื่นใจครับกับการลองขับ“เฟอร์รารี่” ในทริปล่าสุดที่ คาวาลลิโน มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เชิญไปถึงจังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมกิจกรรม Esperienza Ferrari in Chaing Rai 2017

TP37-3238-2 งานนี้เขาเชิญกลุ่มลูกค้ามุ่งหวัง(ที่จะซื้อ) และสื่อมวลชนในอาเซียน โดยเตรียม 488 จีทีบี (488 GTB) ตัวถังคูเป้ และ 488 สไปเดอร์ (488 Spider) ตัวถังเปิดประทุน เอาไว้ให้เปิดประสบการณ์การขับขี่แบบเต็มเหนี่ยวตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงตอนเย็น โดยแวะหลายสถานที่ดังๆ ชมแลนด์มาร์คสำคัญๆของเชียงราย ทั้ง ดอยแม่สลอง ไร่ชาฉุยฟง วัดร่องขุน และไปปิดท้ายที่สิงห์ปาร์ค ซึ่งกำลังจัดงานบอลลูน นานาชาติอยู่พอดี

....ออแกไนซ์เซอร์และทีมคาวาลลิโน ถือว่าอยู่เป็นรู้งานครับ เพราะธุรกิจเฟอร์รารีในไทย ก็เป็นการร่วมทุนระหว่างตระกูล “ภิรมย์ภักดี” เจ้าของเครื่องดื่มตราสิงห์ และตระกูล “อยู่วิทยา” แห่งอาณาจักรกระทิงแดง

TP37-3238-3 สำหรับโมเดล 488 ถือเป็นตัวแทนของ 458 ซึ่งเมืองไทยนำรุ่น “จีทีบี” มาเปิดตัวตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2558 จากนั้นปลายปีเดียวกันจึงตาด้วยรุ่น “สไปเดอร์” และก็เป็นไปตามสไตล์เฟอร์รารีที่เปิดตัวก่อน(รถเดโมออนทัวร์ทั้งภูมิภาค) แต่กว่าจะมีรถส่งมอบให้ลูกค้าต้องรออีกร่วมปี

อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ กลายเป็นผลดีต่อลูกค้าคนไทย เพราะคาวาลลิโน เขาขายรถป็นสกุลเงิน “ยูโร” โดยจะคิดเรตจ่ายเงินกันวันที่รถออกมาจากท่าเรือ ดังนั้นตอนเปิดตัวเมื่อปี 2558 ค่าเงินอยู่ระดับ 40 บาทต่อ 1 ยูโร แต่ปัจจุบันอ่อนลงมาเป็น 38 บาทต่อ 1 ยูโร ซึ่งราคาลดลงไป 1-2 ล้านบาทเลยทีเดียว(เมื่อเทียบกับราคาวันที่ประกาศเปิดตัว)
โดย 488 จีทีบี ประกาศขายในราคา 6.0 แสนยูโร คิดเรตปัจจุบันก็ 22.8 ล้านบาท ส่วน 488 สไปเดอร์ 6.6 แสนยูโร ประมาณ 25 ล้านบาท ถือเป็นความจริงใจโปร่งใสของ คาวาลลิโนเขาละครับ

TP37-3238-4 สำหรับ 488 เห็นว่าเป็นเฟอร์รารีรุ่นแรกที่มากับระบบ Keyless คือพกกุญแจไว้กับตัว แล้วกดปุ่มสตาร์ต/ดับเครื่องยนต์ที่ฝังอยู่บนพวงมาลัยได้ทันที (แต่การล็อกและปลดล็อกต้องกดบนรีโมทอยู่ดี) ต่างจากรุ่นเดิมๆที่ยังไงก็บังคับเสียบกุญแจครับ

ด้วยความเป็นซูเปอร์คาร์พลังแรง เฟอร์รารีพยายามจัดปุ่มควบคุม-สั่งงานทุกอย่างมาอยู่บนพวงมาลัย ทั้ง ปุ่มสตาร์ท/ดับเครื่องยนต์ ควบคุมสัญญาณไฟเลี้ยว ปุ่มปรับความแข็ง-อ่อนของโช้กอัพ การทำงานของใบปัดน้ำฝน รวมถึงเลือกโหมดการขับขี่ ไล่ตั้งแต่ ขับบนถนนเปียก ขับแบบสปอร์ต (เป็น Default หลังสตาร์ทเครื่อง) โหมดเรซ และอีก 2 โหมดที่ปิดระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการทรงตัว

TP37-3238-6 หลังพวงมาลัยยังมีแพดเดิลชิฟท์ขนาดใหญ่ ใช้ควบคุมให้เป็นเกียร์ว่าง(กดซ้าย-ขวาพร้อมกัน) เกียร์เดินหน้า หรือเล่นเปลี่ยนเกียร์เอง (แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ถอยหลังจะมีปุ่มกดอยู่ตรงคอนโซลกลาง)

หลังเรียนรู้การทำงานของปุ่มควบคุมและการสั่งงานแล้ว ก็ได้ฤกษ์ออกตัวไปสัมผัสลมหนาวครับ ทันทีที่เหยียบแป้นเบรกและกดปุ่มสีแดงบนพวงมาลัย เสียงเครื่องยนต์วี8 ที่ได้รับรางวัล Engine or the Year 2016 ก็ดังขึ้นมาระดับหนึ่ง และจะไปไพเราะคำรามพร้อมเสียงท่อไอเสียอีกครั้ง ตอนเร่งความเร็วแบบกะทันกัน ได้อารมณ์กระแทกกระทั้นอยากะกระหน่ำคันเร่งให้ลึกลงไปอีก

TP37-3238-5 เครื่องยนต์ วี8 ขนาด 3.9 ลิตร เทอร์โบคู่ วางกลางลำ ให้กำลังสูงสุด 670 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 760 นิว-ตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด สัมผัสอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 3 วินาที พุ่งจริง ฉับไวแบบหาตัวจับยาก การควบคุมในโค้งเฉียบคมเด็ดขาด การกระจายน้ำหนักหน้าหลังสมดุล แต่ยังแอบเหลืออาการดิ้นๆเล็กน้อยถ้าคุณพยายามกดคันเร่งให้ลึกและต่อเนื่อง หรือกรณีรถวิ่งเอื้อยๆแล้วกดคันเร่งเต็มๆ รถยังมีการการสะบัดเล็กๆ ให้อะดรีนาลีนพุ่ง 488 สไปเดอร์ ขับได้ไปสุดทุกถนน(ถ้ามีถนน) แต่หากต้องการขับแบบชิวๆ เรื่อยๆ ก็ถือเป็นรถควบคุมสบาย เกียร์ดูแลคลัทช์จัดการเปลี่ยนให้อัตโนมัติ และเปลี่ยนในรอบไม่สูงเสียด้วย ซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์รวดเร็วและลากรอบไม่สูงหรือไม่เกิน 3,000 รอบ (ย้ำว่าขับแบบเรื่อยๆ)

รวบรัดตัดความ....เป็นเรื่องของความหลงใหลในแบรนด์ที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ หลายรุ่นที่ผลิตออกมาใช่ว่ามีเงินแล้วเป็นเจ้าของได้ เหล่านี้ครับทำให้เกิดความลึกซึ้ง จนกลายเป็นคุณค่าที่หาตัวจับได้ยากอันต่างจากรถยนต์สปอร์ตแบรนด์อื่นๆในโลก 488 สไปเดอร์ อาจจะไม่ใช่ตัวแรงสุดของค่าย นั่งสบายก็ไม่ใช่ แต่การวางเครื่องยนต์ วี8 กลางลำ นั่งได้สองคน พร้อมรีดสมรรถนะออกมาได้อย่างกระปรี้กระเปร่า ยังรักษาสเน่ห์ของเฟอร์รารี่ได้เต็มเปี่ยม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,238 วันที่ 23 - 25 กุมภาพันธ์ 2560