เวียดนามไม่สน’ทีพีพี’ล่ม เดินหน้าดันเศรษฐกิจ

24 กุมภาพันธ์ 2560
เวียดนามมีโมเดลเศรษฐกิจที่ขยายตัวจากการส่งออก ทำให้ดูเหมือนว่าการทำแท้ง ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ จะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจเวียดนามแต่มีรายงานว่ารัฐบาลฮานอยยังมองอนาคตสดใส

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่ารัฐบาลเวียดนาม เร่งขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่มีข้อตกลงการค้าอยู่แล้วเพื่อสร้างโอกาสการส่งออกให้กับสินค้าของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศญี่ปุ่น

นายเหวียนดิ๊ก เกียน (Nguyen DucKien) รองประธานรัฐสภาเวียดนามและรองประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ‘การยกเลิกข้อตกลงทีพีพี จะเป็นแรงผลักให้เราขยายตัวเข้าไปในตลาดอื่น ซึ่งยังมีโอกาสในการส่งออกได้อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในเอเชียอาคเนย์และประเทศที่เรามีข้อตกลงทางการค้าอย่างเช่นญี่ปุ่น’

ก่อนหน้านี้ เวียดนามหวังว่า ข้อตกลงทีพีพี จะทำให้เวียดนามสามารถส่งสินค้าไปตลาดสหรัฐอเมริกาเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง และทีพีพี จะเป็นแรงบวกต่อการส่งออกของประเทศเป็นอย่างมากเนื่องจาก สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์และรองเท้า

บลูมเบิร์กรายงานว่า แม้ยังไม่มีข้อตกลงทีพีพี การส่งออกของเวียดนามไปตลาดสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวในช่วง 5 ปี โดยในปี 2559 มูลค่าส่งออกไปสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 38,500 ล้านดอลลาร์ ( ประมาณ1.386 ล้านล้านบาท)

บลูมเบิร์ก ระบุว่า แม้ไม่มีข้อตกลงทีพีพี สหรัฐอเมริกาจะยังคงเป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าดังกล่าวต่อไปอีกหลายปี

นางยูจีเนียวิคโตริโน (Eugenia Victorino) เศรษฐกรของบริษัทออสเตรเลียแอนด์นิวซีแลนด์แบงกิ้งกรุ๊ป สาขาสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์กว่า “ก่อนที่นายทรัมป์ จะยกเลิกข้อตกลงทีพีพี เวียดนามกระจายความเสี่ยงในเรื่องการค้า โดยเร่งเรื่องการทำข้อตกลงการค้ากับหลาย ๆ ประเทศอยู่แล้ว”

เวียดนามทำข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับ 9 ประเทศซึ่งรวมทั้ง ประชาคมยุโรป อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอยู่ระหว่างการเจรจาทำข้อตกลงกับอีก 7 ประเทศ นายเหวียน วัน ต๋วน (Nguyen Van Tuan) เลขาธิการสมาคมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนาม กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า “เราไม่ห่วงเรื่องยกเลิกทีพีพี ขณะนี้เรากำลังดูว่าเราจะส่งเสริมการส่งออกไปตลาดยุโรปได้อย่างไร”

ในขณะเดียวกันทางด้านการเมืองระหว่างประเทศนายเหวียน ซวน ฟุก (Nguyen Xuan Phuc) แสดงท่าทีว่ายังไม่อยากให้ข้อตกลงทีพีพี ล้มเลิกไปเสียทีเดียว ยังอยากให้ข้อตกลงยังอยู่แม้จะไม่อยู่ในรูปแบบเดิม เพราะข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจของเวียดนามได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,238 วันที่ 23 - 25 กุมภาพันธ์ 2560