ในที่สุดคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มีมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริหารองค์กร แต่งตั้งให้ นายศุภชัย เจียรวนนท์ นั่งตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร (Chairman Of the Executive Committee) จากเดิมนั่งตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานคณะผู้บริหาร
นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งให้ นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) รับผิดชอบงานด้านการพาณิชย์ และนายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม)รับผิดชอบงานด้านปฏิบัติการ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560
เหตุผลหลัก ๆ ที่ กลุ่มทรู ต้องปรับโครงสร้างครั้งนี้ เนื่องจาก “ศุภชัย” ต้องไปนั่งตำแหน่ง ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ ซีพี แทน นายธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งเป็นไปตามคาดว่า เจ้าสัวธนินท์ จะลดบทบาทเพื่อให้ทายาทรุ่นที่ 3 มาสานต่อธุรกิจ
ลั่น! ยังกำหนดนโยบาย
แม้ว่า ทรู จะปรับโครงสร้างบริหารงาน หากแต่ นายศุภชัย เจียรวนนท์ประธานคณะผู้บริหาร ของ ทรู เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นไปตามที่ได้มีการวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพราะขณะนี้กลุ่มทรูมีความแข็งแกร่งทั้งด้านการเงิน สินค้าบริการ คุณภาพและความครอบคลุมของเครือข่าย และมีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเติบโตและก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
“ผมในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท จะยังคงร่วมกำหนดทิศทาง นโยบายและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทรูต่อไป ในขณะเดียวกันการดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารซีพีของผมในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนและเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจระหว่างกลุ่มทรูกับธุรกิจในเครือซีพีให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทรูในอนาคตต่อไป”
ตั้ง “เอ็มดี” (ร่วม)
ศุภชัย ยังกล่าวต่ออีกว่า การปรับโครงสร้างและการสืบทอดตำแหน่งที่ประกาศในครั้งนี้ มีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มทรู ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้ง 2 คน นี้ต่างเป็นแม่ทัพที่แข็งแกร่ง มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานที่สำคัญของกลุ่มทรู ทั้งยังร่วมบริหารงานผ่านช่วงวิกฤติต่างๆขององค์กรมาโดยตลอด จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนและนำพากลุ่มทรูก้าวเป็นองค์กรที่สร้างผลกำไร และเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ยันแบ่งหน้าที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ จะปรับตำแหน่งจากรองประธานคณะผู้บริหาร เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านการพาณิชย์ โดยดูแลงานในฐานะผู้บริหารสูงสุดด้านธุรกิจพาณิชย์ทั้งหมด ตั้งแต่ ธุรกิจโมบาย บรอดแบนด์ทรูวิชั่นส์ ธุรกิจคอนเวอร์เจนซ์ รวมถึงธุรกิจรีเทล (ค้าปลีก)
สำหรับ นายวิเชาวน์ ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มทรูมานานกว่า 25 ปี และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงข่ายสื่อสารอันเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการขยายธุรกิจหลักของกลุ่มทรู รวมทั้งมีความสามารถในการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำจากทั่วโลก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจด้านสินค้าและบริการ เพิ่มศักยภาพของบริษัท ในการแข่งขันระดับภูมิภาค
ขณะที่ นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านปฏิบัติการ จะได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านปฏิบัติการ โดยจะควบคุมดูแลงานบริหารจัดการองค์กรทั้งหมด ซึ่งรวมถึงงานด้านเครือข่าย ระบบสารสนเทศ และบริการลูกค้า
นายอติรุฒม์ร่วมงานกับกลุ่มทรู มากว่า 19 ปี ได้รับมอบหมายให้ดูแลธุรกิจหลากหลาย และเป็นผู้ร่วมบุกเบิกธุรกิจใหม่ๆ อาทิ วีพีซีที ทรูมันนี่ รวมทั้งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีในการบริหารจัดการและสร้างเป็นนวัตกรรมบริการเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล
“โครงสร้างใหม่ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวที่สำคัญในการยกระดับองค์กร เตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิตอลแพลตฟอร์ม และดิจิตอลมีเดียอย่างแท้จริง โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาที่ชัดเจนยิ่งขึ้นทั้งการสร้างผลกำไรเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งการเพิ่มศักยภาพระบบปฏิบัติการให้แข็งแกร่งเต็มกำลัง เพื่อขับเคลื่อนกลุ่มทรูจากการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมสู่ผู้ให้บริการดิจิตอลที่เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรในอนาคต” นายศุภชัย กล่าวสรุป
การปรับโครงสร้างนี้ “ศุภชัย” ยังเป็นผู้กำหนดนโยบายเหมือนเดิม โดยเป้าหมายการปรับครั้งนี้ กลุ่มทรู ต้องการยกระดับองค์กร เตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิตอลแพลตฟอร์ม และดิจิตอลมีเดียอย่างแท้จริง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,238 วันที่ 23 - 25 กุมภาพันธ์ 2560