ตลาดบี/อีไม่มีเรทติ้งยังคงอึมครึมอยู่ ลิสซิ่งแห่ระดมเงิน รองรับไม่ต่ออายุตั๋ว และเตรียมไว้ขยายธุรกิจ ลีซอิทตัดสินใจปันผลเป็นหุ้นครั้งแรก เมืองไทยฯขายหุ้นกู้ 2,600 ล้าน ศรีสวัสดิ์ฯออก 4,000 ล้าน
นาย สมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิทฯ (LIT) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีการจ่ายปันผลเป็นหุ้นครั้งแรกนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทขึ้นมา โดยจ่ายในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ1หุ้นใหม่ และให้สิทธิซื้อวอร์แรนต์สัดส่วน5ต่อ 4ในราคาหน่วยละ 2.50 บาท ด้วย ผลตอบแทนโดยรวมสูงกว่านโยบายจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งในปี 2559 มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 0.50 บาท รอบนี้ต้องให้จ่ายหุ้นละ 0.25 บาท
“บริษัทจ่ายปันผลเป็นหุ้น นอกจากเพื่อต้องการตอบแทนผู้ถือหุ้นแล้ว ยังเตรียมเงินสดที่ใช้จ่ายปันผล 50 ล้านบาท ไว้ขยายธุรกิจและเตรียมความพร้อมไว้เพราะไม่รู้ว่าตลาดบี/อีจะอึมครึมไปอีกนานแค่ไหน ซึ่งลิสอีทเป็นผู้ออกบี/อีไม่มีเรทติ้งรายหนึ่ง “ นายสมพลกล่าว
ทั้งนี้ ยอดบี/อีเมื่อสิ้นปี2559อยู่ที่ 625 ล้านบาท ตอนนี้เหลือประมาณ 500 ล้านบาท แสดงว่าไม่ต่ออายุประมาณ 100 ล้านบาท ขณะที่ส่วนใหญ่ยังมีการต่ออายุ แสดงว่านักลงทุนยังมีการแยกแยะว่าผู้ออกเป็นใคร และยังมั่นใจที่จะลงทุนตั๋วของบริษัทต่อไป โดยยอมรับว่าผู้ซื้อบางราย ร้องขอหลักประกันบ้าง แต่บริษัทไม่มีให้ ส่วนเงินจากบี/อี ที่มีอายุ 3 เดือนและ6 เดือนไปใช้กับสินเชื่อ แฟคตอริ่งที่มีอายุ 60 วัน
นาย ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกหุ้นกู้จำนวน 2,600 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.70%ต่อปี เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่จองซื้อมากกว่าจำนวนที่เสนอขาย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อทิศทางธุรกิจของบริษัทที่เติบโตแข็งแกร่ง เป็นผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และนาโนไฟแนนซ์เบอร์ 1 ของเมืองไทย
“ เราออกหุ้นกู้เพื่อนำมาปล่อยสินเชื่อระยะสั้น ในปี 2559 ตั้งเป้าติบโต 50% และเตรียม เปิดสาขาเพิ่ม 600 สาขา ส่วนบี/อีของบริษัท ก็มีการไถ่ถอนบ้าง แต่ไม่มีปัญหาอะไร เราเตรียมความพร้อมไว้แล้ว”นายชูชาติกล่าว
นางสาว ดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD กล่าวว่า บริษัทเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 4,000 ล้านบาทแล้วเมื่อปบายเดือนมกราคมที่ผ่านมา นำเงินครึ่งหนึ่งนำไปชำระหนี้ ส่วนที่เหลือนำไปขยายธุรกิจ โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และวงเงินสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์อีก ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท มารองรับการเติบโตในอนาคต และยังมีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกล็อตหนึ่งหลังปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้งเรียบร้อยแล้ว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,237 วันที่ 19 - 22 กุมภาพันธ์ 2560