เบนซ์อมรรัชดากางแผนรุก เสริมทัพธุรกิจ-อัดงบการตลาดสู้ศึก

22 ก.พ. 2560 | 13:00 น.
จากจุดเริ่มต้นธุรกิจในการจำหน่ายรถเบนซ์มือสองภายใต้ชื่อ “เบนซ์อมรรัชดา” ต่อมามีการขยับขยายเพิ่มแบรนด์รถหรูด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ “บีเอ็มดับเบิลยู” ในชื่อบริษัท “อมร เพรสทีจ” และยังมีรถบีเอ็มดับเบิลยูมือสองเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในชื่อ “บีเอ็ม อมร วารันตี” ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นตัวแทนจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์อิตาเลี่ยนอย่างเวสป้า ในชื่อ “อมรรัชดา” และน้องใหม่ล่าสุดในธุรกิจจำหน่ายรถคือ “อมรรัชดา มอเตอร์”ที่จำหน่ายรถแบรนด์ซูบารุ

ขณะที่ธุรกิจอื่นๆที่อยู่ภายในร่มเงาก็มีทั้ง “เอเอ็มอาร์ ออโต้ พาร์ท แอนด์ เซอร์วิส” ที่เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ และมีบริษัท เอวี (บางกอก)ฯ ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ,โปรดักชัน เฮาส์,อีเวนต์ ออร์แกไนเซอร์ และอีกหนึ่งธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมาคือ ตัวแทนจำหน่ายประกันภัยทุกประเภท ภายใต้ชื่อ “เอเอ็มจี อินชัวร์ โบรกเกอร์”

ทั้งหมดนี้คือธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัท อมรรัชดา กรุ๊ปฯ ที่มีหัวเรือใหญ่อย่าง วรรณภา ตั้งบรรยงค์ เป็นผู้นำทัพ ซึ่งโมเดลธุรกิจที่หลากหลายจะตอบสนองลูกค้าได้อย่างไร และมีแผนงานที่จะขับเคลื่อนไปในทิศทางไหนนั้น คุณวรรณภา จะมาเป็นผู้บอกเล่าให้เห็นภาพที่ชัดเจน

 เป้าหมายของโมเดลธุรกิจ

เรามีเป้าหมายการให้บริการที่ครบวงจร โดยลูกค้าที่มาอมรรัชดา กรุ๊ป จะมีทางเลือกตั้งแต่ รถใหม่ อย่างบีเอ็มดับเบิลยู ,ซูบารุ -รถมือสอง อย่าง เบนซ์อมร ,บีเอ็มอมร วารันตี ,รถจักรยานยนต์ อย่างเวสป้า ,ศูนย์บริการหลังการขาย และยังมีโบรกเกอร์ประกันภัยในการสนับสนุนลูกค้า เรียกว่าลูกค้ามาทั้งครอบครัวก็ได้ครบทุกไลฟ์สไตล์

 การตอบรับของลูกค้า

ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเพิ่มเอาท์เลทของบีเอ็มดับเบิลยู ที่ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และการเพิ่มแบรนด์ใหม่อย่างซูบารุ โดยปี 2559 มีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท เติบโต 5-7% แบ่งสัดส่วนรายได้ออกเป็น ยอดขายจากกลุ่มรถใหม่ 60 % ,รถมือสอง 15 % ,ประกันภัย 20 % และอาฟเตอร์เซลส์ 5 % ซึ่งธุรกิจที่เติบโตในปีที่ผ่านมาคือ การขายรถใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16%

ส่วนซูบารุ มียอดขาย 50 คัน,เวสป้า ทำยอดขายกว่า 300 คัน ด้านธุรกิจรถมือสองมีการขาดทุน ตัวเลขลดลงกว่า 10 % หรือทำยอดขายได้ 100 คัน ส่วนธุรกิจประกันภัย ที่เพิ่งจะทำตลาดในช่วงกลางปีสามารถทำรายได้กว่า 55 ล้านบาท

รายได้ในปี 2560

ในปี 2560 คาดว่าจะทำได้ 2,300 ล้านบาท เติบโต 15% โดยธุรกิจที่จะเพิ่มรายได้ในปีนี้คือ ประกันภัย เพราะมีโปรเจคใหญ่ อาทิ รถฟลีต ,รถหัวลาก,รถเพื่อการขนส่ง ที่จะเข้ามาในเร็วๆนี้ จึงตั้งเป้าของธุรกิจประกันภัยไว้กว่า 500 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู จะเติบโต 10% ซึ่งโตน้อยกว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีจำนวนซ่องซ่อมน้อย และมีการก่อสร้างทำถนน ส่วนซูบารุในปีนี้คาดว่าจะทำได้ 200 คัน ด้านยอดขายรถมือสอง มีการเติบโต โดยตั้งเป้าไว้ที่ 150 คัน

 แผนลงทุนเพิ่มเติม

ในปีนี้วางงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาทสำหรับธุรกิจทั้งกรุ๊ป เฉพาะงบการตลาดจะอยู่ที่ 20 ล้านบาท โดยจะเน้นการโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้า -การออกอีเวนต์ใหญ่ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายนที่จะถึงนี้จะเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2017 และในวันที่ 3 – 9 เมษายนจะเข้าร่วมงานบางกอก ยูดส์ คาร์โชว์

นอกจากนั้นแล้วจะมีการเข้าหาลูกค้า นำรถไปให้ลูกค้าลอง เนื่องจากที่ตั้งของโชว์รูมอยู่บนถนนเส้นรัชดา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ทำให้ลูกค้าบางส่วนหายไป และในไตรมาส 3 จะมีการทำดิจิตอล เทคโนโลยี และยังมีแผนจะสร้างอู่สี โดยความคืบหน้าในตอนนี้กำลังมองหาพื้นที่ย่านรัชดา คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนช่วงกลางปีนี้

 วิเคราะห์ตลาดรถ

ตลาดรถยนต์รวมในปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี ถ้าดูจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ เช่นเดียวกับรถมือสองที่เชื่อว่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาคือการเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าจะมีผลมากน้อยแค่ไหนกับเศรษฐกิจโลก ส่วนตลาดรถหรู-พรีเมียม คาดว่าจะเติบโต เฉพาะแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูปีนี้จะมีการเปิดตัวรถใหม่ไม่ว่าจะเป็น เอ็กซ์ 3 ,ซีรีย์ 5 ใหม่ และโมเดลรถใหม่ในปี 2018

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,237 วันที่ 19 - 22 กุมภาพันธ์ 2560