ดันไทย ‘เวดดิ้ง เดสติเนชัน’ ระดับโลก ชิงเค้ก8หมื่นล.ดอลลาร์สหรัฐฯ

17 ก.พ. 2560 | 03:00 น.
จากภาพรวมของอุตสาหกรรมการแต่งงาน ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง กล่าวคือ มีมูลค่ารวมในปัจจุบันอยู่ที่ 2.98 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่ารวมของการจัดงานแต่งงานในต่างประเทศอยู่ที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) มองโอกาสที่จะชิงส่วนแบ่งตลาดนี้ โดยหวังว่าการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน“Destination Wedding Planner Congress 2017”จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ไทยเป็นเวดดิ้ง เดสติเนชันระดับโลก ที่จะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายด้านนี้ในไทยเพิ่มขึ้นอีก 10% ในปีหน้า

 450รายร่วมเจรจาธุรกิจ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เผยว่า การที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน“Destination Wedding Planner Congress 2017”ในเดือนพฤษภาคมนี้ จ.ภูเก็ต จัดเป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับตลาดเวดดิ้ง ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยเป็นลักษณะของการจัดแบบ Trade-to-Trade Exhibition ที่ในแต่ละปีจะมีผู้ซื้อและผู้ขาย ในกลุ่มเวดดิ้ง ออร์แกไนเซอร์ โรงแรม รีสอร์ต ระดับ 5 ดาวและบริษัทนำเที่ยวจากนานาชาติเดินทางเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 450 ราย ซึ่งที่ผ่านมาททท.ได้นำผู้ประกอบการจากประเทศไทยเดินทางเข้าร่วมงานนี้มาแล้ว 3 ครั้ง

ดังนั้นการที่ไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานดังกล่าวในปีนี้ จะยิ่งทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายสำหรับการจัดงานงานแต่งงานและฮันนีมูนในระดับโลก ซึ่งก็ตรงกับแผนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของททท.ที่มองว่าตลาดนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีการใช้จ่าย โดยคู่แต่งงานต่างชาติจะมีการใช้จ่ายประมาณ 5-20 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งคู่แต่งงานที่นิยมเดินทางมาจัดงานแต่งงานในไทย คือ ตลาดอินเดีย ราว 400 คู่ต่อปี และฮ่องกง และยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดยุโรปและอเมริกา โดยตลาดยุโรปส่วนใหญ่จะเป็นการขยายตัวของกลุ่มคู่รักที่เข้ามาฮันนีมูนในไทย
ดังนั้นททท.ก็คาดหวังว่าการจัดงาน“Destination Wedding Planner Congress 2017”ในไทยที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการแสดงศักยภาพและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นเวดดิ้ง เดสติเนชัน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูง รวมถึงการปรับโครงสร้างการทำการตลาดของททท.ไปสู่การเป็นควอลิตี เลเชอร์ เดสติเนชันอีกด้วย

 ดัค่าใช้จ่ายเวดดิ้งโต 10 เท่า

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา กล่าวว่าเนื่องจากเดือนพฤษภาคมนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดงาน“Destination Wedding Planner Congress 2017” ซึ่งจะมีการเชิญ เวดดิ้ง แพลนเนอร์ชั้นนำจากทั่วโลกมาเวิร์กช็อปที่ จ.ภูเก็ต ร่วมกับแพลนเนอร์ในเมืองไทย หรือโรงแรมต่างๆในเมืองไทย เพื่อเจรจาธุรกิจร่วมกันอีกทั้งเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์เวดดิ้ง เดสติเนชันของไทยให้ชัดเจนขึ้นในเวทีโลกโดยททท.คาดว่ารายจ่ายคู่เวดดิ้งในการจัดงานที่เมืองไทยน่าจะเติบโตราว 10% ในปี2561

เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จะมีการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ตั้งแต่ 3 -10 เท่าขึ้นไป โดยเวดดิ้ง มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 10 เท่า เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแต่งงานบ้านเรา มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 5 – 20 ล้านบาทเฉลี่ยต่อคู่

 ต่อยอดเวดดิ้ง เดสตินี่

อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ ททท.ได้เปิดตัวโครงการไทยแลนด์ เวดดิ้ง เดสทินี โดยได้เชิญคู่แต่งงาน 9 คู่ จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เช็ก ออสเตรเลีย อเมริกา และบราซิล ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ บล็อกเกอร์ ,นักธุรกิจ, นักแสดงชื่อดังชาวฝรั่งเศส, มีส เช็ก รีพับลิค 2016 มาจัดงานแต่งงานใน 4 พื้นที่ประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย , ภูเก็ต, กระบี่, สมุย ซึ่งใน 4 พื้นที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมแลธรรมชาติความโรแมนติกของการจัดงานแต่งงานที่แตกต่างกัน การจัดงานนี้จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างภาพลักษณ์ในเรื่องของเวดดิ้ง เดสติเนชันของไทย

รวมทั้งแผนในการโปรโมตธุรกิจนี้ให้เกิดการขยายพื้นที่การจัดงานแต่งงานไปยังจังหวัดต่างๆโดยใช้การจัดงานใน 4 พื้นที่ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นแบบอย่างในการพัฒนา เพื่อต่อยอดให้เกิดการจัดงานไปยังพื้นที่อื่นๆ อาทิ พื้นที่ธรรมชาติที่สวยงาม อย่างภาคเหนือมีภูเขาเป็นจุดขาย อย่างเมืองหลักๆ เชียงใหม่ , เชียงราย ส่วนภาคอีสานก็จะเลือกพื้นที่มีศิลปวัฒนธรรม แต่ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเวดดิ้ง แพลนเนอร์ท้องถิ่นในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องของโรงแรม การจัดเลี้ยง
ทั้งหมดล้วนเป็นการเจาะตลาดเวดดิ้ง เพื่อชิงโอกาสในเวทีโลก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,236 วันที่ 16 - 18 กุมภาพันธ์ 2560