มติคณะรัฐมนตรี 14 กุมภาพันธ์ 2560  

14 ก.พ. 2560 | 09:16 น.
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล  พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติที่สำคัญดังนี้

เท 8 พันล.ให้ กฟภ.พัฒนาระบบไฟฟ้า 4 เมืองนำร่อง 

ที่ประชุม ครม.(14 ก.พ.60) อนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)  ดำเนินโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ระยะที่ 1 ได้แก่ เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครราชสีมา เทศบาลเมืองพัทยา และเทศบาลเมืองหาดใหญ่ วงเงินลงทุนรวม  11,668.56  ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ในประเทศ จำนวน 8,748.56 ล้านบาท  และเงินรายได้ กฟภ. จำนวน 2,920 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ และให้ มท. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย

จ้าง “บีอีเอ็ม” เดินรถ 918 ล.ช่วงเตาปูน-บางซื่อ 

ที่ประชุม ครม.(14 ก.พ.60) มีมติเห็นชอบข้อตกลงการจ้าง และร่างสัญญาจ้างเพื่อดำเนินการว่าจ้างบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ติดตั้งระบบรถไฟฟ้า จัดการเดินรถไฟฟ้า และบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน – บางซื่อ ในวงเงินค่าจ้างรวม 918,488,046 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยให้รัฐบาลเป็นผู้รับภาระค่าจ้างดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ

ทั้งนี้ ในกรณีที่ใช้เงินกู้ดำเนินการ ให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ในประเทศที่เหมาะสม วิธีการให้กู้ต่อและค้ำประกันเงินกู้ และให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยตามความเห็นของสำนักงบประมาณ รวมทั้งเห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยกู้เงินในกรอบวงเงินดังกล่าวได้ตามมาตรา 75 (3)  แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 และให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน – บางซื่อ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือนสิงหาคม 2560

หนุน 143 ล. ให้ ททท.เดินหน้า The Michelin Guide Thailand

ที่ประชุม ครม.(14 ก.พ.60) เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงการ The Michelin Guide Thailand ในปี 2560-2564 จำนวน 4,100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 143,500,000 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามที่ กก. เสนอ  และให้ กก. โดย ททท. รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ไปดำเนินการต่อไป โดยให้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้ครบถ้วน โดยในการเจรจาทำสัญญากับบริษัท มิชลินฯ สมควรระบุในสัญญาให้ชัดเจนเกี่ยวกับการขยายพื้นที่จัดโครงการฯ ในจังหวัดท่องเที่ยวหลักอื่น ๆ นอกเหนือจากกรุงเทพมหานคร ซึ่ง สลค. เห็นว่า เป็นประโยชน์ สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริม การท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรองของรัฐบาล รวมทั้งให้ ททท. จัดทำแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สนับสนุน หรือขยายผลจากการให้การสนับสนุนโครงการฯ และทิศทางของโครงการฯ ภายหลังสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี และนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป

พร้อมกันนี้ให้ติดตามผลการดำเนินงานและประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการฯ อย่างต่อเนื่องทุกปี และรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย ทั้งนี้ ในการทำสัญญาควรต้องมีข้อกำหนดให้ ททท. สามารถขอยกเลิกการดำเนินโครงการก่อนครบกำหนดระยะ 5 ปีได้ หากผลการประเมินรายปีไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาหรือมีเหตุอันควรอื่นใด โดยแจ้งให้บริษัท มิชลินฯ ทราบล่วงหน้า โดย ททท. ไม่ต้องเสียค่าปรับหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ

สลับเก้าอี้ผู้ว่าฯสมุทรสาคร-ผู้ว่าฯอุทัย 

ที่ประชุม ครม.(14 ก.พ.60) อนุมัติแต่งตั้ง นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอุทัยธานี สำนักงานปลัดกระทรวง พร้อมกันนี้ได้มีมติโยก นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอุทัยธานี สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

ตั้งข้าราชการพลเรือนกระทรวงศึกษาฯ

ที่ประชุม ครม.(14 ก.พ.60) มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ดังนี้

1. นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 2. นายกฤตชัย อรุณรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวง 3. นายพะโยม ชิณวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวง และ4. นางสุจิตรา พัฒนะภูมิ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน

ตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกก.บตท.

ในวันเดียวกัน ครม.แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (คณะกรรมการ บตท.) แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ลาออก จำนวน 2 คน และแต่งตั้งเพิ่มเติม จำนวน 1 คน ดังนี้ 1. นายเกษม แพใหญ่ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน กรรมการ แทน นายสมเกียรติ สินสุนทร ที่ลาออก 2. นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน (เป็นบุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจตามประกาศกระทรวงการคลัง) กรรมการ แทน นายนิวัฒน์  กาญจนภูมินทร์ ที่ลาออก และ3. นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการ เพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป

ทั้งยังเห็นชอบให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จำนวน 5 คน ดังนี้ 1. พลตรี ธารา พูนประชา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ 2. นายชินชัย ชี้เจริญ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมสงเคราะห์ 3. นางสาวศุภมาศ พยัฆวิเชียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน 4. นายพิทยา จินาวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 5. นายชนะพล มหาวงษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป