โฟล์คฯอ่วมซํ้า พิษภาษีทรัมป์

12 ก.พ. 2560 | 10:00 น.
โฟล์คสวาเกน ผู้ผลิตรถยนต์ค่ายใหญ่จากเยอรมนี ส่อเจอศึกหนักอีกระลอกหลังยอมจ่ายเงินกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 8.3 แสนล้านบาท ยุติคดีฉาวเกี่ยวกับการโกงผลตรวจวัดระดับการปล่อยไอเสียจากรถยนต์เครื่องดีเซลของบริษัทที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยศึกใหญ่ที่ว่ามีเหตุจากรถยนต์รุ่นยอดนิยมในตลาดสหรัฐฯที่โฟล์คฯหวังใช้กู้ภาพลักษณ์และดันยอดขาย คือรุ่นเจ็ตตา และบีเทิล ล้วนผลิตในเม็กซิโก ที่หมิ่นเหม่จะถูกเรียกเก็บภาษีข้ามชายแดน หรือ border tax ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะจัดหนัก เก็บในอัตราสูงสุดได้ถึง 35%

ดีลเลอร์ของโฟล์คฯยอมรับว่า ปัจจุบันราคาขายรถยนต์โฟล์คสวาเกนในตลาดสหรัฐฯ ก็สูงกว่ารถรุ่นเทียบเคียงกันของผู้ผลิตค่ายญี่ปุ่นอย่างฮอนด้านิสสัน และโตโยต้า อยู่แล้ว โดยราคาแพงกว่าคู่แข่งตกคันละ 2,000-3,000 ดอลลาร์ ทำให้คิดไม่ออกเลยว่าถ้าเจอกำแพงภาษีแล้วต้องปรับราคาขายขึ้นไปอีก แล้วลูกค้าจะยอมรับราคาได้หรือไม่ ในระยะหลายปีที่ผ่านมา โฟล์คสวาเกนมักจะเพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่งเนื่องจากรถรุ่นที่นำมาเปิดตัวในตลาดสหรัฐฯ ถ้าไม่เล็กเกินไปก็แพงเกินไปในสายตาลูกค้าชาวอเมริกัน ซํ้าเมื่อมามีคดีฉาวเรื่องการโกงค่าตรวจวัดไอเสียก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย แต่เมื่อบริษัทยอมจ่ายค่าปรับ ชดเชยความเสียหาย และยุติคดีลงได้ กลับต้องมาเจอปัญหาใหม่จากการพึ่งพาฐานการผลิตในเม็กซิโกมากเกินไป เนื่องจากบริษัทหวังเป็นแหล่งผลิตป้อนตลาดสหรัฐฯเป็นหลักกล่าวคือราว 60% ของรถโฟล์คสวาเกนที่จำหน่ายในสหรัฐฯนั้น มีแหล่งผลิตในเมก็ ซิโก โดยโรงงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองพูเอบลา มีกำลังผลิตรถรุ่นเจ็ตตา กอล์ฟ และบีทเทิล รวม 6 แสนคันต่อปีนับเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของโฟล์คนอกเยอรมนี ส่วนโรงงานของโฟล์คในสหรัฐฯมีกำลังผลิตเพียงปีละราวๆ1.50 แสนคันเท่านั้น แตกต่างจากบริษัทคู่แข่งค่ายเยอรมนีด้วยกันอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู และเดมเลอร์ที่แม้จะมีฐานการผลิตในเม็กซิโกแต่ก็มีโรงงานผลิตขนาดใหญ่ภายในสหรัฐฯเองด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,235 วันที่ 12 - 15 กุมภาพันธ์ 2560