รถหรูเยอรมนีจัดเต็ม

08 ก.พ. 2560 | 09:00 น.
เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ บีเอ็มดับเบิลยู เปิดศึกยกแรกในเชิงสื่อสาร ฟาดฟันชิงพื้นที่ข่าว โดยค่ายแรกประกาศเปิดตัว “อี-คลาส” รุ่นประกอบในประเทศ ที่ราคาลดลงมาสูงสุด 8 แสนบาทเมื่อเทียบกับตัวนำเข้า ส่วนค่ายหลังแถลงแผนลงทุนโรงงานจังหวัดระยอง 1,000 ล้านบาท เพื่อปรับสายการผลิตรถยนต์แบบปลั๊ก-อินไฮบริดและสร้างโรงงานใหม่ให้บิ๊กไบค์

เริ่มจากเจ้าพ่อรถหรู “เมอร์เซเดส-เบนซ์” หลังนำเข้า “อี-คลาส โฉมใหม่” (W213) รุ่น E220d เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร มาเปิดตัวในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2016 ล่าสุดส่งรุ่นประกอบในประเทศเข้าสู่ตลาด โดยเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ในระดับเริ่มต้น E220d Avantgarde ราคา 3.39 ล้านบาท ส่วนรุ่น Exclusive 3.69 ล้านบาท ถูกกว่ารุ่นนำเข้า 3 แสนบาท และรุ่นท็อป AMG Dynamic ขาย 3.99 ล้านบาท ถูกกว่าตัวนำเข้า 8 แสนบาท

สำหรับ E220d วางเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 194 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.3 วินาที เคลมอัตราบริโภคน้ำมัน 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 102 กรัม/กิโลเมตร

นาย ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า อี-คลาสรุ่นประกอบในประเทศเป็นโมเดลในเจนเนอเรชั่นที่ 10 ใส่เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่-โดยสารให้มีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้ง ระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED แบบความละเอียดสูง ที่ทำงานด้วยระบบดิจิตอลทั้งหมด รวมถึงระบบ Active Light ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกของโลก

MP37-3233-c สำหรับอี-คลาส รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมลงโชว์รูมและส่งมอบให้ลูกค้าทันที

ด้านบีเอ็มดับเบิลยู ประกาศชัดเจนว่าในปีนี้มีแผนลงทุนต่อเนื่อง 1,000 ล้านบาทเพื่อปรับสายการผลิตโรงงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เพื่อรองรับการผลิต ซีรีส์3 ซีรีส์7 เอ็กซ์5 รุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด รวมถึงซีรีส์5 โฉมใหม่ในปี 2561 ขณะเดียวกันเตรียมสร้างโรงงานใหม่(ในพื้นที่เดียวกัน) เพื่อรองรับการผลิตบิ๊กไบค์หรือมอเตอร์ราด ที่จะถูกแยกกับรถยนต์ให้เป็นสัดเป็นส่วน โดยการลงทุนดังกล่าวบีเอ็มดับเบิลยู ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตอีกหนึ่งเท่าตัว จากปัจจุบันผลิตรถยนต์ 2 หมื่นคันต่อปี และบิ๊กไบค์ 1 หมื่นคันต่อปี เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออก

“การพัฒนาสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จอีกก้าวของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญที่โรงงานที่จังหวัดระยองและประเทศไทย มีต่อธุรกิจของบีเอ็มดับเบิลยู”นายสเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231 วันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2560