ตลาดหนังออนไลน์ปีไก่แข่งดุ ค่ายยักษ์เปิดศึกคอนเทนต์ชิงตลาด โมโนชูหนังครบรสดูดลูกค้า ชี้หนังละเมิดลิขสิทธิ์น่ากลัวกว่าคู่แข่งขัน ด้านไอฟลิกซ์ชี้การแข่งขันช่วยขยายตลาดเน้นจุดเด่นมีหนังจากทุกมุมโลกให้ชม
ตลาดมูฟวี่ออนดีมานด์ หรือดูหนังออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชันนั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วง 1 -2 ปีที่ผ่านมา โดยมีแอพพลิเคชันใหม่ๆ เข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น รายล่าสุดคือ “ไอฟลิกซ์” ผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐ ที่รุกคืบเข้ามาแข่งขันกับผู้ให้บริการไทย อย่างไรก็ตามหัวใจสำคัญในการแข่งขันในธุรกิจนี้อยู่ที่ เนื้อหา หรือ คอนเทนต์ โดยผู้ให้บริการรายใด มีคอนเท้นต์ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคมากสุด จะเป็นผู้กำชัยชนะในเกมการแข่งขันนี้
นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน ฟิล์ม จำกัด ในเครือ โมโน กรุ๊ปผู้บริหาร โมโน แม็กซ์ เผย”ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแนวโน้มการแข่งขันในตลาดหนังออนไลน์ปีนี้ว่าการแข่งขันจะเข้มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ผู้เล่นในตลาดจะชูคอนเทนต์ (เนื้อหา)หรือหนังจากต่างประเทศเป็นจุดขายมากกว่าแข่งขันด้านราคา เขาระบุด้วยว่าการเข้าตลาดของ ไอฟลิกซื( บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทยจำกัด) เมื่อปีที่ผ่านมาทำให้การแข่งขันในตลาดหนังออนไลน์ร้อนแรงขึ้น
สำหรับทิศทางบริษัท โมโน แม็กซ์ฯ ปีนี้ ไมโนแม็กซ์ คงเน้นเนื้อหาเป็นจุดขาย ควบคู่ไปกับการโปรโมทผ่านสื่อ และ พันธมิตรต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัท ถือครองคอนเทนต์มากกว่า 1 หมื่นเรื่อง รวมทั้งซีซีรีส์ และภาพยนตร์เกาหลีหมื่นเรื่อง กว่า 120 เรื่องตามลำดับ และในอนาคต มีแผนเพิ่มภาพยนตร์อินเดียอีกด้วย
นายปฐมพงศ์กล่าวต่อว่า แม้การแข่งขันในตลาดรถมีแนวโน้มรุ่นแรงขึ้น แต่ยังไม่น่าหนักใจเท่ากับ หนังละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งประเมินว่า มูลค่าตลาดดูหนังออนไลน์อาจจะมีมูลค่าเพียงครึ่งเดียวของมูลค่าตลาดที่แท้จริง(อีกครึ่งถูกครอบครองโดยหนังละเมิดลิขสิทธิ์) พร้อมกันนั้นเขาได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อปูพื้นฐานในการเข้าสู้เศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
ปัจจุบันตลาดดูหนังออนไลน์มีมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท ( 14 %ของมูลค่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ 7,000 ล้านบาท) มีผู้เล่นในตลาด 6 ราย (ดูตาราง) มีสมาชิกรวม 2 แสนราย โดยโมโนแม็กซ์ครองส่วนแบ่งตลาดราว 17 % และปีที่ผ่านมามีรายได้ราว 120 ล้านบาท
ด้านนางสาวอาทิมา สุรพงษ์ชัย หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้ กล่าวว่าการแข่งขันในตลาดหนังออนไลน์ที่เข้มขึ้นมาจากหลายปัจจัย อาทิ การแข่งขันของผู้เล่นในตลาด แข่งขันกับหนังละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้บริโภคที่ต้องดูหนังตามเวลาที่ต้องการ อุปกรณ์มือถือที่ราคาถูกลง รวมทั้งการแข่งขันขยายบริการ ไฮสปีด อินเตอร์เน็ต ที่หนุนให้คลาดูหนังออนไลน์ขยายตัวขึ้น
ทั้งนี้ ไอฟลิกซ์ ชูหนังและซีรีส์ดังหลายพันเรื่องจากทุกมุมโลกเป็นจุดขายหลัก จุดเด่นอีกประการคือสมาชิกสามารถรับชมได้แม้ไม่มีอินเตอร์เน็ตด้วยฟีเจอร์ที่ดาวน์โหลดซีรีส์และหนังเรื่องโปรดมาเก็บในไว้ดูเวลาที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตได้
สำหรับทิศทางของ ไอฟลิกซ์ปีนี้ มุ่งเพิ่มจำนวน ซีรีส์ หนัง รายการทีวี อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มคุณภาพและความรวดเร็วของซีรีส์และหนังที่มาลง ด้านการตลาด ไอฟลิกซ์เดินหน้าจับมือกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อเข้าถึงลูกค้าเพิ่มมากขึ้น สร้างแบรนด์ไอฟลิกซ์ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และพัฒนาให้เข้าถึงได้ในหลายช่องทาง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231 วันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2560