‘แม่สอด-เมียวดี’ ขุมทองการค้าไทยเมียนมา

05 ก.พ. 2560 | 09:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ก้าวสู่ปีที่ 2 ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประเทศไทย ทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ชายแดนแต่ละฝั่งของประเทศทั้งเหนือจรดใต้ เพื่อสามารถเชื่อมโยงและหล่อหลอมพื้นที่แต่ละแห่งให้เป็นหนึ่งเดียว “ด้วยระบบเศรษฐกิจ”

สำหรับเมืองคู่แฝดอย่าง แม่สอด-เมียวดีหนึ่งในจุดพัฒนาสำคัญ บนนโยบายระเบียงเศรษฐกิจ EastWest Economic Corridor : EWECไทยได้เลือกบริเวณแม่สอด-เมียวดีแห่งนี้เป็นพื้นที่นำร่องให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกันในลักษณะ Free Zone ตั้งเป้าให้ด่านเมียวดีสามารถตรวจใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin - CO) ด้วยระบบออนไลน์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ลดปัญหาความล่าช้าเรื่องใบอนุญาตนำเข้าสินค้าปลอดภาษี พร้อมผลักดันให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าบริการ และแรงงานอย่างเสรี รวมถึงใช้สกุลเงินท้องถิ่นในอนาคต ภายใต้นโยบายการอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนบริเวณชายแดน (Border Trade Facilitation) ประกอบกับแผนความร่วมมือไทย-เมียนมา ระยะ 3 ปี

นอกจากนี้ไทย-เมียนมา กำลังเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาพื้นที่นำร่อง CCA (Common Control Area) เพื่อจะจัดทำการตรวจปล่อยเบ็ดเสร็จณ จุดเดียว หรือ SSI (Single Stop Inspection)ที่มีเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายปฏิบัติงานร่วมกันจะทำให้ลดขั้นตอนการผ่านแดน ลดต้นทุนการขนส่ง และนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของไทยและเมียนมารองรับการเติบโตของด่านแม่สอด-เมียวดีเมื่อก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 (แม่น้ำเมย)แล้วเสร็จในช่วงปี 2561 นี้

ขณะที่การตัดสินใจ “บินตรง” ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ พร้อมกับนำคณะผู้บริหารภาครัฐ สภาหอการค้า รวมถึงตัวแทนธุรกิจภาคเอกชน และผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่แต่ละสาขาของไทยเยือนเมียนมาระหว่างวันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ 2560 นับเป็นสัญญาณบวกที่จะได้เห็นการจับมือกันครอบคลุมทุกระดับด้านเศรษฐกิจและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การลงนามความร่วมมือใน MOU เศรษฐกิจหลายประเด็นทั้งระหว่างภาครัฐและระหว่างภาคเอกชน ทั้งด้านสาธารณสุข ประมง และการค้า การลงทุน รวมถึงการจับคู่ทางธุรกิจของภาคเอกชนไทย-เมียนมา

การเยือนดังกล่าวจะเกิดการพัฒนาการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว ระหว่างไทยกับเมียนมา และโยงไปยังกลุ่มประเทศเอเชียใต้ให้ขยายตัวมากขึ้น เพราะในอนาคต ด่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี จะเป็นประตูการค้าที่จะถูกพัฒนาเชื่อมต่อไปพร้อม ๆ กับ “โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย” อีกหนึ่งMega Project ที่ต่างชาติกำลังจับตามองโอกาส รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา ที่แม้ขนาดจะเล็กกว่าเขตเศรษฐกิจทวาย แต่ได้รับความสนใจมากเนื่องจากมีศักยภาพสูงและใกล้กับย่างกุ้งและสามารถเชื่อมโยงกับท่าเรือที่ปากแม่น้ำย่างกุ้งได้เป็นอย่างดี

เมียวดี-แม่สอด “ขุมทองการค้า” จึงไม่ใช่คำกล่าวที่ห่างไกลความเป็นจริงมากนัก ที่จากนี้ชายแดนที่ถูกมองเพียงแหล่งท่องเที่ยว กำลังเปลี่ยนเป็นเมืองธุรกิจรองรับภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ประกอบกับวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 ประเทศ ที่มองตรงกันทั้งในด้านนโยบายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่สำคัญชาติมหาอำนาจไม่เคยละสายตาจากกลุ่มประเทศในอาเซียนเลย

พบกับอัพเดทความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.globthailand.com หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่ [email protected]

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231 วันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2560