ลุ้นยางกิโลละ100 กยท.เทขายแสนตัน
คาดยางพุ่ง 100 บาท/กก.แน่ ชาวสวนยางปักษ์ใต้-เหนือ-อีสานเฮ รายได้พุ่งช่วยฟื้นเศรษฐกิจ กำลังซื้อ แถมปลดหนี้ ผู้ส่งออกเผยออร์เดอร์ทะลัก พ่อค้าแข่งซื้อตุนส่งตลาดจีน ด้านกยท.ฉวยจังหวะเตรียมเปิดประมูลระบายสต๊อกรอบ 3 อีก 1.01 แสนตัน
ราคายางพาราได้ทำสถิติใหม่ จากข้อมูลของตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ณ วันที่ 31 มกราคม 2560 ราคาประมูลยางแผ่นดิบอยู่ที่ 93.52 บาท/กก. และยางแผ่นรมควันชั้น3 อยู่ที่ 97.89 บาท/กก. ขณะราคายางแผ่นดิบตลาดท้องถิ่นจ.สงขลาอยูที่ 90.10 บาท/กก. และน้ำยางสด ณ โรงงาน 88 บาท/กก. ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปี (นับจากปี 2556) ส่งผลให้ตลาดซื้อขายยาง
รวมถึงเกษตรกรทุกภาคของประเทศได้หวนกลับสู่อาชีพ และฟื้นฟูสวนยางกันอย่างคึกคัก จากก่อนหน้านี้ราคายางที่ตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรจำนวนมากทิ้งสวนเลิกกรีดยางเนื่องจากไม่คุ้มทุน เมื่อราคากลับมาเป็นขาขึ้น เกษตรกรชาวสวนยางในภาคใต้ เหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ต่างพึงพอใจกันถ้วนหน้า
ราคายางที่กลับมาปรับเพิ่มสูงเวลานี้ นายสุธา อินยอด รองประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยาง จ.สตูล เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ทำให้ชาวสวนยางในพื้นที่มีกำลังใจในการกรีดยางกันมากขึ้น โดยในพื้นที่สตูลส่วนใหญ่จะกรีดและขายเป็นน้ำยางเพราะขายได้เร็ว โดยราคาน้ำยางตลาดท้องถิ่นที่เกษตรกรขายได้เวลานี้เฉลี่ยที่ 87 บาท/กก. ขณะที่ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลาง จ.สตูลอยู่ที่ 96 บาท/กก. คาดในเร็วๆ นี้ราคายางมีโอกาสแตะถึง 100 บาท/กก.
"พื้นที่สตูลมีฝนตกแต่น้ำไม่ท่วม ถือเป็นโอกาสที่ดีของชาวสวนยางที่จะมีรายได้ และกำลังซื้อเพิ่มจากราคายางที่ขยับสูงขึ้น จะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งในพื้นที่สตูลส่วนใหญ่จะปิดกรีดยางช่วงปลายกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม โดยคงกรีดจนหมดน้ำยาง"
เช่นเดียวกับนายประสาน จันทร เกษตรกรชาวสวนยาง และอดีตประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ราคายางที่ระดับ 80-90 บาท/กก. มีผลให้เกษตรกรในพื้นที่ได้เร่งลงมือกรีดยางหลังฝนหยุดตก จากน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่สุราษฎร์ธานีนานนับเดือน ส่งผลให้หลายพื้นที่ไม่สามารถกรีดยางได้ ราคายางที่ดีจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังซื้อและคงช่วยปลดหนี้เกษตรกรได้บางส่วน จากราคายางตกต่ำมานานกว่า 3 ปีเคยหล่นไปถึง 3 กก.100 บาท เกษตรกรส่วนใหญ่มีหนี้กันทั้งนั้น ทั้งนี้พื้นที่สุราษฎร์ธานียังมีโอกาสกรีดยางอีกประมาณ 2 เดือน ก่อนปิดกรีดในเดือนเมษายนจากยางผลัดใบ
เหนือ-อีสานยิ้ม
นายอุดม อมยิ้ม ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จ.เชียงใหม่ที่เผยว่า ขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่ขายยางก้อนถ้วยให้กับสหกรณ์ได้ 34 บาท/กก. และน้ำยางสดที่ 58 บาท/กก.ถือเป็นราคาที่ดีในรอบหลายปี เวลานี้บางสวนกรีดวันเว้นวัน 2วันเว้น1วัน หรือ 1 วันเว้น2 วันตามสภาพของการให้น้ำยาง โดยในพื้นที่ส่วนใหญ่จะทยอยปิดกรีดไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ จากยางเข้าสู่ฤดูผลัดใบ และกลับมาเปิดกรีดอีกครั้งในปลายเดือนเมษายน เกษตรกรคาดหวังราคายางจะยังอยู่ในระดับราคาที่ดีต่อเนื่อง
ขณะที่นายมาโนช ภูษาวิโศธน์ ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จ.สกลนคร กล่าวว่า ล่าสุดเกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ขายยางในรูปยางก้อนถ้วยได้ราคาเฉลี่ยที่ 42 บาท/กก. ถือเป็นราคาที่ดีในรอบหลายปี เกษตรกรในพื้นที่คงกรีดได้ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ก่อนปิดกรีด และเปิดกรีดอีกครั้งตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน
มั่นใจแตะ100บาท/กก.
ด้านนายหลักชัย กิตติพล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยางพาราไทยกล่าวว่า ราคายางที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจากเวลานี้สต๊อกยางจีนซึ่งเป็นผู้ใช้รายใหญ่ เริ่มกลับมาซื้ออีกครั้ง จากปกติจีนจะสต๊อกประมาณ 3 แสนตัน ก่อนหน้านี้สต๊อกลดเหลือเพียงกว่า 6 หมื่นตัน แต่ขณะนี้ได้ซื้อเข้าเก็บสต๊อกเพิ่มเป็น 1.1 แสนตัน และในเร็วๆ นี้อาจซื้อเก็บสต๊อกเพิ่มเป็น 2 แสนตัน ประกอบกับน้ำท่วมใหญ่ 12 จังหวัดภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สวนยางได้รับผลกระทบและผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย
"วงการค้ายางได้แข่งซื้อยางเพื่อไว้ขายให้จีน ที่คาดจะกลับมาซื้อยางอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์หลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ตลาดยางล่วงหน้าที่โตเกียวก็ปรับราคาขึ้นไปสูงตามความต้องการที่มีมาก ในเร็วๆ นี้อาจได้เห็นราคายางในประเทศที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาส่งออกเอฟโอบีเวลานี้ได้สูงถึง 104 บาท/กก.(ณ 31 ม.ค.60)แล้ว ภาพรวมราคายางปีนี้จะดีกว่าในปีที่ผ่านมาแน่นอน"
ท.พ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ยางรายใหญ่ กล่าวว่า ราคายางในประเทศจะทะลุถึง 100 บาท/กก.อย่างแน่นอนในช่วงก่อนเกษตรกรปิดกรีดยาง ผลจากเวลานี้ยางพาราขาดแคลนทั่วโลก ประเทศที่มีสินค้าก็ไม่ขายต่ำ ส่งผลให้ราคายางในตลาดล่วงหน้าและตลาดส่งมอบจริงสูงขึ้น แต่หลังจากที่เกษตรกรเปิดกรีดยางอีกครั้งในกลางปีนี้ ราคายางจะลดหรือไม่ เพียงใด ก็ขึ้นกับการบริหารจัดการของรัฐบาล ทั้งนี้หากรัฐบาลเปิดประมูลระบายยางในสต๊อกรอบในรอบที่ 3 บริษัทก็พร้อมเข้าร่วม
กยท.เตรียมประมูลรอบ3
สอดคล้องกับแหล่งข่าวผู้ค้ายาง ที่เผยว่า นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ได้ลงนามประมูลขายยางแผ่นรมควันอัดก้อน ยางแท่ง STR 20 และยางชนิดอื่นๆ ในต๊อกรัฐบาลใน ครั้งที่ 3 รวมประมาณ 1.01 แสนตัน เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา โดยจะเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลและรับรายละเอียดโกดังที่เข้าประมูลและราคาเริ่มต้นประมูลในวันที่ 30-31 มกราคม ในวันที่ 1-5 กุมภาพันธ์จะเปิดให้ตรวจสภาพสินค้า วันที่ 6-10 กุม-พันธ์ เปิดให้ลงทะเบียนเข้าเสนอราคาพร้อมหลักทรัพย์ 5% รับไอดี และพาสเวิร์ด วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมูลยางผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์(Auction Forward) และวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล
"สำหรับการประมูลในครั้งนี้ ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้ประกาศแบบเปิดเผย แต่จะส่งให้โดยตรงกับพ่อค้าที่จะร่วมเข้าประมูลเท่านั้น"
สำหรับการประมูลยางในรอบนี้ล่าสุดมีประมาณ 30 ราย ราคาเริ่มต้นยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่กิโลกรัมละ 74.80 บาท เป็นราคาที่ผู้เข้าร่วมประมูลมีกำไรบ้าง แต่ไม่ถือว่าสูงมากนัก เนื่องจากราคาตลาดแผ่นรมควันชั้น 3 วันนี้ก็ใกล้ทะลุ 100 บาท/กก. ขณะที่น้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัม 88 บาท ทั้งนี้ยางส่วนใหญ่ที่จะเปิดประมูลจะอยู่ในโกดังภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรีและประจวบคีรีขันธ์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,232 วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2560
ราคายางพาราได้ทำสถิติใหม่ จากข้อมูลของตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ณ วันที่ 31 มกราคม 2560 ราคาประมูลยางแผ่นดิบอยู่ที่ 93.52 บาท/กก. และยางแผ่นรมควันชั้น3 อยู่ที่ 97.89 บาท/กก. ขณะราคายางแผ่นดิบตลาดท้องถิ่นจ.สงขลาอยูที่ 90.10 บาท/กก. และน้ำยางสด ณ โรงงาน 88 บาท/กก. ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปี (นับจากปี 2556) ส่งผลให้ตลาดซื้อขายยาง
รวมถึงเกษตรกรทุกภาคของประเทศได้หวนกลับสู่อาชีพ และฟื้นฟูสวนยางกันอย่างคึกคัก จากก่อนหน้านี้ราคายางที่ตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรจำนวนมากทิ้งสวนเลิกกรีดยางเนื่องจากไม่คุ้มทุน เมื่อราคากลับมาเป็นขาขึ้น เกษตรกรชาวสวนยางในภาคใต้ เหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ต่างพึงพอใจกันถ้วนหน้า
ราคายางที่กลับมาปรับเพิ่มสูงเวลานี้ นายสุธา อินยอด รองประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยาง จ.สตูล เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ทำให้ชาวสวนยางในพื้นที่มีกำลังใจในการกรีดยางกันมากขึ้น โดยในพื้นที่สตูลส่วนใหญ่จะกรีดและขายเป็นน้ำยางเพราะขายได้เร็ว โดยราคาน้ำยางตลาดท้องถิ่นที่เกษตรกรขายได้เวลานี้เฉลี่ยที่ 87 บาท/กก. ขณะที่ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลาง จ.สตูลอยู่ที่ 96 บาท/กก. คาดในเร็วๆ นี้ราคายางมีโอกาสแตะถึง 100 บาท/กก.
"พื้นที่สตูลมีฝนตกแต่น้ำไม่ท่วม ถือเป็นโอกาสที่ดีของชาวสวนยางที่จะมีรายได้ และกำลังซื้อเพิ่มจากราคายางที่ขยับสูงขึ้น จะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งในพื้นที่สตูลส่วนใหญ่จะปิดกรีดยางช่วงปลายกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม โดยคงกรีดจนหมดน้ำยาง"
เช่นเดียวกับนายประสาน จันทร เกษตรกรชาวสวนยาง และอดีตประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ราคายางที่ระดับ 80-90 บาท/กก. มีผลให้เกษตรกรในพื้นที่ได้เร่งลงมือกรีดยางหลังฝนหยุดตก จากน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่สุราษฎร์ธานีนานนับเดือน ส่งผลให้หลายพื้นที่ไม่สามารถกรีดยางได้ ราคายางที่ดีจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังซื้อและคงช่วยปลดหนี้เกษตรกรได้บางส่วน จากราคายางตกต่ำมานานกว่า 3 ปีเคยหล่นไปถึง 3 กก.100 บาท เกษตรกรส่วนใหญ่มีหนี้กันทั้งนั้น ทั้งนี้พื้นที่สุราษฎร์ธานียังมีโอกาสกรีดยางอีกประมาณ 2 เดือน ก่อนปิดกรีดในเดือนเมษายนจากยางผลัดใบ
นายอุดม อมยิ้ม ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จ.เชียงใหม่ที่เผยว่า ขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่ขายยางก้อนถ้วยให้กับสหกรณ์ได้ 34 บาท/กก. และน้ำยางสดที่ 58 บาท/กก.ถือเป็นราคาที่ดีในรอบหลายปี เวลานี้บางสวนกรีดวันเว้นวัน 2วันเว้น1วัน หรือ 1 วันเว้น2 วันตามสภาพของการให้น้ำยาง โดยในพื้นที่ส่วนใหญ่จะทยอยปิดกรีดไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ จากยางเข้าสู่ฤดูผลัดใบ และกลับมาเปิดกรีดอีกครั้งในปลายเดือนเมษายน เกษตรกรคาดหวังราคายางจะยังอยู่ในระดับราคาที่ดีต่อเนื่อง
ขณะที่นายมาโนช ภูษาวิโศธน์ ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จ.สกลนคร กล่าวว่า ล่าสุดเกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ขายยางในรูปยางก้อนถ้วยได้ราคาเฉลี่ยที่ 42 บาท/กก. ถือเป็นราคาที่ดีในรอบหลายปี เกษตรกรในพื้นที่คงกรีดได้ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ก่อนปิดกรีด และเปิดกรีดอีกครั้งตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน
มั่นใจแตะ100บาท/กก.
ด้านนายหลักชัย กิตติพล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยางพาราไทยกล่าวว่า ราคายางที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจากเวลานี้สต๊อกยางจีนซึ่งเป็นผู้ใช้รายใหญ่ เริ่มกลับมาซื้ออีกครั้ง จากปกติจีนจะสต๊อกประมาณ 3 แสนตัน ก่อนหน้านี้สต๊อกลดเหลือเพียงกว่า 6 หมื่นตัน แต่ขณะนี้ได้ซื้อเข้าเก็บสต๊อกเพิ่มเป็น 1.1 แสนตัน และในเร็วๆ นี้อาจซื้อเก็บสต๊อกเพิ่มเป็น 2 แสนตัน ประกอบกับน้ำท่วมใหญ่ 12 จังหวัดภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สวนยางได้รับผลกระทบและผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย
"วงการค้ายางได้แข่งซื้อยางเพื่อไว้ขายให้จีน ที่คาดจะกลับมาซื้อยางอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์หลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ตลาดยางล่วงหน้าที่โตเกียวก็ปรับราคาขึ้นไปสูงตามความต้องการที่มีมาก ในเร็วๆ นี้อาจได้เห็นราคายางในประเทศที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาส่งออกเอฟโอบีเวลานี้ได้สูงถึง 104 บาท/กก.(ณ 31 ม.ค.60)แล้ว ภาพรวมราคายางปีนี้จะดีกว่าในปีที่ผ่านมาแน่นอน"
ท.พ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ยางรายใหญ่ กล่าวว่า ราคายางในประเทศจะทะลุถึง 100 บาท/กก.อย่างแน่นอนในช่วงก่อนเกษตรกรปิดกรีดยาง ผลจากเวลานี้ยางพาราขาดแคลนทั่วโลก ประเทศที่มีสินค้าก็ไม่ขายต่ำ ส่งผลให้ราคายางในตลาดล่วงหน้าและตลาดส่งมอบจริงสูงขึ้น แต่หลังจากที่เกษตรกรเปิดกรีดยางอีกครั้งในกลางปีนี้ ราคายางจะลดหรือไม่ เพียงใด ก็ขึ้นกับการบริหารจัดการของรัฐบาล ทั้งนี้หากรัฐบาลเปิดประมูลระบายยางในสต๊อกรอบในรอบที่ 3 บริษัทก็พร้อมเข้าร่วม
กยท.เตรียมประมูลรอบ3
สอดคล้องกับแหล่งข่าวผู้ค้ายาง ที่เผยว่า นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ได้ลงนามประมูลขายยางแผ่นรมควันอัดก้อน ยางแท่ง STR 20 และยางชนิดอื่นๆ ในต๊อกรัฐบาลใน ครั้งที่ 3 รวมประมาณ 1.01 แสนตัน เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา โดยจะเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลและรับรายละเอียดโกดังที่เข้าประมูลและราคาเริ่มต้นประมูลในวันที่ 30-31 มกราคม ในวันที่ 1-5 กุมภาพันธ์จะเปิดให้ตรวจสภาพสินค้า วันที่ 6-10 กุม-พันธ์ เปิดให้ลงทะเบียนเข้าเสนอราคาพร้อมหลักทรัพย์ 5% รับไอดี และพาสเวิร์ด วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมูลยางผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์(Auction Forward) และวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล
"สำหรับการประมูลในครั้งนี้ ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้ประกาศแบบเปิดเผย แต่จะส่งให้โดยตรงกับพ่อค้าที่จะร่วมเข้าประมูลเท่านั้น"
สำหรับการประมูลยางในรอบนี้ล่าสุดมีประมาณ 30 ราย ราคาเริ่มต้นยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่กิโลกรัมละ 74.80 บาท เป็นราคาที่ผู้เข้าร่วมประมูลมีกำไรบ้าง แต่ไม่ถือว่าสูงมากนัก เนื่องจากราคาตลาดแผ่นรมควันชั้น 3 วันนี้ก็ใกล้ทะลุ 100 บาท/กก. ขณะที่น้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัม 88 บาท ทั้งนี้ยางส่วนใหญ่ที่จะเปิดประมูลจะอยู่ในโกดังภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรีและประจวบคีรีขันธ์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,232 วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2560