‘คางกุ้ง-โรตี’บุกตปท. รายได้พุ่งเตรียมเข้าเซเว่น-เปิดแฟรนไชส์

2 ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีวางเป้าเติบโตก้าวกระโดด แบรนด์ Okusno ตั้งรายได้ขยับ 100 ล้าน เตรียมขยายช่องทางจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ และขายต่างประเทศ ด้านแบรนด์ Candy Crepe ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% เล็งเปิดแฟรนไชส์ต่างประเทศครั้งแรกใน 5 ประเทศ ปูทางเข้าตลาดหุ้นใน 3 ปี

นางสาวพิมพ์มาดา พัฒนปรัชญาพงศ์ ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท โอคุสโน่ฟู้ด จำกัด เจ้าของธุรกิจคางกุ้งทอดอบกรอบ แบรนด์ Okusno เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปี2560 ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้เติบโตในระดับ 100 ล้านบาท หลังจากปีที่ผ่านมาสามารถทำได้ที่ระดับ 50 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญเป็นปัจจัยที่นำไปสู่เป้าหมายได้มาจากการขยายพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าให้กระจายไปทั่วประเทศผ่านทางสาขาของเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านค้าทั่วไป จากเดิมจำหน่ายเพียงในเซเว่นอีเลฟเว่น สาขากรุงเทพฯและปริมณฑล

นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 2 ประเทศ ในกลุ่มประเทศที่มีประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม หรือกลุ่มมุสลิม เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่ถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลก และ Okusno ก็มีตราสัญลักษณ์ฮาลาลทำให้สามารถเข้าไปทำตลาดได้โดยง่าย โดยจากกลยุทธ์ดังกล่าวเหล่านี้เชื่อว่าจะนำพาธุรกิจไปสู่เป้าหมายรายได้ที่ต้องการได้ตามแผน

"กลยุทธ์ที่ใช้ในการขยายตลาดประเทศนั้น จะเน้นการหาพันธมิตรร่วมธุรกิจในการเข้าไปทำตลาด เนื่องจากจะมีความเชี่ยวชาญในด้านการทำตลาดในพื้นที่มากกว่า โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการหารือถึงความเป็นไปได้ และแนวทางที่จะใช้ร่วมกันอย่างเหมาะสม แต่ยังไม่ได้มีการตกลงที่จะทำตลาดร่วมกับพาร์ตเนอร์รายใด ส่วนแผนนำบริษัทเข้าสู่ ตลท. นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องดังกล่าว แต่หากในอนาคตธุรกิจเติบโตไปจนถึงจุดที่จะต้องเข้า ตลท. ก็น่าจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง"

ด้านความเสี่ยงของธุรกิจนั้น มองว่าปัจจัยสำคัญอยู่ที่คู่แข่ง และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต โดยหากมีคู่แข่งที่เข้ามาทำธุรกิจเหมือนกับ Okusnoจำนวนมาก ก็จะทำให้ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นจนไม่สามารถควบคุมราคาได้ ซึ่งจะทำให้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจในที่สุด

"หากถามว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตจะมีเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากเรามีการขยายธุรกิจออกไปเป็นจำนวนมาก เชื่อว่ามีมากพอจากการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกกุ้งถึง 8.4 หมื่นตันต่อปี โดยมีเปลือกกุ้งคิดเป็นประมาณ 20%"

ด้านนางสาวเจนสุนิสา คูวินิชกุล ประธานกรรมการ บริษัท เมตตาเอสเซ็นเซียล จำกัด เจ้าของธุรกิจโรตีสายไหม แบรนด์Candy Crepe กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้เติบโตประมาณ 20 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยการทำให้ผลิตภัณฑ์โรตีสายไหมมีอายุที่สามารถเก็บไว้ได้ยาวนานขึ้น จากการวิจัยและพัฒนาของทีมผู้เชี่ยวชาญในบริษัท รวมถึงการขยายสาขาของร้านคาเฟ่เพิ่มอีก 1 แห่งที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในวันที่ 14 กุมภาพันธุ 2560 จากปัจจุบันที่มีร้านคาเฟ่เปิดให้บริการอยู่แล้ว 3 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางปีนี้บริษัทจะขยายธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์เป็นครั้งแรกใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศสิงคโปร์ ,มาเลเซีย ,ญี่ปุ่น ,ไต้หวัน และอาหรับ โดยคาดว่าจากการขยายธุรกิจดังกล่าวนี้จะทำให้ในปี 2561 บริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านบาทในปี 2562 ส่วนในประเทศไทยบริษัทมุ่งเน้นที่จะทำตลาดด้วยตนเองมากกว่า

ส่วนเป้าหมายธุรกิจในอนาคตนั้น มองว่าภายใน 3 ปีจะนำบริษัทสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อระดมมาใช้ในการขยายธุรกิจ รวมถึงคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการต่อยอดธุรกิจ และเรื่องของภาพลักษณ์ธุรกิจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายธุรกิจไปสู่ต่างประเทศ โดยปัจจุบันก็อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ซึ่งเชื่อธุรกิจเองก็เข้าตามหลักเกณฑ์ของ ตลท. ดูจากที่มีกำไรตั้งแต่วันแรกต่อเนื่องไป 2 ปี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,232 วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2560