สินค้าลิขสิทธิ์มึน!เสื้อบอลเก๊เกลื่อนเมือง

02 ก.พ. 2560 | 07:40 น.
เจ้าของลิขสิทธิ์ปาดเหงื่อ! เสื้อบอลเถื่อนเกลื่อนเมือง "แกรนด์สปอร์ต" ชี้ระบาดหนักทั้งใน-หน้าสนาม ระบุชัดกองเชียร์นับหมื่นกว่า 50% ใส่เสื้อปลอม

ปัญหาสินค้าเถื่อน สินค้าปลอมยังคงระบาดหนักในเมืองไทย แม้ปัจจุบันจะมีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเข้ามาช่วยสอดส่องดูแล แต่ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตกของผู้ประกอบการทั้งที่เป็นแบรนด์เนมระดับโลก รวมถึงแบรนด์ของคนไทย
ซึ่งวันนี้ท่ามกลางกระแสฟีเวอร์ของกีฬาฟุตบอล ก็พบว่า เสื้อบอลหรือชุดกีฬาที่กองเชียร์นับหมื่นสวมใส่ในสนามกลับเป็นของปลอมมากกว่า 50% และยังวางขายเกลื่อนหน้าสนามกีฬาอีกต่างหาก

โดยนายธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา ภายใต้ชื่อ "แกรนด์สปอร์ต" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าปัญหาสินค้าปลอมและสินค้าก็อปปี้ที่ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังแก้ไม่ได้ และยิ่งพบมากขึ้น เพราะมีวางขายทุกที่ทั้งในห้างสรรพสินค้า ตึกแถว ตลาดนัด รวมถึงแผงลอยหน้าสนามกีฬา ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างมากและยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไขอย่างจริงจัง

ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจะมีทีมงานออกสอดส่องกวดขัน และมักจะพบผู้กระทำความผิดอยู่บ่อยครั้ง แต่การจะดำเนินคดีได้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานเฉพาะ และต้องเป็นความผิดซึ่งหน้าจึงจะสามารถจับกุมได้ ทำให้การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไม่มีความต่อเนื่อง และได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร ขณะที่หน่วยงานที่มีอยู่มุ่งไปที่การส่งเสริมให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การสนับสนุนให้จดลิขสิทธิ์ เป็นต้น แต่ไม่มีการปราบปราม ป้องกัน หรือคุ้มครองสำหรับผู้ที่ถูกละเมิดทรัพย์สินค้าทางปัญญา อีกทั้งข้อกฎหมายที่มีอยู่ บทลงโทษก็น้อยมาก เมื่อถูกจับก็สามารถประกันตัวและกลับมาขายสินค้าต่อได้ทันที แตกต่างจากต่างประเทศที่บทลงโทษสูง ทำให้ผู้กระทำผิดหวาดกลัว

"ปัจจุบันแหล่งผลิตใหญ่โยกไปอยู่ที่ประเทศจีน เพราะบทลงโทษสำหรับผู้ผลิตจะหนักกว่าผู้ค้า ที่มีเงินประกันเพียงไม่กี่พันบาทก็ออกมาขายต่อได้ ทำให้ผู้ผลิตย้ายฐานไปผลิตและนำเข้าจากจีนแทน นอกจากนี้สินค้าที่สั่งผลิตจากจีน มีต้นทุนที่ต่ำกว่าด้วย ทำให้สามารถทำราคาได้ถูกกว่าของแท้หลายเท่าตัว โดยมีราคาตั้งแต่ไม่ถึง 100 บาท"นายธิติกล่าวและว่า

หลายคนคิดว่าแกรนด์สปอร์ตขายดี ขายได้เยอะ แต่แท้จริงสิ่งที่เห็นในสนามฟุตบอล จำนวนกองเชียร์นับหมื่นคน ภาพที่เห็นชุดกีฬาที่ใส่ เป็นของปลอมมากกว่า 50% ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้ เพราะเขาเห็นโลโกแกรนด์สปอร์ตก็คิดว่าเป็นของแท้ เดินออกมาหน้าสนามแข่งขัน ก็เห็นชุดแกรนด์สปอร์ตวางขายนับ 10 ร้านก็ล้วนเป็นของปลอมทั้งสิ้น ลูกค้าที่เลือกซื้อบางรายก็รับรู้ว่าเป็นของปลอม แต่ด้วยราคาและความสะดวกทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น และไม่ใช่เฉพาะของแกรนด์สปอร์ตเท่านั้นที่เจอปัญหาเหล่านี้ เชื่อว่าแบรนด์อื่นๆ รวมถึงแบรนด์น้องใหม่อย่างวาริกซ์ เมื่อเข้ามาก็ต้องเจอของปลอมหรือก๊อบปี้อย่างแน่นอน

"วันนี้ร้านกีฬาใดขายไนกี้ปลอม ก็มีขายแกรนด์สปอร์ตปลอมเข้าตรวจสอบ จับกุมก็เกิดดราม่า ชุลมุน ระดมแม่ค้า พ่อค้ามาล้อมกรอบ หาว่าถูกรังแก ทำให้ต้องล่าถอยและปล่อยเลยตามเลย ไม่ใช่เฉพาะของแกรนด์สปอร์ตเท่านั้นที่ต้องเจอปัญหานี้ เชื่อว่าทั้งไนกี้ อาดิดาส หรือแบรนด์อื่นก็ต้องเจอปัญหานี้เช่นกัน"

นายธิติ กล่าวอีกว่า แนวทางในการแก้ปัญหาที่แกรนด์สปอร์ตเดินหน้าต่อเนื่องในขณะนี้คือการเร่งสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่ยอมรับและพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดี ทั้งเนื้อผ้าและดีไซน์ ทำให้ผู้ซื้อรับรู้ถึงความแตกต่าง และพึงพอใจในคุณภาพ ใส่ซ้ำ ซักแล้วยังมีรูปทรงที่ดี ไม่ย้วย ไม่ซีด นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ทำให้ลูกค้าหาซื้อได้ง่ายขึ้น

ด้านเจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬารายใหญ่ย่านหัวหมาก รามคำแหง กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า สินค้าปลอมที่ระบาดในปัจจุบัน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาเป็นหลัก โดยพบว่า ลูกค้าที่นิยมซื้อของปลอมเพราะ 1. ราคาถูกกว่า 2. มีรูปแบบที่สวย ถูกใจ และ 3. ชื่นชอบแบรนด์นั้นๆ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าร้านค้าส่วนใหญ่ต้องการนำสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์มาจำหน่าย เช่นเดียวกับที่ร้าน ซึ่งไม่นิยมนำของปลอมมาวางขายทั้งแบรนด์ที่เป็นของคนไทยและแบรนด์ต่างชาติ แต่การจะกวดขันหรือแก้ปัญหาจำเป็นต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะมีมาตรการต่างๆ ออกมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,232 วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2560