5 บิ๊กคว้าโควตาผลิตข้าว 5.4 แสนถุง ช่วยเหลือนํ้าท่วม 12 จังหวัดภาคใต้ ระบุเป็นงานเร่งด่วน ได้กำ ไรเล็กน้อย รัฐจ่ายตอบแทนเป็นข้าวในสต๊อก ชี้การแข่งขันธุรกิจข้าวถุงปีนี้เป็นไปตามกลไกตลาด จากปีที่แล้วราคาข้าวตก แข่งดุอัดโปรโมชัน
จากที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว (23 ม.ค.60) ที่มีนางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน(23 ม.ค.60) ได้รับทราบการดำเนินการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.)เพื่อบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ ปริมาณ 2,700 ตัน หรือ 540,000 ถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม ประทับตรา "รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประสบภัย"นั้น
นางโสพรรณ มานะธัญญา นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าบริษัทที่ได้รับโควตาจากรัฐบาลในการผลิตข้าวถุงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ครั้งนี้มี 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท เจียเม้ง มาร์เก็ตติ้ง จำกัด(บจก.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวตราหงส์ทอง, บจก.ซี.พี.อินเตอร์เทรด ข้าวตราฉัตร, บจก.ชัยทิพย์ ข้าวพนมรุ้ง บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ข้าวตราเกษตรและบจก.เอเชียอินเตอร์ไรซ์ ข้าวตราเบญจรงค์ โดยเฉลี่ยที่รับจ้างผลิตแบ่งคนละกว่า 1 แสนถุง
"การผลิตข้าวถุงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ถือเป็นงานเร่งด่วน และถือเป็นการทำบุญด้วยซึ่งผู้ประกอบการได้กำไรเล็กน้อย โดยล็อตแรกทางบริษัทที่เข้าร่วมโครงการได้ส่งมอบใ จำนวน 6,500 ถุง โดยไปพร้อมกับคณะของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้ไปตรวจราชการเพื่อติดตามผลการช่วยเหลือแก้ไขเฉพาะหน้าของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่อุทกภัยน้ำท่วมที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานีเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ดีหลังจากนี้จะทยอยส่งมอบให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อนำส่งข้าวส่วนที่เหลือส่งให้จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่โดยเร็วต่อไป ใน 12 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ ตรัง สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และพัทลุง ตามที่ นบข. ได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้
นางโสพรรณ กล่าวอีกว่า ข้าวสารที่ผลิตและบรรจุถุง เป็นชนิดข้าวขาว 5% ฤดูใหม่ คุณภาพดี ถุงละ 5 กิโลกรัม ปริมาณ 2,700 ตัน หรือ 5.4 แสนถุงดังกล่าว มีค่าใช้จ่ายในการผลิตและค่าขนส่ง ซึ่งทางรัฐบาลได้อนุมติให้ผู้ประกอบการคิดค่าใช้จ่าย โดยรัฐบาลจะชำระเป็นข้าวสารที่มีอยู่ในสต็อก อย่างที่ทราบกันข้าวในคลังที่มีอยู่ก็เก็บมาหลายปี ก็เป็นห่วงเรื่องคุณภาพ แต่ทุกรายที่เข้าร่วมก็คิดว่าเป็นงานของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประกอบการทุกรายในสมาคมก็พร้อมยินดีช่วยเหลือและสนับสนุน ขณะที่สถานการณ์การแข่งขันธุรกิจข้าวถุงในประเทศเวลานี้ก็เป็นไปตามต้นทุนที่แท้จริง จากปีที่ผ่านมาแต่ละบริษัทมีต้นทุนค่อนข้างต่ำตามราคาต้นทุนข้าว บริษัทก็แข่งขันกันมากทั้งเรื่องราคา และจัดโปรโมชัน หวังดึงลูกค้าให้มากที่สุด
อนึ่งตลาดข้าวสารบรรจุถุงของไทยในปี 2559 มีมูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยแบรนด์ผู้นำตลาดเช่น ข้าวมาบุญครอง ตราฉัตร หงษ์ทองเป็นต้น ในปีนี้คาดการแข่งขันธุรกิจข้าวถุงยังมีความรุนแรงตามแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นตามภาวะราคาสินค้าเกษตรซึ่งเป็นรายได้หลักมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เช่น ยางพารา ปาล์มนํ้ามัน มันสำปะหลัง รวมถึงเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของรัฐบาล
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231
วันที่ 29 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2560