'สมใจ ออนไลน์' ธุรกิจพันธุ์ผสานเทคโนโลยีและแฟมิลี่
ถ้าบอกว่าสตาร์ตอัพคือธุรกิจที่นำเทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหา และเพิ่มความสะดวก "สมใจ ออนไลน์"ก็คือสตาร์ตอัพพันธุ์ใหม่ ที่ผนึกความใหม่ด้วยเทคโนโลยี เข้ากับความเก๋าของธุรกิจครอบครัว โดยผู้บริหารรุ่นใหม่ "วิภ-วิภวานี วิทยานนท์" และ "ตาล - นพนารี พัวรัตนอรุณกร" ทายาทรุ่น 3 ของ สมใจกรุ๊ป
ทั้งคู่เริ่มสานต่อธุรกิจครอบครัว พร้อมกับการสร้างโมเดลธุรกิจแบบสตาร์ตอัพ ผ่านบริษัท "สมใจ ออนไลน์" ที่นำเอา Creativity และ Technology มาต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ ก่อให้เกิดการขยายตัวได้อย่างราบรื่นในโลกยุคใหม่ "ตาล" และ "วิภ" เริ่มนำเทคโนโลยีและความรู้ด้านวิศวะ มาใช้กับการสร้างระบบ พัฒนาจากการทำงานด้วยกำลังคนเพียงอย่างเดียว สู่การวางระบบด้วยเทคโนโลยี เขียนโปรแกรม
"ที่เราเขามาวางระบบใหม่หมด ไม่ใช่ว่ายอดขายมีปัญหา แต่ปัญหาคือระบบ การที่เราจะโต ปีละ 20 สาขา มันเป็นไปไม่ได้ คนไม่พอ เราไม่มีการเทรนนิ่งพนักงาน สิ่งที่ทำอยู่มันไม่ effective ไม่ว่าจะเป็นการเอาของเข้าสต๊อก การเลือกสินค้า หรือการซื้อสินค้า ทุกส่วนมันใช้คนมากเกินไป เราเลยต้องเอาระบบเข้ามา การทำธุรกิจแล้วยังต้องขึ้นอยู่กับคนทั้งหมด ต่อให้เราทำระบบไปได้ไกลแค่ไหน ธุรกิจก็อาจจะล้มได้ เราเลยคิดว่า เราจะใช้คนให้น้อยที่สุด ใช้เวลาในสั้นที่สุด และต้องให้ได้ผลที่ดีที่สุด เราเลยเขียนระบบหลังบ้านขึ้นมาเอง"
"ตาล" เปรยว่า ระบบที่ขึ้นมาได้ 3 เดือนยังมีปัญหา มันมีอะไรที่ต้องปรับไปเรื่อยๆ เวลาคิดระบบเธอใช้วิธีการพูดคุยกับพนักงานหน้าร้านแชร์ไอเดียจากพนักงานเหล่านั้นมา แต่เมื่อสร้างระบบขึ้นมาจริงๆ ก็ยังมีตกหล่นโน่นนี่ จึงทำให้ต้องปรับกันไปเรื่อยๆ ส่วนของพนักงาน ที่มีทั้งคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ที่ต้องเรียนรู้ระบบ และแนวทางการขายที่ขยายรูปแบบมากขึ้น เธอใช้วิธีส่งพนักงานไปเรียนข้างนอก เพื่อให้ทุกคนได้เห็นเทรนด์ เห็นความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีปัจจุบัน นอกจากเป็นการเพิ่มความรู้แล้ว ยังเป็นสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับพนักงานอีกด้วย
ด้วยเงินทุนที่ไม่ได้มีมหาศาลเหมือนองค์กรใหญ่ๆ การสร้างระบบหลังบ้านขึ้นมาใหม่ จึงมีการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ พร้อมกับการสร้างหน้าบ้านผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้งอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และเว็บไซต์สมใจออนไลน์ โดยให้ความสำคัญกับภาพถ่ายของสินค้าในแนว Flat Lay เป็นภาพที่มองดูแล้วให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบายตา คลาสสิก ย้อนยุค และมีความหมายในตัวมันเอง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 พร้อมๆ กับการสร้างสรรค์คอนเทนต์สนุกๆ โดยจับมือกับ Teaspoon Studio ช่วยออกแบบคอนเทนต์และสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ โดยขณะนี้สินค้าที่วางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์สมใจออนไลน์ ขณะนี้มีขึ้นเพียงประมาณ 5,000 เอสเคยู จากสินค้าในร้านสมใจทั้งหมดกว่า 6 หมื่นเอสเคยู
สิ่งที่ "วิภ" และ "ตาล" พยายามพัฒนา ด้วยการผนึกระบบเก่า เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ถือเป็นการปรับโฉมและรีแบรนด์ ธุรกิจร้านขายเครื่องเขียน สมใจ ให้มีความทันสมัย และพร้อมที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง ระบบการขายหน้าร้าน ยังคงอยู่สำหรับผู้ที่ต้องการแวะเวียนไปเลือกซื้อของเอง ระบบขายแบบออนไลน์ หรือที่เราเรียกกันว่า อี-คอมเมิร์ซ ก็เข้ามาช่วยเติมเต็ม สำหรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวก ไม่ต้องเดินทาง สามารถสั่งซื้อของได้ง่ายๆ บริการจัดส่งเร็ว
แผนต่อไปของ สมใจออนไลน์ ยังมีการพัฒนาอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกแน่นอน โดย "วิภ" และ "ตาล" บอกว่า ตอนนี้การพัฒนาเพิ่งใกล้จะจบเฟสแรก พวกเธอยังมีเฟสที่สองและสามตามมาอีกเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ การผนึกกับพาร์ทเนอร์ เพื่อสร้างกิจกรรมเวิร์กช็อป engage กับลูกค้า
"เราเหมือนสตาร์ตอัพ เราทำทุกอย่างใหม่หมด เป้าหมายของเราคือ การสร้างให้แบรนด์ สมใจ เป็นแบรนด์ที่จับต้องได้ และเมื่อลูกค้านึกถึงเครื่องเขียน ก็ต้องนึกถึงแบรนด์ สมใจ"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,230 วันที่ 26 - 28 มกราคม 2560
ทั้งคู่เริ่มสานต่อธุรกิจครอบครัว พร้อมกับการสร้างโมเดลธุรกิจแบบสตาร์ตอัพ ผ่านบริษัท "สมใจ ออนไลน์" ที่นำเอา Creativity และ Technology มาต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ ก่อให้เกิดการขยายตัวได้อย่างราบรื่นในโลกยุคใหม่ "ตาล" และ "วิภ" เริ่มนำเทคโนโลยีและความรู้ด้านวิศวะ มาใช้กับการสร้างระบบ พัฒนาจากการทำงานด้วยกำลังคนเพียงอย่างเดียว สู่การวางระบบด้วยเทคโนโลยี เขียนโปรแกรม
"ที่เราเขามาวางระบบใหม่หมด ไม่ใช่ว่ายอดขายมีปัญหา แต่ปัญหาคือระบบ การที่เราจะโต ปีละ 20 สาขา มันเป็นไปไม่ได้ คนไม่พอ เราไม่มีการเทรนนิ่งพนักงาน สิ่งที่ทำอยู่มันไม่ effective ไม่ว่าจะเป็นการเอาของเข้าสต๊อก การเลือกสินค้า หรือการซื้อสินค้า ทุกส่วนมันใช้คนมากเกินไป เราเลยต้องเอาระบบเข้ามา การทำธุรกิจแล้วยังต้องขึ้นอยู่กับคนทั้งหมด ต่อให้เราทำระบบไปได้ไกลแค่ไหน ธุรกิจก็อาจจะล้มได้ เราเลยคิดว่า เราจะใช้คนให้น้อยที่สุด ใช้เวลาในสั้นที่สุด และต้องให้ได้ผลที่ดีที่สุด เราเลยเขียนระบบหลังบ้านขึ้นมาเอง"
ด้วยเงินทุนที่ไม่ได้มีมหาศาลเหมือนองค์กรใหญ่ๆ การสร้างระบบหลังบ้านขึ้นมาใหม่ จึงมีการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ พร้อมกับการสร้างหน้าบ้านผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้งอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และเว็บไซต์สมใจออนไลน์ โดยให้ความสำคัญกับภาพถ่ายของสินค้าในแนว Flat Lay เป็นภาพที่มองดูแล้วให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบายตา คลาสสิก ย้อนยุค และมีความหมายในตัวมันเอง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 พร้อมๆ กับการสร้างสรรค์คอนเทนต์สนุกๆ โดยจับมือกับ Teaspoon Studio ช่วยออกแบบคอนเทนต์และสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ โดยขณะนี้สินค้าที่วางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์สมใจออนไลน์ ขณะนี้มีขึ้นเพียงประมาณ 5,000 เอสเคยู จากสินค้าในร้านสมใจทั้งหมดกว่า 6 หมื่นเอสเคยู
แผนต่อไปของ สมใจออนไลน์ ยังมีการพัฒนาอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกแน่นอน โดย "วิภ" และ "ตาล" บอกว่า ตอนนี้การพัฒนาเพิ่งใกล้จะจบเฟสแรก พวกเธอยังมีเฟสที่สองและสามตามมาอีกเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ การผนึกกับพาร์ทเนอร์ เพื่อสร้างกิจกรรมเวิร์กช็อป engage กับลูกค้า
"เราเหมือนสตาร์ตอัพ เราทำทุกอย่างใหม่หมด เป้าหมายของเราคือ การสร้างให้แบรนด์ สมใจ เป็นแบรนด์ที่จับต้องได้ และเมื่อลูกค้านึกถึงเครื่องเขียน ก็ต้องนึกถึงแบรนด์ สมใจ"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,230 วันที่ 26 - 28 มกราคม 2560