ก่อสร้างกลุ่มเออีซีบูม แนะเก็บหุ้นรับยุคลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

28 ม.ค. 2560 | 04:00 น.
นักวิเคราะห์แนะนักลงทุนเก็บหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานในอาเซียน หลังรัฐบาลทั้งภูมิภาคประกาศลงทุนสร้างถนน ทางรถไฟ ท่าเรือและโรงไฟฟ้า เผยหุ้นบริษัทก่อสร้าง ท่าอากาศยาน โรงงานเหล็ก บริษัทรับสัมปทานมาแรง

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าประเทศชั้นนำของอาเซียน พร้อมใจกันประกาศลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยประธานาธิบดีดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ประกาศลงทุน 8 ล้านล้านเปโซ (ประมาณ 5.76 ล้านล้านบาท) ใน 6 ปี ประเทศไทยเตรียมดันกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเข้าตลาดหุ้น อินโดนีเซียเพิ่มงบประมาณลงทุนอีก 10% ของงบรวม ส่วนมาเลเซียเร่งรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสิงคโปร์

รายงานของบริษัท แคปิตอลอิโคโนมิกส์ฯ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจของอังกฤษ ระบุว่า ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ จะมีการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานในช่วงหลายปีข้างหน้าในวงเงินที่สูง ขณะที่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียซึ่งมีปัญหาข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ พยายามถ่างงบประมาณเพื่อเพิ่มงบทางด้านลงทุน

นายโจชัว แครบบ์ (Joshua Crabb) หัวหน้าฝ่ายหลักทรัพย์เอเชียของบริษัทบริหารหลักทรัพย์ Old Mutual Global Investors กล่าวว่าบริษัทสนใจหลักทรัพย์ในอินโดนีเซียเนื่องจากดัชนีหุ้นจาการ์ตาคอมโพสิตยังมีราคาถูกในขณะที่จุดยืนทางการเมืองของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด เข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีพลังในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐาน โดยหุ้นเด่นคือ กรากะตัวสตีล (Krakatua Steel) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของประเทศ

นายเจมมี่ พอล (Jemmy Paul) ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนจากบริษัท Sucorinvest Asset Management ในจาการ์ตาแนะให้นักลงทุนจับตาหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานอาทิ บริษัท AdhiKarya บริษัท Pembangunan Perumahanและ WaskitaBeton Precast รวมทั้ง JasaMargaซึ่งเป็นบริษัทบริหารทางด่วน
นายเจฟฟรอเซนเบิร์กตัน ผู้อำนวยการบริษัท ซินาร์มาสเซคคูริตาสฯ (Sinamas Sekuritas) ในจาการ์ตา กล่าวว่า รายได้ของบริษัทก่อสร้างของอินโดนีเซีย หลายบริษัทจะยังดีอยู่แต่นักลงทูนต้องเน้นบริษัทที่มีแคชโฟลว์ที่ดีและมีงบดุลสวยๆ เพราะว่ารัฐบาลจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณจำกัดในปี 2560 นี้ โดยส่วนตัวแล้วแนะนำหุ้นของบริษัท Pembangunan Perumahanและ Adhi Karya ซึ่งมีงบดุลที่น่าสนใจ

สำหรับประเทศไทย นางมารีอา ลาปิซ (Maria Lapiz) ผู้อำนวยการร่วมฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์กิมเอง (ประเทศไทย)ฯ กล่าวว่าเธอสนใจ บริษัทที่มีเงินสดในมือสูงอาทิ บริษัทท่าอากาศยานไทยฯ บริษัทแอดว๊านซ์อินโฟร์ฯ และบริษัทซิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นฯ

นายยิ่งยง นิลเสนา รองเลขาธิการกลุ่มงานบริหารเงินกองทุน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กล่าวว่ารัฐบาลไทยเตรียมเงิน 10,000 ล้านบาทตั้งเป็นกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ซึ่งคาดว่าจะมีเงินจากนักลงทุนและกองทุนภาคเอกชนเข้ามาเติมจนเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลผลักดันกองทุนนี้เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

ทางด้านประเทศฟิลิปปินส์ นายเฟรเดอริโก โอแคมโป (FredericoOcampo) ประธานเจ้าหน้าที่ฝายการลงทุนของบีดีโอ ยูนิแบงก์ กล่าวว่า บริษัทที่น่าสนใจมีอาทิเมโทรแปซิฟิก ซึ่งทำธุรกิจทางด้านน้ำประปา ถนนโทลล์เวย์ โรงไฟฟ้าและกำลังประมูลสัมปทานบริหารสนามบิน และบริษัทเมกะไวด์ คอนสตรัคชั่นฯ ที่ทำธุรกิจทางด้านก่อสร้าง

นายคาเรนฮิซอน (Karen Hizon) นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอสเซคเคียวริตี้ฯ แนะนำให้ลงทุนบริษัทเมโทรแปซิฟิกฯ เช่นกันส่วนทางด้านก่อสร้างคิดว่า บริษัท DMCI Holdings ซึ่งผลิตปูนซีเมนต์น่าสนใจ นอกจากนั้นนายฮิซอน ยังกล่าวว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์และธนาคารพาณิชย์ก็น่าจะได้ประโยชน์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้วย

ในประเทศมาเลเซีย นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความสนใจบริษัทก่อสร้างโดยนายอัง ค็อก เฮง (AngKokHeng) ประธานเจ้าหน้าที่ลงทุนบริษัท ฟิลิปแคปิตอลแมเนจเม้นท์ในกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนฟิลิปมาสเตอร์อิควิตี้โกร๊ธฟันด์ ซึ่งมีผลงานดีเด่นในรอบ 5 ปีระบุว่า บริษัทก่อสร้างหลายบริษัท อาทิ บริษัทจอร์จเค้นท์มาเลเซียฯบริษัทฮ๊อคเซงลีฯ และ บริษัทคิมลุนฯซึ่งประมูลได้งานก่อสร้างโครงการใหญ่ ๆ เป็นหุ้นที่น่าสนใจ

ขณะที่นายลูง ชี เว่ย (Loong Chee Wei) นักวิเคราะห์จากบริษัท Affin Hwang Investment Bank แนะนำบริษัท กามูดา บริษัทซันเวย์คอนสตรัคชันกรุ๊ปฯ บริษัท ดับบลิวซีที โฮลดิ้งส์ฯ และบริษัท กาบูนแกนเอคิวอาร์เอสฯ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,230 วันที่ 26 - 28 มกราคม 2560