เฮอริเคน 'ทรัมป์'ถล่มสหรัฐฯ อีกลูก'มารีน'กำลังก่อตัวยุโรป

22 ม.ค. 2560 | 04:00 น.
Donald Trump สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนทั่วไป 45 ของสหรัฐอเมริกา พร้อมท่าทีแข็งกร้าวและการประกาศนโยบายแบบชาตินิยม (Nationalism) และการค้าแบบคุ้มกัน (Protectionism) โดยมี Stephen Bannon ที่ปรึกษาหลักด้านยุทธศาสตร์ ซึ่งมีชื่อเสียงจากการเป็นอดีต Investment Banker ที่เปลี่ยนสายมายึดเอาเรื่องการเหยียดสีผิว เหยียดเพศ กระแสรังเกียจ-หวาดกลัวจีน (Xinophobia) และกระแสต่อต้านตะวันออกกลาง (Anti-Semitic) เป็นประเด็นหลักเพื่อทำมาหากินในฐานะสื่อฝ่ายขวาตกขอบ ซึ่งนั่นจะทำให้แนวคิดแบบชาตินิยมสุดขั้วบวกกับการค้าแบบคุ้มกันจะกลายเป็นนโยบายหลักในรอบ 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

นโยบายหลักที่ Trump ประกาศจะดำเนินการใน 100 วันแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง ได้แก่ การปราบปรามผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายโดยอ้างว่าเพื่อให้คนอเมริกันได้มีโอกาสทำงานที่ได้ผลตอบแทนที่ดี (โดยอาจลืมไปว่างานของผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายคงไม่ใช่งานที่ได้ผลตอบแทนที่ดีและคนอเมริกันจะอยากทำ)

การประกาศจะสร้างกำแพงกั้นประเทศสหรัฐฯกับเม็กซิโก (คำถามคือ เม็กซิโกเขาจะสร้างให้เหรอ และคงไม่ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ว่าทั้งราชวงศ์จิ้น ราชวงศ์หมิงที่ยิ่งใหญ่ของจีน ต่างก็ล่มสลายมาแล้วเพราะการสร้างกำแพงกั้นประเทศ),การขอเจรจาเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ให้กับสหรัฐฯแต่เพียงฝ่ายเดียว (โดยอาจจะลืมคิดไปว่าแคนาดาและเม็กซิโกต่างก็คงเตรียมาตรการไว้โต้ตอบเช่นกัน),การยกเลิกไม่ให้สัตยาบันและทำให้ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นมหาสมุทรแปซิฟิก(Trans-Pacific Partnership: TPP) ที่เป็นความพยายามของสหรัฐฯเองในการออกแบบควบคุมระเบียบเศรษฐกิจโลกในยุคใหม่ต้องล้มพับไป

การประกาศจะดึงเงินลงทุนกลับจากจีนมาสร้างงานให้สหรัฐฯ (บริษัทอเมริกันลงทุนในจีนมากกว่า 200 บริษัท จ้างงานมากกว่า 2 ล้านคน)จะลดการขาดดุลการค้ากับจีนโดยการบีบให้จีนต้องยอมแข็งค่าเงินหยวน ไม่งั้นจะเจอมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรจากอัตราเฉลี่ย 3% เป็น 45% ในการนำเข้าสินค้าจากจีนเข้าสู่สหรัฐฯ Trump อาจจะลืมไปว่าถ้าจีนตอบโต้ขึ้นมา สหรัฐอเมริกาเองนั่นแหล่ะที่จะเจ็บตัว

MP-073229-a 100 วันแรกจาก 20 มกราคม – 27 เมษายน 2017 คือ 100 วันที่เฮอริเคน Trump จะถล่มระเบียบโลก (World Order) ที่สหรัฐฯลงทุนลงแรงสร้างมากับมือตั้งแต่ปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านทางชุดความคิดแบบเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก (หรือชุดความคิดแบบ Neo-Classical Economicsที่สนับสนุนการค้า การลงทุนเสรี การเคลื่อนย้ายเงินทุนเสรี การลดข้อบังคับและกฎระเบียบ และความคิดแบบแสรีนิยม) ให้กลายเป็นสหรัฐฯที่สนับสนุนความคิดแบบการค้าการลงทุนแบบปกป้อง ความคิดแบบชาตินิยม

แต่นั่นไม่ได้เกิดขึ้นที่สหรัฐฯแต่เพียงที่เดียวครับ เพราะในช่วง 100 วันแรกที่เฮอริเคน Trump กำลังถล่มระเบียบโลกของสหรัฐฯอยู่นั้น พายุอีกลูกก็กำลังก่อตัวขึ้นในยุโรปครับ

พายุลูกนี้ชื่อ Marine Le Pen (ออกเสียงว่า มาครีน เลอ แปน) ครับ เธอคือตัวแทนจากพรรค National Front ผู้สมัครตัวเก็งที่ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศส ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 23 เมษายนปีนี้ครับ และตอนนี้คะแนนนิยมของเธอก็สูงมากเสียด้วย

Marine Le Pen เป็นหญิงเหล็กผู้นำพรรค FN ซึ่งเป็นพรรคการเมืองสายกลาง-ขวา แต่ตัวเธอเองคือผู้นิยมชมชอบวิถีแบบการค้าปกป้อง (Protectionism) ครับ Marine คือผู้ต่อต่านการค้าเสรี และต่อต้านการโดดเดี่ยวไม่ทำการค้าครับ เธอเป็นผู้นำสายแข็งแบบเดียวกับ Trump ที่เน้นทำการค้าแบบปกป้องเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศตนเองเป็นหลัก (ไม่ได้ต่างจาก Make America Great Again ของ Trump แต่อย่างใด Marine เคยกล่าวสุนทรพจน์

เปรียบเทียบครับว่า ระบบเศรษฐกิจโลกเปรียบเสมือนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก การค้าเสรีคือการปล่อยให้กระแสน้ำที่รุนแรงเข้ามาปะทะโดยไม่มีเครื่องป้องกัน ในขณะที่การปิดประเทศไม่ทำการค้าก็คือการสร้างเขื่อนขวางลำแม่น้ำที่ไม่มีทางจะต้านกระแสได้ ดังนั้นการค้าแบบปกป้องคือการสร้างประตูน้ำที่ปิดเปิดและควบคุมการไหลของน้ำได้ สำหรับ Marine Protectionism คือทางสายกลางของเธอ ซึ่งอาจจะกลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม Eurozone ที่สนับสนุนการค้าเสรี

ต่อสหภาพยุโรป Marine เองคือผู้สนับสนุนแนวคิดของ Maurice Allais นัดเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลชาวฝรั่งเศสที่วิพากษ์และไม่เห็นด้วยกับการบูรณาการเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปตั้งแต่ Maastricht Treaty ปี 1992/1993 ต่อเนื่องจนถึง การประกาศใช้เงินสกุลยูโรร่วมกันของประเทศในสหภาพยุโรป และไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญยุโรปปี 2004
เธอเคยประกาศด้วยซ้ำว่าเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติในยุโรปตอนนี้ ธนาคารพาณิชย์ต้องถูกแยกการทำธุรกรรมออกจาก Investment Bank อย่างเด็ดขาด และธนาคารพาณิชย์อาจจะต้องผู้ Nationalisationมาเป็นของรัฐวิสาหกิจของรัฐด้วยซ้ำ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ฝากเงิน เธอคือผู้ต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจกิจการไปรษณีย์ของฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนครับว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจคือหนึ่งในกลไกหลักของกลุ่ม Neo-Classical Economics

Marine เคยแถลงกับสื่อมวลชนในวอชิงตันดี.ซี.ว่าเธอเชื่อว่าการกลับไปใช้ระบบปริวรรตเงินตราแบบอ้างอิงค่าเสมอภาคของเงินแต่ละสกุลเข้ากับมูลค่าของโลหะมีค่า (Polymetalic Standard) น่าจะเป็นระบบปริวรรตเงินตราเพื่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศที่เหมาะสมที่สุด

อนึ่ง เธอยังกล่าวชื่นชม Trump ด้วยว่า เขาคือคนที่ทำให้เรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้” สามารถ “เป็นไปได้”

เราเห็นแล้วนะครับว่า นาทีนี้ ผู้นำสายแข็งกำลังทยอยกันขึ้นสู่อำนาจ ไม่ว่าจะเป็น Trump เอง หรือในสหราชอาณาจักรเราก็เห็นคนอย่าง Nigel Farage ผู้สนับสนุนเป็นตัวตั้งตัวตีในการลงประชามติเพื่อให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป Marine Le Pen ผู้นำพรรค FN ของฝรั่งเศสที่เป็นตัวเก็งว่าที่ประธานาธิบดี ยังไม่นับรวมการเลือกตั้งเยอรมัน และเนเธอแลนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้

ภูมิรัฐศาสตร์-เศรษฐกิจโลก คงจะมีความซับซ้อน มีความท้าทาย การค้า-การลงทุนเสรีกำลังจะเปลี่ยนไป การค้าแบบปกป้อง ความคิดแบบชาตินิยมกำลังจะมา และมหาอำนาจของโลก ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และแม้แต่จีนเองก็มีแนวโน้มจะเป็นจักรวรรดินิยมมากยิ่งขึ้น เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว อยากหาหนังเก่าๆ มาดูเรื่องนึงครับ Empire Strike Back

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,229 วันที่ 22 - 25 มกราคม 2560