ฟันธง! ประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้ง เปิดปม! “ลุงกำนัน” แยกทาง “อภิสิทธิ์"

21 ม.ค. 2560 | 09:30 น.
11112

 

 

ฟันธง! ประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้ง เปิดปม! "ลุงกำนัน" แยกทาง "อภิสิทธิ์"

โดย-เอราวัณ
ห้วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา(2530-2560)ทางการเมืองนั้นประชาธิปัตย์คว้าชัยในการเลือกตั้งเหนือพรรคการเมืองอื่นเพียงครั้งเดียว คือในเดือนกันยายน 2535 หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ทำให้ชวน หลีกภัย ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสง่างาม แต่หลังจากนั้นประชาธิปัตย์แพ้ทุกการเลือกตั้งและนับวันจะแพ้แบบไม่เห็นฝุ่นไปเรื่อยๆ การเป็นแกนนำรัฐบาลสองครั้งหลังสุดเกิดจากอุบัติเหตุทางการเมือง ปี 2540 เกิดกลุ่ม “งูเห่า” ในพรรคประชากรไทยทำให้ชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยสอง และ ปี 2551 เกิดยุบพรรคพลังประชาชน สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีและเกิด “การตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร”ที่ทำให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

ถามว่าเลือกตั้งปี 2561 ประชาธิปัตย์ จะพบกับคำว่าชนะได้หรือไม่ “ฟันธง” ตอบได้เลยว่าถ้าไม่มีการปฏิรูปขนานใหญ่ ประชาธิปัตย์ย่อมพบกับความพ่ายแพ้ซ้ำซาก ด้วยผลการเลือกตั้งทุกครั้ง พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้พื้นที่ยุทธศาสตร์ใหญ่อย่างภาคอีสานไปอย่างยับเยิน

ภาคอีสานเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางการเมืองพื้นที่ใหญ่สุดเพราะมีที่นั่ง ส.ส.ราว 130 ที่นั่ง(ไม่รวมระบบบัญชีรายชื่อ)เลือกตั้งเมื่อปี 2544 ภายใต้การนำของอภิสิทธิ์ ได้มา 4 ที่นั่งเพื่อไทยคว้ามา 105 ที่นั่งห่างกันแบบไม่เห็นฝุ่น ต่อให้ประชาธิปัตย์กวาดพื้นที่หลักอย่างภาคใต้ และกทม. (ซึ่งไม่เคยกวาดได้หมด)รวมกันแล้วยังไม่ชนะอีสานของเพื่อไทยได้เลย นี่ยังไม่รวมการพ่ายแพ้แบบห่างมากในภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งกล้าฟันธงว่า “แพ้”จะเกิดขึ้นหากอภิสิทธิ์ คิดแค่รอ “อุบัติเหตุ”อีกครั้ง

และยิ่งมีข่าวซุบซิบเคลื่อนไหวจาก “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าจะขนพลพรรคออกจากค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมมาตั้ง“พรรค กปปส. เพื่อหนุน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง ยิ่งทำให้อนาคตของประชาธิปัตย์ มีแต่ “เตี้ยลง”  พรรคกปปส.จะเป็นจริงได้แค่ไหนต้องติดตาม

แต่ข่าวความไม่ลงรอยระหว่างสุเทพกับอภิสิทธิ์ มีมาตั้งแต่คราวสุเทพ แสดงสปิริต ลาออกจากเลขาธิการพรรคแทนที่อภิสิทธิ์ จะแสดงน้ำใจเสนอชื่อสุเทพ กลับมาอีกคำรบ กลับเสนอชื่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน(ปี2554) เป็นแทน00ข้อบังคับของพรรคมีว่าให้หัวหน้าต้องเสนอชื่อผู้มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการและให้ที่ประชุมรับรองเมื่ออภิสิทธิ์ไม่เสนอชื่อสุเทพตั้งแต่ต้น ก็ “หมดสิทธิ์” จึงเป็นที่มาของ ความไม่ลงรอยนับแต่นั้นมา

อภิสิทธิ์ ไม่เคยดู“ครูการเมือง”ชวน หลีกภัย ต่อให้ไม่พอใจเสธ.หนั่น ในหลายเรื่อง แต่ประชุมทุกครั้งก็ยังเสนอชื่อพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ มาเป็นเลขาธิการพรรค 3สมัย

คอลัมน์: ที่นี่…ไม่มีความลับ หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 22-25 มกราคม 2560