'ลีสซิ่ง' คาดดีมานด์รถใหม่ 8 หมื่นคัน

21 ม.ค. 2560 | 02:45 น.
ตลาดเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง ยิ้มรับปลดล็อกรถคันแรกสร้างดีมานด์รถใหม่เข้าตลาด “ธนชาต” คาดผู้บริโภคเปลี่ยนรถทันที 5-8 หมื่นคัน “ทิสโก้” ลั่นตลาดรถยนต์ถึงจุดต่ำสุด ประเมินยอดปีนี้ขยายตัว 3-5% หรือ 7.8 แสนคัน แต่ “กรุงศรีฯ-ไทยพาณิชย์” ชี้ ความต้องการยังไม่มาก เหตุลูกค้าเลือกผ่อนเกิน 5 ปี

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รายงานยอดขายรถยนต์ในประเทศสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 จำนวน 6.8 แสนคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย และคาดว่ายอดรวมปี 2559 จะขายได้รวม 7.6 แสนคัน ส่วนปี 2560 คาดการณ์ยอดขายอยู่ที่ 8 แสนคัน ประเมินว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว กำลังซื้อเพิ่มขึ้น และการสิ้นสุด 5 ปี ของการถือครองโครงการรถคันแรก จะทำให้มีการเปลี่ยนรถใหม่มากขึ้น

นายธีรชาติ จิรจรัสพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เป้ายอดขายรถยนต์ปีนี้ 8 แสนคัน เป็นการขยายตัวที่เข้าสู่ระดับปกติก่อนจะมีโครงการรถยนต์คันแรก และคาดว่าการเติบโตจะทยอยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น

ปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดรถยนต์ใหม่เติบโตดีขึ้น มาจากมาตรการรถยนต์คันแรกสิ้นสุดโครงการ ซึ่งจะมีรถยนต์จำนวนหนึ่งที่ผ่อนชำระครบตามสัญญา 5 ปี ทยอยครบกำหนดบางส่วน ทำให้ผู้ถือครองจำนวนหนึ่งตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์ใหม่
ตัวเลขจากการวิจัยพบว่าจะมีประมาณ 7-10% ของรถยนต์ที่เข้าโครงการรถยนต์คันแรกประมาณ 1.2 ล้านคันในช่วงปี 2555-2556 จะหันมาเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ หรือคิดเป็นประมาณ 5-8 หมื่นคันในปีนี้ อย่างไรก็ตามมีลูกค้าบางส่วนยังไม่ต้องการเปลี่ยนรถทันที หรือบางส่วนยังผ่อนค่างวดไม่ครบกำหนด เช่น ผ่อนเฉลี่ย 5-6 ปี เป็นต้น

นอกจากนี้คาดว่ารถยนต์มือ 2 จะกลับมาเติบโต เนื่องจากผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ จะทำให้มีซัพพลายเข้าสู่ตลาดรถยนต์ใช้แล้วมากขึ้น ทั้งนี้เพราะราคารถยนต์ใช้แล้วปรับตัวดีขึ้นจากที่เคยแย่ลงในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้ ประกอบกับจะเห็นความต้องการซื้อรถยนต์ใช้แล้วเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย รวมถึงแนวโน้มรายได้ภาคเกษตรที่เริ่มดีขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการทั้งตลาดรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วในกลุ่มรถกระบะ

“ตลาดรถยนต์ปีนี้จะได้อานิสงส์รถคันแรกที่ปลดล็อกประมาณ 5-8 หมื่นคัน ที่มีโอกาสตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ แต่ขึ้นอยู่กับรถยนต์ที่จะออกมาในตลาดด้วยว่า จะมีรุ่นใหม่ๆหรือไม่ หากมีการออกรถรุ่นใหม่ในเซ็กเมนต์ที่ลูกค้ามองหาอยู่ก็อาจจะกระตุ้นให้ตัดสินใจเปลี่ยนรถได้”

นายรุ่งโรจน์ จรัสวิจิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ปีนี้ น่าจะเป็นปีที่ถึงจุดต่ำสุดแล้ว ปีนี้จะเห็นการผงกหัว โดยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 หมื่นคัน จากปีก่อนที่ยอดขายจบอยู่ที่ 7.6 แสนคัน มาอยู่ที่ 7.8 แสนคัน หรือคิดเป็นการเติบโตราว 3-5% ซึ่งการเติบโตในอัตราดังกล่าวถือว่าตลาดปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามอาจจะต้องรอประเมินตลาดอีกครั้งในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า เพื่อดูปัจจัยบวกและลบที่จะมีผลต่อตลาด

สำหรับธนาคารทิสโก้ตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อรถยนต์ประมาณ 9% ของยอดขายรถยนต์ทั้งตลาด หรือ 9% ของ 7.8 แสนคัน หรือประมาณ 7.2 หมื่นคัน คิดเป็นยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 5,400 คันจากยอดขายทั้งตลาดจะอยู่ที่ 6 หมื่นคันต่อเดือน แม้ว่าปีก่อนการเติบโตจะหย่อนเป้าหมายเล็กน้อย แต่ปีนี้น่าจะทำได้ตามเป้าหมาย

ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สัญญาณดีขึ้นตามลำดับ และในปีนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นอีก ภายใต้สถานการณ์น้ำท่วมที่ไม่ลากยาว แต่เชื่อว่ามีผลกระทบระยะสั้นไม่เกิน 1 เดือน จึงไม่น่ากังวลมากนัก

“ปีนี้ตลาดน่าจะเริ่มผงกหัวขึ้นแล้ว เพราะถ้าลองย้อนไปในช่วงโครงการรถคันแรกในปี 2555 ยอดขายพุ่งแตะ 1.4 ล้านคัน ปีถัดมาลดลงเหลือ 1.3 ล้านคัน และในปี 2557 และ 2558 ยอดลงเหลือ 1 ล้านคัน และ 8 แสนคันตามลำดับ และปี 2559 ยอดขายเหลือ 7.6 แสนคัน หายไป 4 หมื่นคัน เมื่อเทียบกับปี 58 หรือลดลง 5% สะท้อนว่าตลาดเริ่มกลับมาอยู่จุดต่ำสุด คือ มียอดขายใกล้เคียงก่อนจะมีโครงการรถคันแรก เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่สดใส แต่การเติบโตจะมากกว่าประมาณการต้องรอดูปัจจัยสนับสนุนหลังจากนี้”

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ใหม่ในปีนี้ยังคงทรงตัว และคาดการณ์ว่าจะเติบโตจากปีที่แล้วราว 5% เป็นผลจากสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องด้วยมาตรการกระตุ้นการลงทุนจากภาครัฐ การท่องเที่ยวและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว

ส่วนการสิ้นสุดโครงการรถคันแรกที่จะพ้นกำหนดห้ามซื้อขาย 5 ปีในช่วงปลายปีนี้ อาจเป็นปัจจัยหนุนให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ แต่คาดว่าอาจมีจำนวนไม่มาก เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เลือกระยะเวลาผ่อนชำระมากกว่า 5 ปี จึงยังคงอยู่ในระหว่างการผ่อนชำระค่างวดรถยนต์กับสถาบันการเงินอยู่

นายณรงค์ ศรีจักรินทร์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด Wealth Segment, Products&Retail Banking Solutions ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า ธนาคารประเมินตลาดรถใหม่ปีนี้จะขยายตัวราว 5% หรือคิดเป็นยอดขาย 8 แสนคัน ถือว่าเติบโตค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีอัตราการเติบโตติดลบ 3% ปัจจัยบวกมาจากการเปิดตัวของรถยนต์ใหม่ ที่จะมาช่วยกระตุ้นการซื้อรถยนต์ใหม่ ประกอบกับประมาณของรถยนต์ที่อายุเกิน 10 ปีที่มีสัดส่วนสูงมาก จะช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อรถใหม่ ขณะที่ปัจจัยลบยังคงเป็นกำลังซื้อที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ โดยเฉพาะรายได้ภาคเกษตรในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของตลาดรถยนต์ในปีนี้

อย่างไรก็ตามแม้ว่าในปี 2560 จะมีลูกค้าที่ซื้อรถคันแรกตามนโยบายของรัฐในช่วงปลายปี 2554-2555 สามารถนำรถออกมาจำหน่ายหรือเปลี่ยนไปซื้อรถยนต์คันใหม่ได้ แต่จากผลสำรวจธนาคารพบว่าลูกค้ายังไม่เปลี่ยนรถทันที ดังนั้น เรื่องการปลดล็อกคันแรกจะยังไม่ใช่แรกขับเคลื่อนในปีนี้ แต่ในระยะยาวรถในกลุ่ม Eco car อายุ 5-7 ปีที่มาจากโครงการรถคันแรกจะหมุนเวียนเข้ามาอยู่ในตลาดรถยนต์มือสองมากขึ้น เนื่องจากมีค่างวดการผ่อนชำระที่ไม่สูงมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถซื้อรถยนต์กลุ่มนี้ได้ง่ายขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560