2 ดาวน์ทาวน์ ดิวตี้ฟรีหน้าใหม่เกาหลีใต้ ดิ้นแก้ปมปัญหาจุดส่งมอบสินค้า หลังขาใหญ่ คิงเพาเวอร์ผูกขาด ล่าสุด Shilla ตีปีก ทอท.เปิดช่องให้ใช้สนามบินภูเก็ต ด้านล็อตเต้ดิวตี้ฟรี แก้เกมเช่าพื้นที่ในสนามบินอู่ตะเภา รอสัมปทานคิงเพาเวอร์หมดปี 63
นายณัฐพล หงส์ศรีสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทจีเอ็มเอสดิวตี้ฟรี จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าการดำเนินธุรกิจของ " The Shilla Duty Free" ซึ่งเป็นธุรกิจร้านค้าปลอดอากร ในเมือง (ดาวน์ทาวน์ ดิวตี้ฟรี) ตั้งอยู่อำเภอกะทู้ จังหวัด ภูเก็ต เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง เจมส์แกลอรี่ , กลุ่มเดอะมอลล์ และ The Shilla ผู้ประกอบการธุรกิจดิวตี้ฟรี จากประเทศเกาหลีใต้ (ในเครือซัมซุง) ภายใต้งบลงทุนราว 2,000 ล้านบาท ภายในพื้นที่ราว 1.8 หมื่นตารางเมตร และเตรียมจะเปิดบริการเป็นทางการในเร็วๆ นี้
โดยขณะนี้ได้เริ่มทดลองเปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการมา 1 เดือนและจะส่งมอบสินค้าที่สนามบินภูเก็ต เนื่องจากภูเก็ตเป็นสนามบินแรกที่มีการเปิดประมูลจุดส่งมอบสินค้า (Pick up Counter) ภายในสนามบินของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท. ที่มีการกำหนดไว้ว่าผู้ที่ประมูล คือ คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จะต้องให้บริการจุดส่งมอบสินค้าแก่ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีในเมืองทุกราย ไม่ผูกขาดเหมือนที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง
โครงการนี้มีความร่วมมือกันมา 3 ปี เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจดิวตี้ฟรี ยังมีการเติบโตตามการท่องเที่ยวของภูเก็ตที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ติดปัญหาในเรื่องสัมปทานดิวตี้ฟรีในสนามบินที่เป็นการผูกขาดไม่ให้ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีในเมืองสามารถให้บริการจุดส่งมอบสินค้าภายในสนามบินได้ เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนนโยบายนำจุดส่งมอบสินค้ามาประมูล ทำให้ร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมือง สามารถไปใช้บริการได้บริษัทจึงเร่งเปิดดำเนินการ
อย่างไรก็ดีจากประสบการณ์ทางธุรกิจของทั้ง 3 พันธมิตร โดยเฉพาะ The Shilla ที่ทำธุรกิจดิวตี้ฟรี มาร่วม 29 ปี ปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ที่สนามบินนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ สนามบินนานาชาติชางงี ประเทศสิงคโปร์ และสนามบินมาเก๊า ก็เชื่อว่าการเปิดให้ บริการดิวตี้ฟรี ในเมือง ที่ภูเก็ต เป็นแห่งที่ 2 หลังมีจากมีดิวตี้ฟรีในเมืองของคิงเพาเวอร์เปิดบริการอยู่แล้วก็มองว่าตลาดยังสามารถแบ่งได้ เพราะลูกค้าคือนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศเข้าภูเก็ตเพิ่มขึ้น โดยมีนักท่องเที่ยวราว 3,000-4,000 คนต่อวัน ซี่งประเมินว่าช่วงปีแรกจะลูกค้ามาใช้บริการดิวตี้ฟรีของบริษัท ราว 2,000 คนต่อวัน นายณัฐพล กล่าว
ทางด้านนางรวิฐา พงศ์นุชิต นายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย เผยว่า บริษัทล็อตเต้ดิวตี้ฟรี ไทยแลนด์ จำกัด อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการร้านค้าปลอดอากร ขนาดพื้นที่ราว 1 หมื่นตารางเมตร ภายใน โชว์ ดีซี ซึ่งเป็นศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรของไทย แต่จากการที่ล็อตเต้ดิวตี้ฟรี ไม่มีพื้นที่ส่งมอบสินค้า ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง เนื่องจากติดพื้นที่ภายในสนามบิน ติดสัญญาสัมปทานของคิงเพาเวอร์ จึงหาทางแก้ปัญหาด้วยการเช่าพื้นที่ภายในสนามบินอู่ตะเภา เพื่อเป็นจุดส่งมอบสินค้าแทน คาดว่าจะเปิดให้บริการดิวตี้ฟรีได้ไม่เกินสงกรานต์นี้ พร้อมกับการเปิดบริการของโชว์ดีซี
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.เผยว่า การนำพื้นที่จุดส่งมอบสินค้าหรือ Pick up Counter มาเปิดประมูล สัญญา 5 ปี เริ่มสัญญาเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2559 ถือเป็นการนำร่อง ที่ทอท.นำโมเดลนี้มาใช้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ จึงสามารถดำเนินการได้ โดยคิงเพาเวอร์ เป็นผู้ชนะการประมูลในการบริหารพื้นที่ดังกล่าวขนาด 100-150 ตารางเมตร ที่ต้องเปิดบริการจุดส่งมอบสินค้า ให้กับดิวตี้ฟรีในเมืองทุกรายโดยคิงเพาเวอร์ จะเรียกเก็บค่าให้บริการได้ไม่เกิน 5% จากราคาสินค้า เพื่อนำมาจ่ายให้ทอท. 3%
ส่วนจุด Pick up Counter ที่สนามบินอื่นๆ ยังติดสัญญา ดิวตี้ฟรี ของคิงเพาเวอร์ อยู่ ซึ่งต้องรอให้หมดสัญญาในปี 2563 ก่อนซึ่งขณะนี้ทอท.อยู่ระหว่างศึกษาว่าหลังหมดสัญญาดังกล่าว ต่อไปจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องจุดส่งมอบสินค้าภายในสนามบิน ซึ่งต้องรอว่าการนำร่องโมเดลใหม่ที่สนามบินภูเก็ต จะเป็นอย่างไร สมควรจะนำมาเปิดประมูลในลักษณะเดียวกันหรือต่อไปจะเปิดให้ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีแต่ละรายมาเช่าพื้นที่เพื่อทำจุดส่งมอบสินค้าได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560