DriveMate ธุรกิจ Sharing Economy แบ่งปันรถใช้งาน
เทรนด์เศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ที่กำลังมาแรงในต่างประเทศ และกำลังคืบคลานเข้าสู่การทำธุรกิจรูปแบบใหม่ในบ้านเรา กำลังทำให้ธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง โรงแรม หรือรถยนต์ต้องเร่งปรับตัว เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ เลือกที่จะเข้าถึงสินค้าและบริการด้วยการเช่า-ยืม แทนการซื้อไว้เพื่อครอบครองโดยการติดต่อแลกเปลี่ยนความต้องการผ่านโลกโซเชียลมีเดีย
Drive Mate ธุรกิจเช่ารถออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.drivematethailand.com ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทำธุรกิจในแบบSharing Economy “อ๋อง - ศิลป์รัฐ สุขวัฒนศิริ” ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง และ “เกด - ธัญญธร ฐิติเศรณี” ผู้ร่วมก่อตั้ง Drivemateบอกเลยว่า การทำธุรกิจแบบ Sharing Economy กำลังเป็นเมกะเทรนด์ที่ขยายตัวไปทั่วโลก ที่เห็นชัดๆ และคนไทยรู้จักดี ก็คือAirbnb ธุรกิจแชร์ที่พัก และ Uber ธุรกิจที่นำรถบ้านมาให้บริการแท็กซี่ และทั้ง 2 โมเดลนี้ คือต้นแบบที่ผู้ก่อตั้ง DriveMate นำมาเป็นแบบอย่าง
“เราเห็นโมเดลนี้จากต่างประเทศ และคิดว่าไทยน่าจะเหมาะ ตลาดรถเช่าเมืองไทยใหญ่มาก มีมูลค่าถึง 3 หมื่นล้านบาทเราเลยลองเอามาปรับใช้กับตลาดเมืองไทยดู โดยสร้างจุดต่างที่บริการที่เราเพิ่มเข้ามา บริการลักษณะนี้ของประเทศอื่นๆ เขาจบทุกอย่างภายในเว็บ แต่คนไทยไม่ชินกับการจ่ายบัตรเครดิต คนไทยยังต้องการโทร.คุย ต้องการโอนเงิน รวมทั้งยังต้องการบริการอื่นๆ เราเลยเสริมให้เหมาะกับคนไทย”
จุดแข็งของ DriveMate คือ บริการมีทั้งบริการรับ-ส่งรถ ซึ่งจริงๆ เจ้าของรถต้องไปส่งรถเอง แต่บางทีเขาไม่ว่าง เราก็จะมีบริการตรงนี้ให้ เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่า ที่สามารถรับรถที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ยังจัดทำราคาเช่ารถที่ถูกกว่าตลาดทั่วไปประมาณ 20% มีรถทุกรูปแบบตั้งแต่รถอีโคคาร์ ไปถึงรถหรูอัตราค่าเช่าเฉลี่ยตั้งแต่ 5,000 - 5 หมื่นบาท
เรื่องความปลอดภัย มีการติดตั้งระบบ GPS ในรถที่เข้ามาให้บริการ ที่สามารถ Track ได้ว่ารถอยู่ที่ไหน หากผู้เช่าขับรถออกนอกเส้นทาง สามารถตัดระบบการทำงานไม่ให้รถวิ่งได้เลย และบริษัทLMG Insurance บริษัทประกันภัย ก็เป็นหนึ่งในทีมผู้ก่อตั้ง ที่เข้ามาให้บริการตรงนี้ด้วย ซึ่งขณะนี้มีรถให้บริการกว่า 500 คันใน 24 จังหวัด มีผู้ใช้บริการแล้วประมาณ1,500 คน Transactions เกือบๆ 300 เคสและภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มรถบริการได้ถึง 5,000 คัน โดยมีเป้ารายได้อยู่ที่ 40 ล้านบาท
“เราเชื่อว่าตลาดกำลังขยายตัวดังนั้นเราจะเน้นการทำตลาดให้มากขึ้น ทั้งในรูปแบบของออนไลน์และออฟไลน์ มีการออกบูธ จัดกิจกรรม การลงโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ และภายในกลางปีนี้ จะพัฒนาแอพพลิเคชันมาเพิ่มความสะดวกให้กับทั้งผู้เช่า และผู้ให้เช่ารถอีกทางหนึ่ง”
เมื่อถามว่า เป้าหมายหรือแนวทางการขยายธุรกิจของ DriveMate เป็นอย่างไร“อ๋อง” บอกว่า เขายังเดินหน้าขยายธุรกิจโดยเป้าหมายปีนี้คือการเพิ่มบริการ การทำให้คนรู้จักและเข้ามาใช้บริการของ DriveMate ให้มากขึ้น รวมไปถึงการจับมือกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นค่ายรถ อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และโตโยต้า เพื่อนำรถมาให้บริการมากขึ้น ส่วนปี 2561 จะขยายบริการไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการจับมือกับพาร์ตเนอร์
สตาร์ต อัพมี 2 แบบ คือ 1. ให้เขามาซื้อเราไป 2. การออก IPO หรือการเสนอขายหุ้น ซึ่งขณะนี้ DriveMate มีนักลงทุนเข้ามาติดต่อแล้วถึง 2 ราย แนวโน้มของ DriveMate สามารถเป็นไปได้ทั้ง 2 แบบ และหากขายกิจการไปแล้ว ผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 2 บอกว่า ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรต่ออีกหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือ ตอนนี้ขอพัฒนาธุรกิจ DriveMate ให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับเหมือน Airbnb ก่อนก็แล้วกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560
Drive Mate ธุรกิจเช่ารถออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.drivematethailand.com ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทำธุรกิจในแบบSharing Economy “อ๋อง - ศิลป์รัฐ สุขวัฒนศิริ” ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง และ “เกด - ธัญญธร ฐิติเศรณี” ผู้ร่วมก่อตั้ง Drivemateบอกเลยว่า การทำธุรกิจแบบ Sharing Economy กำลังเป็นเมกะเทรนด์ที่ขยายตัวไปทั่วโลก ที่เห็นชัดๆ และคนไทยรู้จักดี ก็คือAirbnb ธุรกิจแชร์ที่พัก และ Uber ธุรกิจที่นำรถบ้านมาให้บริการแท็กซี่ และทั้ง 2 โมเดลนี้ คือต้นแบบที่ผู้ก่อตั้ง DriveMate นำมาเป็นแบบอย่าง
จุดแข็งของ DriveMate คือ บริการมีทั้งบริการรับ-ส่งรถ ซึ่งจริงๆ เจ้าของรถต้องไปส่งรถเอง แต่บางทีเขาไม่ว่าง เราก็จะมีบริการตรงนี้ให้ เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่า ที่สามารถรับรถที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ยังจัดทำราคาเช่ารถที่ถูกกว่าตลาดทั่วไปประมาณ 20% มีรถทุกรูปแบบตั้งแต่รถอีโคคาร์ ไปถึงรถหรูอัตราค่าเช่าเฉลี่ยตั้งแต่ 5,000 - 5 หมื่นบาท
เรื่องความปลอดภัย มีการติดตั้งระบบ GPS ในรถที่เข้ามาให้บริการ ที่สามารถ Track ได้ว่ารถอยู่ที่ไหน หากผู้เช่าขับรถออกนอกเส้นทาง สามารถตัดระบบการทำงานไม่ให้รถวิ่งได้เลย และบริษัทLMG Insurance บริษัทประกันภัย ก็เป็นหนึ่งในทีมผู้ก่อตั้ง ที่เข้ามาให้บริการตรงนี้ด้วย ซึ่งขณะนี้มีรถให้บริการกว่า 500 คันใน 24 จังหวัด มีผู้ใช้บริการแล้วประมาณ1,500 คน Transactions เกือบๆ 300 เคสและภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มรถบริการได้ถึง 5,000 คัน โดยมีเป้ารายได้อยู่ที่ 40 ล้านบาท
เมื่อถามว่า เป้าหมายหรือแนวทางการขยายธุรกิจของ DriveMate เป็นอย่างไร“อ๋อง” บอกว่า เขายังเดินหน้าขยายธุรกิจโดยเป้าหมายปีนี้คือการเพิ่มบริการ การทำให้คนรู้จักและเข้ามาใช้บริการของ DriveMate ให้มากขึ้น รวมไปถึงการจับมือกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นค่ายรถ อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และโตโยต้า เพื่อนำรถมาให้บริการมากขึ้น ส่วนปี 2561 จะขยายบริการไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการจับมือกับพาร์ตเนอร์
สตาร์ต อัพมี 2 แบบ คือ 1. ให้เขามาซื้อเราไป 2. การออก IPO หรือการเสนอขายหุ้น ซึ่งขณะนี้ DriveMate มีนักลงทุนเข้ามาติดต่อแล้วถึง 2 ราย แนวโน้มของ DriveMate สามารถเป็นไปได้ทั้ง 2 แบบ และหากขายกิจการไปแล้ว ผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 2 บอกว่า ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรต่ออีกหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือ ตอนนี้ขอพัฒนาธุรกิจ DriveMate ให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับเหมือน Airbnb ก่อนก็แล้วกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560