ยักษ์ใหญ่ธุรกิจรุกตลาดฟินเทคอินโดนีเซียกันอย่างคึกคัก “โก-เจค” ผู้ให้บริการแอพเรียกรถชั้นนำาเปิดบริการโก-เพย์ ปะทะแกร็บเพย์จากมาเลเซีย แบงก์ลิปโป้และแอสเซนด์ของซีพีที่ร่วมกับอาลีบาบา
นายนาเดียม มาคาริม ผู้ก่อตั้งและซีอีโอกิจการแอพเรียกรถแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์ โก-เจคซึ่งเป็นสตาร์ตอัพรายแรกของอินโดนีเซีย ที่กลายเป็นยูนิคอร์นหรือสตาร์ตอัพที่มีมูลค่าบริษัทเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ36,000 ล้านบาท) ของอินโดนีเซียให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์กว่า โก-เพย์ซึ่งเป็นบริการโมบายเพย์เมนต์ของบริษัทที่เปิดตัวในเดือนเมษายนปีที่แล้วขยายตัวถึง 50% ทำาให้บริษัทเตรียมรุกเข้าสู่ธุรกิจบริการโมบายเพย์เมนต์เต็มรูปแบบ
นายมาคาริม กล่าวว่า “เราไม่เคยเห็นการยอมรับของตลาดในสินค้าใหม่ที่รวดเร็วขนาดนี้”โดยบลูมเบิร์กระบุว่า ซีอีโอของโก-เจคมีแผนเพิ่มวิศวกรในประเทศอินเดียมากกว่า 200 คนซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัวไม่นับรวมวิศวกรในอินโดนีเซียและสิงคโปร์อีกกว่า 100 คน เพื่อรับมือกับการขยายธุรกิจทั้งด้าน แอพเรียกรถและโมบายเพย์เมนต์
บลูมเบิร์กระบุว่า การรุกเข้าสู่โมบายเพย์เมนต์อย่างเต็มรูปแบบของโก-เจค ทำาให้บริษัทของนายมาคาริม ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Sequoia Capital, KKR & Co และ Warburg Pincus ต้องปะทะกับผู้ให้บริการฟินเทค ใหญ่อีก 3 รายที่รุกเข้าสู่ตลาดฟินเทคของอินโดนีเซียเช่นกัน
ธุรกิจรายใหญ่ที่กำาลังรุกตลาดโมบายเพย์เมนต์อินโดนีเซียนอกจาก โก-เจคแล้ว มีบริการแกร็บเพย์ ของบริษัทแกร็บฯ ผู้ให้บริการแอพเรียกรถจากมาเลเซียซึ่งผู้ก่อตั้งคือ นายแอนโทนี ตันเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับนายมาคาริมที่มหาวิทยาลัยธุรกิจฮาร์วาร์ดที่สหรัฐอเมริกา บริการโมบายเพย์เมนต์ ของแบงก์ลิปโป้ ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนใหญ่สุดของอินโดนีเซีย และบริการโมบายเพย์เมนต์ของบริษัท แอสเซนด์มันนี่ฯซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัทซีพีฯและอาลีบาบา
บลูมเบิร์ก รายงานว่ารัฐบาลอินโดนีเซียสนับสนุนธุรกิจฟินเทคอย่างเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้ธนาคารชาติอินโดฯ ได้อนุมัติใบอนุญาตดิจิตอลเพย์เมนต์ ให้แก่บริษัทท้องถิ่นรวมทั้งโก-เจคด้วย รวม 21 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงิน
โก-เพย์ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของแอพเรียกรถโก-เจค ที่ลูกค้าสามารถเก็บเงินไว้ที่โทรศัพท์มือถือเหมือนกับบัตรเดบิตดิจิตอลโดยลูกค้าสามารถเติมเงินโก-เพย์ด้วยการฝากเงินเข้าบัญชีแบงก์หรือเครื่องเอทีเอ็ม หรือให้เงินสดกับคนขับรถสมาชิกโก-เจคและโอนเข้าบัญชีในทันที ลูกค้าสามารถใช้โทรศัพท์ มือถือจ่ายเงินค่าโดยสารหรือค่าขนส่งสินค้า
นางฟรานซีสกา วิดจายา (Fransisca Widjaja) นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ แมคคอรี่แคปิตอลฯ (Macquarie Capital Securities) กล่าวว่า “ในประเทศอินโดนีเซีย ประชาชนใช้งานแอพโค-เจค อยู่แล้ว และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์สร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ดังนั้นจึงทำาให้ประชาชนยอมรับได้เร็ว”
นางฟรานซีสกา วิดจายากล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของธุรกิจฟินเทคในอินโดนีเซียตลาดยังขยายได้อีกมาก แต่เมื่อคนนิยมแอพโก-เจค อยู่แล้วโอกาสของโก-เพย์ จึงมีมาก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560