New (Trump) Order!

19 ม.ค. 2560 | 13:00 น.
ต้องขอแสดงความยินดีกับหนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจฉบับโฉมใหม่ ที่น่าอ่านกว่าเดิม ลึก เข้มข้นมากกว่าเดิม และยังคงความเป็นหนึ่งของหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ-ธุรกิจของเมืองไทยครับ

นับถอยหลังก็เหลืออีกไม่กี่วันที่ไม่เพียงแต่คนสหรัฐฯเท่านั้นแต่ต้องบอกว่าคนทั้งโลกจะได้ผู้นำคนใหม่ที่ชื่อว่า นาย “โดนัลด์ เจ ทรัมป์” ที่บอกว่า นาย ทรัมป์ เป็นผู้นำของคนทั่วโลกด้วยนั้นก็เพราะว่า สหรัฐฯขยับอะไรนิดอะไรหน่อย ก็สะเทือนโลกทั้งใบไปแล้ว สหรัฐฯขึ้นดอกเบี้ย ก็กระทบเงินในกระเป๋าของเหล่าลูกหนี้ในประเทศไทยอย่างเราๆ แล้วครับ
นายทรัมป์ จะมากับระเบียบโลกใหม่ หรือ New World Order จริงหรือ? เป็นคำถามที่ตอบยากในขณะนี้ เพราะว่า นายทรัมป์ ยังไม่ได้ขึ้นตำแหน่งอย่างจริงๆจังๆ เลยยังไม่รู้ว่าทรัมป์จะทำตามที่พูดได้มากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุด ขนาดที่ยังไม่เข้าทำงานจริง พ่อทรัมป์ ก็ได้สร้างมาตรฐานอะไรใหม่ๆไว้มากมายทีเดียวที่ทำเอาไม่แม้แต่ทั่วโลกมึนงง แต่ในสหรัฐฯเองนั่นล่ะครับที่กำลังงงไม่แพ้กัน

นายทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีคนแรกๆของสหรัฐฯที่ขึ้นมาจากนักธุรกิจเต็มตัว ด้วยความเป็นบอสใหญ่ทางธุรกิจของเขานี่เอง ที่ทำให้นาย ทรัมป์ แสดงออกมาในแบบ “หัวหน้า สั่งงานลูกน้อง” ทำงานแบบรวดเร็ว ตรงไปตรงมาและเป็นไปในแบบ ขวานผ่าซาก อันเป็นลักษณะเฉพาะตัวโดยไม่ต้องวาดลวดลายทางการเมือง ทางการทูตแบบ นาย บารัค โอบามา ให้เสียเวลา

ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับบรรดาผู้นำประเทศอื่นๆนาย ทรัมป์ ก็ ยกหูสายไปหาโดยตรง นัดแนะกันโดยตรงไม่ผ่านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ งานนี้เล่นเอาบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯมึนกันเป็นแถบๆ

ระเบียบโลกใหม่ที่จะมากับนาย ทรัมป์ นั้นที่พอจะเดาทางได้ก็คือกระแส “ปกป้องตัวเอง” หรือ Protectionism ที่จะทำให้สหรัฐฯเดินหน้ากีดกันการค้าอย่างสุดโต่ง สหรัฐฯจะโดดเดี่ยวตัวเองไปจากการค้าโลก เป็นความน่าหวาดกลัวอย่างยิ่งสำหรับเศรษฐกิจโลกในอนาคตแต่ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ ก็จ้องเล่นงานจีนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเงิน สินค้าราคาถูกที่ตีตลาดสหรัฐฯ

นายทรัมป์ยังต้องการรื้อฟื้นการเจรจาการค้าระหว่างประเทศใหม่ทั้งหมด เลิกคุยแบบพหุภาคี หันมาคุยกันในแบบทวิภาคี สองต่อสอง ใครไม่ดีพอ ไม่มีของดี ก็คุยกับสหรัฐฯไม่ได้ เป็นการบ้านข้อใหญ่สำหรับทุกประเทศทั่วโลก

หลายคนบอกว่าที่ นาย ทรัมป์ จะเลิกข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค หรือทีพีพีนั้น ถือว่าเป็นเรื่องดีต่อไทยเรา(เพราะว่าไทยตกขบวนทีพีพี ไปตั้งแต่แรกแล้ว) แต่ก็ถือว่าไม่ใช่งานง่ายนัก หากไทยจะคุยกับสหรัฐฯได้ในยุคที่อเมริกามีผู้นำสุดโต่งขนาดนี้ ยิ่งนายทรัมป์ ยังเป็นพวกต่อต้าน “ล็อบบี้ยิสต์” เสียด้วย

ระเบียบโลกใหม่ ของ นาย ทรัมป์ น่าจะทำให้สหรัฐฯ เห็นแก่ตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม อเมริกาจะดูดเงินจากทั่วโลกเข้าไปในสหรัฐฯมากขึ้น การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯหลายครั้งในปีนี้ จะทำให้เงินจากทั่วโลกไหลกลับเข้าไปในสหรัฐฯไม่หยุดหย่อน ไทยต้องระวังค่าเงินให้มากในปีนี้

และภายใต้ระเบียบโลกใหม่นี้ ก็คือ การที่ นาย ทรัมป์ หันไปผูกมิตรกับ ผู้นำรัสเซีย เป็นพิเศษนั่นเอง ถึงขนาดเสนอชื่อ นาย เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน อดีตผู้นำบริหารของเอ็กซอน โมบิล ซึ่งสนิทกับ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ

นั่นเท่ากับว่า นาย ทรัมป์ กำลังลบภาพ “สงครามเย็น” ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ทิ้งไปจากแผนที่การเมืองระหว่างประเทศ และกำลังวาดแผนผังสงครามเย็นขึ้นใหม่เป็นระหว่างสหรัฐฯ และจีน ให้ชัดขึ้น

เพราะขนาดที่ยังไม่รับตำแหน่ง ทรัมป์ ก็เล่นงานจีนมาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขู่จะตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากจีน จะตราหน้าว่าจีนเป็นผู้แทรกแซงค่าเงิน ส่วนนายทิลเลอร์สันก็แรงไม่เบา ตะโกนบอกว่าจีนไม่มีสิทธิขึ้นเกาะเทียมในทะเลจีนใต้

นั่นล่ะครับระเบียบโลกใหม่ อาจจะทำให้ Americaกลับมา Great Again แต่โลกอาจจะไม่Great ตามสหรัฐฯไปด้วย โดยเฉพาะพี่ใหญ่แห่งเอเชียอย่างจีนนี่ล่ะครับ ที่น่าจะปวดหัวหนักทีเดียวกับนาย โดนัลด์ เจ ทรัมป์ ..!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560