ถกทูตพาณิชย์รับมือทรัมป์กีดกัน พร้อมปรับแผนส่งออกดันเป้าโต3%

18 ม.ค. 2560 | 06:00 น.
ก.พาณิชย์เตรียมประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลก ถกปรับแผนดันส่งออกปี 60 รับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในเดือนหน้า ยอมรับผวาทรัมป์กีดกันการค้า สั่งทูตเกาะติดนโยบายที่ชัดเจน และวิเคราะห์ผลกระทบ เบื้องต้นยังมั่นใจส่งออกไทยปีนี้โตได้ 3% ด้านสรท.-ม.หอการค้าประเมินโตได้ 2-3% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงอื้อ

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์(พณ.)เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า กรมได้เตรียมจัดประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลก(65สำนักงาน)ในช่วงงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ(บางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่ แฟร์ ครั้งที่ 1 ของปี 2560) ครั้งที่ 59 ระหว่างวันที่ 22 - 26 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านการส่งออกและประเมินผลกระทบในด้านต่างๆ ว่าจะมีการปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่นายโดนัลด์ทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่จะประกาศนโยบายในการบริหารประเทศหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ และหลายฝ่ายมีความกังวลต่อสัญญาณการกีดกันการค้านั้น ในส่วนของกระทรวงยังคงต้องรอดูทิศทางนโยบายที่ชัดเจนหลังการแถลงของนายทรัมป์ก่อนว่า จะทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้หรือไม่

"การส่งออกไทยของไทยไปสหรัฐฯในเวลานี้ทางกรมยังไม่มีการปรับแผนอะไร แต่ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ไทยในสหรัฐฯได้เตรียมข้อมูลและผลกระทบไว้แล้วหลังทรัมป์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ และจะได้แถลงนโยบายอย่างเป็นทางการต่อไป ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานแรกที่ออกมาประกาศว่าการส่งออกของไทยในปี 2560 จะขยายตัวได้ที่3% ส่วนปัจจัยเสี่ยงนอกจากต้องจับตาการประกาศนโยบายของทรัมป์แล้วยังมีเรื่องค่าเงินบาทที่จะยังมีความผันผวน และผลกระทบจากกรณีอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิท ซึ่งขณะนี้ยังมีความไม่ชัดเจน เป็นต้น"

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวถึงการส่งออกในปีนี้ว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงที่สูงกว่าปีก่อนมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจโลกที่แม้ว่าจะเริ่มฟื้นตัวแต่ก็ยังฟื้นตัวอย่างช้าๆสรท.คาดการส่งออกไทยในปีนี้ภายใต้สถานการณ์ปกติน่าจะขยายตัวได้ 2-3% แต่หากมีเหตุการณ์รุนแรงหรือควบคุมไม่ได้เช่น มีสงครามระหว่างประเทศ มีการก่อการร้าย หากเป็นเช่นนี้อาจทำให้ภาวะการค้าและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมไปถึงภัยธรรมชาติ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นมองว่าโอกาสที่ส่งออกไทยยังจะขยายตัวนั้นยังมี แต่คงไม่ขยายตัวมาก แต่ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงข้างต้นเกิดขึ้นจริง การส่งออกไทยในปีนี้อาจขยายตัวเพียง 0-2% เท่านั้น

"มองว่าปริมาณสินค้าส่งออกของไทยในปีนี้คงใกล้เคียงเดิม แต่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาสินค้าเกษตร และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันที่มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นจะช่วยให้มูลค่าการส่งออกทั้งปีเป็นบวก หากจะให้มองทั้ง 4 ไตรมาส ส่วนตัวประเมินไว้ไตรมาสแรกการส่งออกจะขยายตัวได้ที่ 1% ไตรมาส2 ขยายตัว2% ไตรมาส3 ขยายตัว 3% และไตรมาส4 ขยายตัว2% และทั้งปีน่าจะขยายตัว 2-3% ทั้งนี้สิ่งที่ผู้ส่งออกต้องมีการปรับตัว เช่นการพัฒนาสินค้า และต้องรู้จริงตั้งแต่เรื่องวัตถุดิบ เทคนิคการผลิต มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต การนำนวัตกรรมมาสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน "

ด้านนายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยว่า ทางศูนย์ได้วิเคราะห์ทิศทางการส่งออกของไทย ปี 2560 ว่า มีสัญญาณฟื้นตัว คาดในปีนี้การส่งออกของไทยจะมีมูลค่าประมาณ 2.21 แสนล้านบาท ขยายตัวที่ค่าเฉลี่ย 2.8% ( อยู่ในช่วง 2.18-2.24 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัว 1.3- 4.2%) ปัจจัยหลักๆให้การส่งออกในภาพรวมขยายตัวดีขึ้น คือ การอ่อนลงของค่าเงินบาทส่งผลให้ไทยได้เปรียบในด้านราคาส่งออกมากขึ้น ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย อีกทั้งการค้าชายแดนและผ่านแดนรวมในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ดี

"แต่ทั้งนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยง เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ส่งผลให้ไทยส่งออกไปจีนชะลอตัวลง การกีดกันทางการค้าของทรัมป์ซึ่งจะส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อม ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยุโรปและการเลือกตั้งของฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี อาจมีผลให้ไทยส่งออกไปอียูชะลอตัวลง เป็นต้น"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,227 วันที่  15 - 18  มกราคม 2560