ขับเคลื่อนทัวริสต์ลองฮอล์ ททท.ผุด The Link เชื่อม10เมืองรองไทยสู่เวทีท่องเที่ยวโลก
การเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวของไทยในปี2560 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ตั้งเป้าหมายเติบโตที่ 10% หรือราว 2.7ล้านล้านบาทในจำนวนนี้กว่า 38.23% เป็นสัดส่วนรายได้ของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา ซึ่งแผนการทำตลาดของภูมิภาคเหล่านี้ในปีนี้จะมีทิศทางอย่างไร อ่านได้จากสัมภาษณ์นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกาตะวันออกกลาง และอเมริกาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
เปิด 2 สนง.รุกอเมริกาใต้-แคนาดา
ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากทั้ง 4 ภูมิภาคนี้ เดินทางมาเที่ยวไทยราว 8.42 ล้านคน คิดเป็น 25.85% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทย 32.5 ล้านคน และสร้างรายได้เข้าประเทศ 627,427 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 38.23% ของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งการรักษาตลาดในภูมิภาคดังกล่าว ให้เติบโตได้ทั้งในแง่ของจำนวนและรายได้ ก็ถือว่าทำได้ดี ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชลอตัว การขยายตัวที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าเป็นเพราะตลาดหลักอย่างนักท่องเที่ยวรัสเซียเริ่มกลับมา ในปีที่ผ่านมามีถึง 1.05 ล้านคน และเป็นตลาดที่มีการใช้จ่ายสูงเป็นอันดับ1 อันดับ 2 คือ นักท่องเที่ยวจาก สหราชอาณาจักร ที่แตะ 1 ล้านคนแล้ว ซึ่งช่วงแรกททท.อาจมีความกังวลเงินปอนด์อ่อนค่า จากเรื่องเบร็กซิท (Brexit)แต่เงินปอนด์ก็อ่อนค่าในทุกสกุลเงิน ไม่ใช่เฉพาะเงินบาท ประกอบกับราคาโรงแรมในไทย จากซัพพลายที่มีมาก ก็ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจกับการจ่ายเงินในราคาระดับ3 ดาวครึ่งถึง 4 ดาวแต่ได้พักในโรงแรมระดับ 5 ดาว
ขณะที่ตลาดฝรั่งเศส เยอรมนี ก็เติบโตทิศทางบวก และตลาดระยะไกลมากๆอย่างภูมิภาคอเมริกา ก็มีการขยายตัวดีมากจากทางอเมริกาใต้ อย่างบราซิล อาเจนตินาไปจนถึงแคนาดา ที่รายได้ขยายตัวในระดับ 2 หลัก และจำนวนก็ขยายตัว ทั้งๆที่ททท.มีเพียง 2 สำนักงาน คือ ที่นครลอสแองเจลีสและนิวยอร์ก ดูแลทั่วภูมิภาคอเมริกา ดังนั้นในปีนี้เพื่อเป็นการเจาะตลาดนี้ให้ครอบคลุม ททท.มีแผนจะเปิดสำนักงานใหม่ภายในปีนี้ 2 แห่ง คือ สำนักงานททท.ที่โตรอนโต ดูแลแคนาดา และ สำนักงานที่เซาเปาลูดูแลฝั่งอเมริกา ซึ่งจัดว่าเป็นตลาดใหม่ ที่ททท.จะรุกเข้าไปโปรโมตการท่องเที่ยวในปีนี้ภายใต้เป้าหมายในปีนี้ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยว ในตลาดระยะกลางและไกล ให้เติบในอัตรา 10%(ยุโรป 9.09% ,อเมริกา 14.04% ตะวันออกกลาง 11.03% แอฟริกา 9.47%)
ผนึกแอร์ไลน์เจาะตลาดเมืองใหม่
ทั้งนี้วิธีการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ตามทฤษฏีจะมี 3 ทาง คือ 1.การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 2. การเพิ่มวันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยว และ3.การเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป ซึ่งจากการวิเคราะห์จากฐานข้อมูลของททท.สำหรับตลาดระยะกลางและระยะไกล จากสถิติสะท้อนชัดเจนว่า การเพิ่มวันพักเฉลี่ย จะทำได้ยาก ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ เพราะแม้ตลาดเหล่านี้จะมีวันพักเฉลี่ยสูงมาก อย่าง นักท่องเที่ยวสวีเดน พักนานที่สุด คือ 19.41 วัน อังกฤษ 17.41 วัน รัสเซีย 17.04 อเมริกา 13.59 วัน แต่การเติบโตของวันพักเฉลี่ยมีอัตราการเพิ่มไม่ถึง 1%
จากข้อมูลตรงนี้ทำให้การเน้นการเพิ่มรายได้ในตลาดที่รองธเนศวร์ดูแลอยู่ จะเน้นใน 2 ทาง คือ การเพิ่มนักท่องเที่ยวและการเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป โดยมุ่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ในการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพให้เดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนทางการท่องเที่ยว โดยนำการท่องเที่ยวเข้าไปกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
วิธีการเพิ่มรายได้จากการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ททท.จะเน้นเจาะตลาดใหม่ ทั้งในลาตินอเมริกา แคนาดา ยุโรปกลาง-ยุโรปตะวันออก อย่าง สาธารณรัฐเชค โปแลนด์ ฮังการี หรือแม้แต่ตลาดตะวันออกกลาง ก็จะขยายไปยังกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานในตะวันออกกลางที่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะคนยุโรปเพื่อดึงให้เดินทางมาเที่ยวไทยเป็นครั้งแรก และการเจาะตลาดเดิม แต่เน้นไปที่เมืองใหม่ อาทิ ประเทศเยอรมันนีจะไปเจาะเมืองรอง เช่น มิวนิก,สตุ๊ตการ์ท,ดุสเซลดอร์ฟประเทศอังกฤษ ก็จะขยายไปยังแมนเชสเตอร์ เบอร์มิ่งแฮม สก็อตแลนด์ ไปถึงไอร์แลนด์ประเทศรัสเซีย ก็จะเน้นไปยังกลุ่มซีไอเอส เช่น คาซัคสถาน อุซเบกิสสถาน ยูเครน ส่วนตะวันออกกลาง ก็เช่น อิหร่าน กาตาร์เป็นต้น
การที่ททท.เน้นทำตลาดในเมืองใหม่และเมืองรองเหล่านี้ได้ ส่วนสำคัญมาจากการร่วมมือกับสายการบินต่างๆในการลงนามข้อตกลงในการร่วมกันส่งเสริมการเดินทางมาเที่ยวไทยตลอดทั้งปีโดยไม่นานมานี้ก็ได้ร่วมกับ EVA Air ซึ่งเป็นสายการบินระดับต้นที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอเมริกานิยมใช้บริการ
เพื่อเดินทางมาไทย จากบริการ 6 เส้นทางหลักจากสหรัฐอเมริกาและเตรียมจะลงนามเอ็มโอยู กับเอธิฮัดในการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวยุโรป เพราะมีเที่ยวบินจากตะวันออกกลางสู่ยุโรปในเมืองรองหลายเส้นทาง และการเตรียมร่วมมือกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวแอฟริกา เนื่องจากมีหลายเส้นทางที่การบินไทยไม่ได้ทำการบิน
ส่วนวิธีการเพิ่มค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปของนักท่องเที่ยว จะขยายฐานตลาดที่มีรายได้ระดับกลาง-บน (รายได้ต่อคนตั้งแต่ 2 หมื่นเหรียญดอลล่าร์สหรํบต่อคนต่อปีขึ้นไป) นำเสนอจุดขายด้านการท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับตลาด อาทิ ยุโรป ต้องเน้น กลุ่มฮันนีมูนและแต่งงาน กลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจวิถีไทย หรือโลคัล เอ็กซ์พีเรียน กลุ่มตะวันออกกลาง เน้นการรักษาสุขภาพ เมดิคัล เวลเนส และกลุ่มครอบครัว เป็นต้น
เปิดตัวโครงการThe LINK
อีกทั้งในปีนี้ททท.ยังมีภารกิจที่รัฐบาล ต้องการให้การท่องเที่ยวช่วยสร้างประโยชน์ให้ชุมชนท้องถิ่น ดังนั้นเพื่อผลักดันให้เกิดรูปธรรมททท.เตรียมจะเปิดตัวโครงการThe Link โดยเป็นการสร้างโมเดลการทำงานในรูปแบบใหม่ ที่จะจับคือเป็นบัดดี้ระหว่างททท. สำนักงานต่างประเทศ10 แห่งในยุโรปและอเมริกา กับททท.สำนักงานในประเทศ 10 แห่ง เพื่อสร้างการรับรู้ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวจากตลาดในต่างประเทศเข้าสู่จังหวัดเมืองรองที่เป็นบัดดี้
ได้แก่ ททท.ลอนดอน จับคู่กับททท.แม่ฮ่องสอน, ททท.ปารีส จับกับททท.เลย , ททท.เยอรมัน จับกับททท.พังงา, ททท.มอสโคว จับกับททท.เพชรบุรี,ททท.โรม คู่กับททท.สุโขทัย,ททท.สต็อกโฮม คู่กับนครศรีธรรมราช,ททท.ปราก คู่ ตรัง,ททท.ดูไบ คู่สมุทรสงคราม,ททท.นิวยอร์ค คู่ตราดและททท.ลอสแองเจลิส คู่ชุมพร
การจับคู่ที่เกิดขึ้นททท.แต่ละสำนักงานในต่างประเทศ ต้องดูแลจังหวัดที่เป็นคู่บัดดี้ของตัวเองเข้าไปช่วยทำตลาด สำนักงานในต่างประเทศมีหน้าที่หาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเที่ยว ททท.ในประเทศประสานกับท้องถิ่นและจังหวัด เพื่อพัฒนาการให้บริการที่สอดรับความต้องการและพฤติกรรมของ
นักท่องเที่ยวบนรากฐานที่คงความเป็นคาแร็กเตอร์ของท้องถิ่นนั้นซึ่งโครงการนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 10 จังหวัดก็เห็นชอบในโครงการนี้ และจะร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้เมืองรองเหล่านี้ สามารถขับเคลื่อนการขายในเวทีโลกได้
ทั้งหมดล้วนเป็นแผนการทำงานในตลาดระยะกลางและไกลของททท. ที่จะเกิดขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,227 วันที่ 15 - 18 มกราคม 2560
เปิด 2 สนง.รุกอเมริกาใต้-แคนาดา
ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากทั้ง 4 ภูมิภาคนี้ เดินทางมาเที่ยวไทยราว 8.42 ล้านคน คิดเป็น 25.85% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทย 32.5 ล้านคน และสร้างรายได้เข้าประเทศ 627,427 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 38.23% ของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งการรักษาตลาดในภูมิภาคดังกล่าว ให้เติบโตได้ทั้งในแง่ของจำนวนและรายได้ ก็ถือว่าทำได้ดี ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชลอตัว การขยายตัวที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าเป็นเพราะตลาดหลักอย่างนักท่องเที่ยวรัสเซียเริ่มกลับมา ในปีที่ผ่านมามีถึง 1.05 ล้านคน และเป็นตลาดที่มีการใช้จ่ายสูงเป็นอันดับ1 อันดับ 2 คือ นักท่องเที่ยวจาก สหราชอาณาจักร ที่แตะ 1 ล้านคนแล้ว ซึ่งช่วงแรกททท.อาจมีความกังวลเงินปอนด์อ่อนค่า จากเรื่องเบร็กซิท (Brexit)แต่เงินปอนด์ก็อ่อนค่าในทุกสกุลเงิน ไม่ใช่เฉพาะเงินบาท ประกอบกับราคาโรงแรมในไทย จากซัพพลายที่มีมาก ก็ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจกับการจ่ายเงินในราคาระดับ3 ดาวครึ่งถึง 4 ดาวแต่ได้พักในโรงแรมระดับ 5 ดาว
ขณะที่ตลาดฝรั่งเศส เยอรมนี ก็เติบโตทิศทางบวก และตลาดระยะไกลมากๆอย่างภูมิภาคอเมริกา ก็มีการขยายตัวดีมากจากทางอเมริกาใต้ อย่างบราซิล อาเจนตินาไปจนถึงแคนาดา ที่รายได้ขยายตัวในระดับ 2 หลัก และจำนวนก็ขยายตัว ทั้งๆที่ททท.มีเพียง 2 สำนักงาน คือ ที่นครลอสแองเจลีสและนิวยอร์ก ดูแลทั่วภูมิภาคอเมริกา ดังนั้นในปีนี้เพื่อเป็นการเจาะตลาดนี้ให้ครอบคลุม ททท.มีแผนจะเปิดสำนักงานใหม่ภายในปีนี้ 2 แห่ง คือ สำนักงานททท.ที่โตรอนโต ดูแลแคนาดา และ สำนักงานที่เซาเปาลูดูแลฝั่งอเมริกา ซึ่งจัดว่าเป็นตลาดใหม่ ที่ททท.จะรุกเข้าไปโปรโมตการท่องเที่ยวในปีนี้ภายใต้เป้าหมายในปีนี้ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยว ในตลาดระยะกลางและไกล ให้เติบในอัตรา 10%(ยุโรป 9.09% ,อเมริกา 14.04% ตะวันออกกลาง 11.03% แอฟริกา 9.47%)
ผนึกแอร์ไลน์เจาะตลาดเมืองใหม่
ทั้งนี้วิธีการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ตามทฤษฏีจะมี 3 ทาง คือ 1.การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 2. การเพิ่มวันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยว และ3.การเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป ซึ่งจากการวิเคราะห์จากฐานข้อมูลของททท.สำหรับตลาดระยะกลางและระยะไกล จากสถิติสะท้อนชัดเจนว่า การเพิ่มวันพักเฉลี่ย จะทำได้ยาก ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ เพราะแม้ตลาดเหล่านี้จะมีวันพักเฉลี่ยสูงมาก อย่าง นักท่องเที่ยวสวีเดน พักนานที่สุด คือ 19.41 วัน อังกฤษ 17.41 วัน รัสเซีย 17.04 อเมริกา 13.59 วัน แต่การเติบโตของวันพักเฉลี่ยมีอัตราการเพิ่มไม่ถึง 1%
จากข้อมูลตรงนี้ทำให้การเน้นการเพิ่มรายได้ในตลาดที่รองธเนศวร์ดูแลอยู่ จะเน้นใน 2 ทาง คือ การเพิ่มนักท่องเที่ยวและการเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป โดยมุ่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ในการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพให้เดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนทางการท่องเที่ยว โดยนำการท่องเที่ยวเข้าไปกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
วิธีการเพิ่มรายได้จากการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ททท.จะเน้นเจาะตลาดใหม่ ทั้งในลาตินอเมริกา แคนาดา ยุโรปกลาง-ยุโรปตะวันออก อย่าง สาธารณรัฐเชค โปแลนด์ ฮังการี หรือแม้แต่ตลาดตะวันออกกลาง ก็จะขยายไปยังกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานในตะวันออกกลางที่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะคนยุโรปเพื่อดึงให้เดินทางมาเที่ยวไทยเป็นครั้งแรก และการเจาะตลาดเดิม แต่เน้นไปที่เมืองใหม่ อาทิ ประเทศเยอรมันนีจะไปเจาะเมืองรอง เช่น มิวนิก,สตุ๊ตการ์ท,ดุสเซลดอร์ฟประเทศอังกฤษ ก็จะขยายไปยังแมนเชสเตอร์ เบอร์มิ่งแฮม สก็อตแลนด์ ไปถึงไอร์แลนด์ประเทศรัสเซีย ก็จะเน้นไปยังกลุ่มซีไอเอส เช่น คาซัคสถาน อุซเบกิสสถาน ยูเครน ส่วนตะวันออกกลาง ก็เช่น อิหร่าน กาตาร์เป็นต้น
เพื่อเดินทางมาไทย จากบริการ 6 เส้นทางหลักจากสหรัฐอเมริกาและเตรียมจะลงนามเอ็มโอยู กับเอธิฮัดในการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวยุโรป เพราะมีเที่ยวบินจากตะวันออกกลางสู่ยุโรปในเมืองรองหลายเส้นทาง และการเตรียมร่วมมือกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวแอฟริกา เนื่องจากมีหลายเส้นทางที่การบินไทยไม่ได้ทำการบิน
ส่วนวิธีการเพิ่มค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปของนักท่องเที่ยว จะขยายฐานตลาดที่มีรายได้ระดับกลาง-บน (รายได้ต่อคนตั้งแต่ 2 หมื่นเหรียญดอลล่าร์สหรํบต่อคนต่อปีขึ้นไป) นำเสนอจุดขายด้านการท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับตลาด อาทิ ยุโรป ต้องเน้น กลุ่มฮันนีมูนและแต่งงาน กลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจวิถีไทย หรือโลคัล เอ็กซ์พีเรียน กลุ่มตะวันออกกลาง เน้นการรักษาสุขภาพ เมดิคัล เวลเนส และกลุ่มครอบครัว เป็นต้น
เปิดตัวโครงการThe LINK
อีกทั้งในปีนี้ททท.ยังมีภารกิจที่รัฐบาล ต้องการให้การท่องเที่ยวช่วยสร้างประโยชน์ให้ชุมชนท้องถิ่น ดังนั้นเพื่อผลักดันให้เกิดรูปธรรมททท.เตรียมจะเปิดตัวโครงการThe Link โดยเป็นการสร้างโมเดลการทำงานในรูปแบบใหม่ ที่จะจับคือเป็นบัดดี้ระหว่างททท. สำนักงานต่างประเทศ10 แห่งในยุโรปและอเมริกา กับททท.สำนักงานในประเทศ 10 แห่ง เพื่อสร้างการรับรู้ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวจากตลาดในต่างประเทศเข้าสู่จังหวัดเมืองรองที่เป็นบัดดี้
ได้แก่ ททท.ลอนดอน จับคู่กับททท.แม่ฮ่องสอน, ททท.ปารีส จับกับททท.เลย , ททท.เยอรมัน จับกับททท.พังงา, ททท.มอสโคว จับกับททท.เพชรบุรี,ททท.โรม คู่กับททท.สุโขทัย,ททท.สต็อกโฮม คู่กับนครศรีธรรมราช,ททท.ปราก คู่ ตรัง,ททท.ดูไบ คู่สมุทรสงคราม,ททท.นิวยอร์ค คู่ตราดและททท.ลอสแองเจลิส คู่ชุมพร
การจับคู่ที่เกิดขึ้นททท.แต่ละสำนักงานในต่างประเทศ ต้องดูแลจังหวัดที่เป็นคู่บัดดี้ของตัวเองเข้าไปช่วยทำตลาด สำนักงานในต่างประเทศมีหน้าที่หาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเที่ยว ททท.ในประเทศประสานกับท้องถิ่นและจังหวัด เพื่อพัฒนาการให้บริการที่สอดรับความต้องการและพฤติกรรมของ
นักท่องเที่ยวบนรากฐานที่คงความเป็นคาแร็กเตอร์ของท้องถิ่นนั้นซึ่งโครงการนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 10 จังหวัดก็เห็นชอบในโครงการนี้ และจะร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้เมืองรองเหล่านี้ สามารถขับเคลื่อนการขายในเวทีโลกได้
ทั้งหมดล้วนเป็นแผนการทำงานในตลาดระยะกลางและไกลของททท. ที่จะเกิดขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,227 วันที่ 15 - 18 มกราคม 2560