เปิดแนวรบ "แกรนด์สปอร์ต" หลังหลุดสปอนเซอร์ชุดฟุตบอลชาติไทย มั่นใจไร้ผลกระทบ เดินหน้าบุกเอเชีย หนุนทั้งทีมชาติ ทีมสโมสรฟุตบอล - วอลเลย์บอลในจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว เมียนมา ล่าสุดเตรียม MOU กับสมาพันธ์วอลเลย์บอลเอเชีย มั่นใจสิ้นปีโกยยอดทะลุ 1,500 ล้านบาท
นายธิติ พฤกษ์ชอุ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา ภายใต้ชื่อ "แกรนด์สปอร์ต" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การที่แกรนด์สปอร์ตไม่ได้รับการต่อสัญญาเป็นผู้ผลิตเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ราว 10% ของรายได้รวมทั้งหมด อีกทั้งบริษัทยังคงเป็นสปอนเซอร์ชุดฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันซีเกมส์ โอลิมปิก เอเชี่ยนบีชเกมส์ ลูกฟุตบอล รวมถึงชนิดกีฬาอื่นๆ ทั้งวอลเลย์บอล ยกน้ำหนัก ว่ายน้ำ ฮอกกี้ รวมถึงการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ อาทิ กีฬามหาวิทยาลัย กีฬาโรงเรียนสาธิต เป็นต้น
"แกรนด์สปอร์ตเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอลชาติไทยเพียงแค่ 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องยอมรับว่า 2 ปีแรกขาดทุน เพราะฟุตบอลไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนัก เพิ่งจะเริ่มดีขึ้นใน 2 ปีหลัง และนับจากนี้แมตช์การแข่งขันใหญ่ ๆ ก็ลดลง ดังนั้นการไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ต่อจึงไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก เพราะบริษัทเป็นมีสินค้ากีฬาต่าง ๆ กว่า 100 ประเภท จึงเป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสรต่าง ๆ มากมาย เช่น เอสซีจีเมืองทองฯ, การท่าเรือฯ ฯลฯ รวมถึงวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้กัน"
เป้าหมายของบริษัทนับจากนี้จะเป็นการก้าวสู่เวทีเอเชียและอาเซียน โดยล่าสุดบริษัทบรรลุข้อตกลงการเป็นผู้สนับสนุนสมาพันธ์วอลเลย์บอลเอเชีย (Asian Volleyball Confederation : AVC) ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเอเชียในปีนี้และกำลังจะมีการลงนามในสัญญา (MOU) กันเร็วๆ นี้ ทำให้โลโกของแกรนด์สปอร์ตจะไปโดดเด่นอยู่ในสนามแข่งขันทุกแมตช์ รวมถึงชุดกีฬาต่างๆ โอกาสในการที่เอเยนต์ในเอเชียและอาเซียนที่ชมการแข่งขันจะเห็นมากขึ้น จึงส่งผลต่อการสร้างแบรนด์และขยายตลาดในอนาคต
ในปีนี้บริษัทยังเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมวอลเลย์บอลปักกิ่ง ทีมชั้นนำในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีนายเกียรติพงษ์รัชตเกรียงไกร หรือโค้ชอ๊อด เป็นหัวหน้าทีมผู้ฝึกสอน มีนักกีฬาระดับทีมชาติของสหรัฐอเมริกา และทีมชาติจีน ทำให้ภาพลักษณ์ของแกรนด์สปอร์ตดีตามไปด้วย เช่นเดียวกับการเป็นสปอนเซอร์ให้กับวอลเล่ย์บอลทีมชาติออสเตรเลียทั้งทีมชายและหญิง ซึ่งทีมชายทำผลงานได้ดีติดอันดับท็อป 10 ของโลก และยังเริ่มวางจำหน่ายผ่านทาง www.grandsportjapan.co.jp โดยนักธุรกิจญี่ปุ่นซึ่งจัดทำเว็บไซต์จำหน่ายผ่านทางออนไลน์ด้วย
"แกรนด์สปอร์ตเป็นแบรนด์กีฬาไทยแบรนด์แรกที่รุกเข้าไปทำตลาดในเอเชียอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการเป็นสปอนเซอร์เพื่อสร้างให้คนคุ้นเคย จนเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งการรุกทำตลาดในจีน ญี่ปุ่น และออสเตรเลียถือเป็นประเทศหลัก ในอนาคตจะมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย รวมทั้งการเพิ่มทีมและชนิดกีฬา"
อย่างไรก็ดี การรุกเข้าไปทำตลาดต้องแข่งขันกับแบรนด์ในท้องถิ่น และยุโรป ซึ่งมีขนาดและกำลังที่มากกว่า ดังนั้นการจะขยายตลาดจึงต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และต้องคัดเลือกผู้ที่จะมาร่วมดำเนินธุรกิจที่ดี และมีแนวคิดเดียวกัน แตกต่างกับการทำตลาดในอาเซียน ซึ่งคู่แข่งที่พบส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ไทยด้วยกัน
ล่าสุดบริษัทเปิดแกรนด์สปอร์ตช็อปในประเทศเวียดนาม และสปป.ลาว เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายหลัก หลังจากที่เข้าเป็นสปอนเซอร์ฟุตบอลทีมชาติเวียดนามและลาว รวมถึงวอลเล่ย์บอล และชนิดกีฬาอื่นๆ จนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในทั้ง 2 ประเทศ และล่าสุดบริษัทมีแผนขยายตลาดไปยังเมียนมา หลังจากที่ศึกษาตลาดแล้วพบว่า เริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้น และแกรนด์สปอร์ตยังเข้าเป็นสปอนเซอร์ให้กับย่างกุ้ง ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลดังของเมียนมาอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวางจำหน่ายในอีกหลายประเทศผ่านตัวแทนจำหน่ายอาทิ ฟิลิปปินส์ และประเทศในตะวันออกกลาง เป็นต้น
ด้านกลยุทธ์การทำตลาดในประเทศไทย นายธิติ กล่าวว่า บริษัทมีแผนลงทุน ขยายแกรนด์สปอร์ตช็อป เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่าย โดยล่าสุดบริษัทเพิ่งเปิดร้านแห่งใหม่ที่เทอร์มินอล 21 โคราช และได้รับการตอบรับดีมาก จึงมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก
"โคราชถือเป็นเมืองของแกรนด์สปอร์ตก็ว่าดี ที่ผ่านมามียอดขายดีโดยตลอด ล่าสุดการเปิดช็อปใหม่ ที่เทอร์มินอล 21 โคราชกระแสตอบรับดีมาก ส่วนสาขาเดิมที่เดอะมอลล์ โคราชก็ยังยอดขายดี ทำให้บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่ร้านค้าปลีกอื่นยังมีครอบคลุมทั้งร้านขายชุดและอุปกรณ์กีฬาตามจังหวัดต่างๆ และร้านในห้างสรรพสินค้าอย่างซูเปอร์สปอร์ต และสปอร์ตมอลล์ เป็นต้น"
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ราว 1,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้ราว 1,200 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้หลังจากที่ต้องชะลอการขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
อนึ่งในการประมูลหาผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ในการเป็นผู้ผลิตชุดกีฬาให้กับทีมฟุตบอลชาติไทย เป็นระยะเวลา 4 ปี นับจากปี 2560 มีผู้เสนอแผน 3 บริษัทได้แก่ แกรนด์สปอร์ต, วาริกซ์สปอร์ต และ วาร่า การ์เม้นท์ โดยวาริกซ์สปอร์ต ชนะการประมูลด้วยมูลค่า 400 ล้านบาท ขณะที่แกรนด์สปอร์ต สปอนเซอร์เดิมเสนอมูลค่า 44 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,227 วันที่ 15 - 18 มกราคม 2560