มาสด้า เดินหน้าลุยตลาดรถปีระกา เตรียมอวดรถ 6 รุ่น และขยายเครือข่ายภายใต้รูปลักษณ์ใหม่ Mazda Corporate Identity พร้อมจับมือพันธมิตรการเงินหวังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า มั่นใจสิ้นปี 2560 ส่วนแบ่งตลาดเติบโตมากกว่า 6 %
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ในปี 2560 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5 – 8 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 8 แสนคัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนได้แก่ ภาพรวมเศรษฐกิจ,การเดินหน้าตามนโยบายโรดแมบที่รัฐฯได้ประกาศไว้ ส่วนความเข้มงวดของสถาบันการเงินถือว่าผ่อนคลายกว่าปีที่ผ่านมา เพราะอัตราหนี้เสียน้อยลง เช่นเดียวกับหนี้ครัวเรือนของผู้บริโภคก็มีการประเมินกันว่าจะลดลง ด้านปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองคือการเมือง
ขณะที่มาสด้าคาดว่าจะมียอดขายในปี 2560 จำนวน 5 หมื่นคัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำยอดขายได้ 42,537 คัน และส่วนแบ่งทางการตลาดในปีนี้จะทำได้มากกว่า 6 % เติบโตเมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 5.5%
“ภาพรวมตลาดในปีนี้มีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่ง และในกลุ่มรถเอสยูวี อย่างไรก็ดีการแข่งขันด้านโปรโมชั่นจะไม่ดุเดือดเหมือนที่ผ่านมา สำหรับมาสด้าในปีนี้มีพันธมิตรที่เป็นแคปทีฟไฟแนนซ์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งราย คือธนชาติ จากเดิมที่มีทิสโก้ ซึ่งจุดนี้เองจะทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มขึ้น และการอนุมัติสินเชื่อก็น่าจะดีขึ้นเช่นเดียวกัน ”
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านแผนงานและกลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ จะประกอบไปด้วยการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 6 – 8 แห่งทั้งในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัด ภายใต้รูปลักษณ์ใหม่ Mazda Corporate Identity
“คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการจำนวน 147 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากจะเน้นขยายแล้วยังจะยกระดับการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย และเราจะเยี่ยมเยือนดีลเลอร์ทุกเดือนเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเรามีการดูแลใส่ใจ ไม่ทิ้งดีลเลอร์”
ส่วนแผนงานด้านผลิตภัณฑ์ จะมีการเปิดตัวรถ 6 รุ่น โดยแบ่งเป็นโมเดลใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ซี-เอ็กซ์ 9 ,เอ็มเอ็กซ์ 5 และไมเนอร์เชนจ์ 4 รุ่น ซึ่งในวันที่ 24 มกราคมนี้จะทำการเปิดตัวรถยนต์นั่ง มาสด้า 3 ไมเนอร์เชนจ์
“ปีที่ผ่านมาเรามีการเปิดตัวรถ 5 รุ่น โดยเป็นรุ่นปรับโฉม ซึ่งผลการตอบรับของลูกค้าถือว่าดีและเป็นปีทองของเราดังจะเห็นจากยอดขายที่เติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นด้วยกัน และในปีนี้เรายังเดินหน้าเปิดตัวรถอีก 6 รุ่น และรถธงยังคงเป็นมาสด้า 2 ซึ่งในเซกเมนต์นี้มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนรถปิคอัพบีที -50 โปร ในรุ่นยกสูงถือว่าการตอบรับยังดี แต่ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในช่วงไตรมาส 3 ”
ขณะที่กลยุทธ์ทางการตลาดด้านอื่นๆยังคงเดินหน้า ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง และมอเตอร์สปอร์ต โดยยังคงสนับสนุน ทีม สวาทแคท และการพัฒนารถในทีมมอเตอร์สปอร์ต ,การจัดกิจกรรมฟุตบอล
ด้านนายอัตสึชิ ยาสึโมโต รองประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าไทยถือเป็นตลาดหลักที่สำคัญของมาสด้าในการสร้างยอดขาย และไทยยังถูกจัดอยู่ใน 10 อันดับแรกของประเทศที่มียอดขายสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นจากตัวเลขการเติบโตด้านยอดขายในปีที่ผ่านมาที่ เพิ่มขึ้นกว่า 8% คิดเป็นส่วนส่วนแบ่งการตลาด 5.5% หรือเพิ่มขึ้น 0.7% จากปีก่อนหน้า
“ไทยเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตเป็นอันดับ 1 ของมาสด้าทั่วโลก และเป็นตลาดอันดับ 2ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดรองจากออสเตรเลีย อีกทั้งไทยยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของมาสด้า และเป็นฐานการผลิตครบวงจรแห่งแรกนอกจากประเทศญี่ปุ่นของมาสด้า ที่สามารถผลิตทั้งเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และการประกอบรถยนต์ โดยโรงงานมาสด้า พาวเวอร์เทรน แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ที่ตั้งอยู่จังหวัดชลบุรี มีการผลิตและส่งออกระบบเกียร์อัตโนมัติ สกายแอคทีฟ ไปยังเม็กซิโก,จีน และภูมิภาคอื่นๆ หรือโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ในจังหวัดระยอง ก็มีการผลิตและส่งออก มาสด้า 3,มาสด้า 2 ,มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 และมาสด้า บีที-50 โปร”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,227 วันที่ 15 - 18 มกราคม 2560