‘ออสซี่’แบนกุ้งไทยไม่สะเทือน ชี้ตลาดเล็ก-มกอช.เร่งเจรจา

16 ม.ค. 2560 | 13:00 น.
ห้องเย็นชี้ออสซี่ห้ามนำเข้ากุ้งสดจากไทย 6 เดือนกระทบไม่มาก เหตุส่วนใหญ่ส่งออกรูปกุ้งแปรรูป ยันห่วงเรื่องน้ำท่วมผลผลิตกุ้งเสียหาย-นโยบายทรัมป์กีดกันหวั่นกระทบส่งออกตลาดสหรัฐฯมากกว่า ด้าน มกอช.เร่งเจรจายกเลิกมาตรการ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งฯโชว์ตัวเลขสัดส่วนตลาดแค่ 4.5%

จากที่ กระทรวงเกษตรและทรัพยากรฯออสเตรเลียได้ออกประกาศระงับการนำเข้าสินค้ากุ้งดิบและเนื้อกุ้งดิบจากหลายประเทศ เช่น เวียดนาม จีน มาเลเซีย รวมถึงไทย เป็นระยะเวลา 6 เดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2560 เป็นต้นไป หลังพบโรคตัวแดงดวงขาว(WSSV)ระบาดในฟาร์มกุ้งของออสเตรเลียเป็นครั้งแรก และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้แก่เกษตรกรฟาร์มเลี้ยงกุ้งในรัฐควีนส์แลนด์แล้วไม่น้อยกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสันนิษฐานว่าการปนเปื้อนและการระบาดของโรคดังกล่าวมาจากกุ้งสดแช่แข็งที่มีการนำเข้าจากเอเชียนั้น

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ให้ความเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า การระงับการนำเข้าดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบกับไทยมากนัก เพราะที่ผ่านมา 3-4 ปี ประเทศไทยมีการระบาดของโรคกุ้งหลายโรค เช่นตัวแดงดวงขาว และโรคอื่น ๆ ทำให้ออสเตรเลียเพิ่มความเข้มงวดในการนำเข้ากุ้งสด มีผลให้ผู้ส่งออกไทยให้ความสนใจส่งกุ้งออกสดแช่แข็งไปออสเตรเลียค่อนข้างน้อย

ส่วนกรณีที่มีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้ และมีผลให้บ่อเลี้ยงกุ้งในพื้นที่หลายจังหวัดได้รับผลกระทบนั้นยังไม่ทราบความเสียหายที่ชัดเจน ซึ่งทางชมรมผู้เลี้ยงกุ้งในแต่ละจังหวัด อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย คาดเมื่อเหตุการณ์กลับสู่ปกติแล้ว ผู้เลี้ยงจะสามารถเร่งผลิตเพื่อป้อนความต้องการของตลาดได้ ดังนั้นในปีนี้ยังคาดการณ์ผลผลิตกุ้งไทยในภาพรวมปี 2560 คาดจะมีผลผลิตที่ระดับ 3.5 แสนตัน และในจำนวนนี้คาดจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัน

สอดคล้องกับนายผณิศวร ชำนาญเวช นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยที่กล่าวว่า การระงับการนำเข้ากุ้งดิบ หรือกุ้งสดของออสเตรเลีย ไม่มีผลกระทบกับการส่งออกสินค้ากุ้งของไทยไปออสเตรเลียมากนัก เพราะปัจจุบันกุ้งที่ไทยส่งออกไปออสเตรเลียส่วนใหญ่เป็นกุ้งแปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่ม และที่ผ่านมาราคากุ้งสดแช่แข็งของไทยก็ไม่สามารถแข่งขันได้กับกุ้งที่จับจากธรรมชาติหรือจับจากทะเล รวมถึงจากฟาร์มเลี้ยงกุ้งในออสเตรเลียที่มีราคาถูกกว่ากุ้งไทยมากได้ ไม่จูงใจให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกกุ้งสดไปจำหน่าย

"ภาพรวมการนำเข้าสินค้ากุ้งทุกประเภทของออสเตรเลียจากไทยแต่ละปีไม่มากนัก ซึ่งน้อยกว่าหลายประเทศที่นำเข้ากุ้งจากเรา เช่น เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน การห้ามนำเข้าเราไม่ห่วง แต่ที่เราห่วงมากกว่า คือน้ำท่วมภาคใต้ ทำให้บ่อเลี้ยงกุ้งได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจทะให้กุ้งในบางพื้นที่หายไป 1 คร็อป"

ส่วนกรณีที่นายโดนัลด์ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐฯที่จะเข้าสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2560 มีแนวนโยบายกีดกันการค้า เรื่องนี้ในส่วนของสินค้ากุ้งของไทย ซึ่งมีตลาดใหญ่สุดที่สหรัฐฯก็กังวลใจ แต่หากสหรัฐฯกีดกันสินค้ากุ้งไทยผู้ที่เดือดร้อนคือผู้นำเข้าและผู้บริโภคของสหรัฐฯเอง

ด้านนางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.) กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย มกอช. และกรมประมงจะเร่งติดตามและหาทางแก้ไขปัญหา โดยจะหารือใกล้ชิดกับออสเตรเลียเพื่อให้มีการยกเลิกมาตรการห้ามเข้าโดยเร็ว เชื่อมั่นว่าสาเหตุการระบาดของโรค WSSV ไม่ได้เกิดจากกุ้งนำเข้าจากไทยแน่นอน

ด้านแหล่งข่าวจากสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย เผยว่าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2559 ไทยมีการส่งออกกุ้งสดแช่แข็งและกุ้งแปรรูปปริมาณ 1.71 แสนตัน มูลค่า 5.71 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.0 และ 24.7% ตามลำดับ ซึ่งไทยส่งออกไปตลาดสหรัฐฯมากสุดโดยมีมูลค่า 2.46 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 43.1% ขณะที่การส่งออกไปตลาดออสเตรเลียมีมูลค่า 2,906 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.5%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,227 วันที่  15 - 18  มกราคม 2560