สิงคโปร์ทำโรดแมปเศรษฐกิจใหม่

14 ม.ค. 2560 | 14:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

หมดยุคเศรษฐกิจโลกเก่า รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมทำโรดแมปเศรษฐกิจประเทศแห่งอนาคตหาโมเดลเพื่อการเติบโตใหม่ รับมือเศรษฐกิจโลกยุคโดนัลด์ ทรัมป์ และช่วงขาลงของเศรษฐกิจจีน

นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ประกาศในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ปีระกา ว่าพิมพ์เขียวเศรษฐกิจแห่งอนาคตของสิงคโปร์ใกล้เสร็จแล้ว และเศรษฐกิจสิงคโปร์จะพึ่งหัวรถจักรตัวใหม่ที่ไม่ใช่การค้าระหว่างประเทศ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่ารัฐบาลสิงคโปร์เตรียมรับมือการขยายตัวเศรษฐกิจที่ลดลงอย่างต่อเนื่องโดยในปีที่แล้วเศรษฐกิจขยายตัวต่ำสุดในรอบ 7 ปี ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งอนาคตตั้งแต่เดือนธันวาคม 2558 เพื่อร่างเส้นทางเดินทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศใหม่แบบเดียวกับที่เคยจัดทำขึ้นในปี 2553 ซึ่งทำให้ประเทศสิงคโปร์เจริญก้าวหน้ามาจนทุกวันนี้

หนังสือพิมพ์สเตรตส์ไทม์ส รายงานว่า คณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งอนาคตของสิงคโปร์ซึ่งมีสมาชิก 30 คนจากภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันออกพบปะพูดคุยกับคณาจารย์ในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ นักวิชาการ และผู้นำจากภาคธุรกิจเพื่อเฟ้นหาอุตสาหกรรมและตลาดใหม่ ๆ ที่มีโอกาสขยายตัว และทำให้วิสาหกิจสิงคโปร์มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ทำให้เกิดการสร้างงานและเกิดการพัฒนาเมือง

คณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งอนาคตมีนายเฮง สวี เคียท รัฐมนตรีกระทรวงการคลังและนายเอส. อีสวาราน รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม เป็นประธานร่วมและมีนายชาน ชุน ซิง (Chan Chun Sing) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักการเมืองดาวรุ่งของวงการการเมืองของสิงคโปร์เป็นรองประธาน

นายไบรอัน ตัน (Brian Tan) นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทโนมูระโฮลดิ้งส์ฯ ในสิงคโปร์กล่าวว่าโรดแมปที่จัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการที่รัฐบาลสิงคโปร์ จัดตั้งขึ้น มักจะเป็นแนวทางที่มีการนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยรัฐบาลจะปรับเปลี่ยนนโยบายรัฐในอนาคตให้สอดคล้องกับโรดแมป

นายซง เสง วุน (Song Seng Wun) นักเศรษฐศาสตร์ของแผนกวิจัยบริษัทซีไอเอ็มบีไพรเวทแบงก์ที่สิงคโปร์กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ชุดนี้น่าจะเน้นที่เทคโนโลยีการเงินและนานาโนเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตของคนสิงคโปร์เพื่อรับมือกับภาวะการลดลงของประชากรในอนาคตอันใกล้

นายซง กล่าวว่า ‘สิงคโปร์ต้องมองหากลเม็ดที่ทำให้ ประเทศยังคงเติบโตได้ ปัญหาอยู่ที่ว่าประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีขนาดเล็กและระบบเศรษฐกิจเปิด จะอยู่อย่างไรเมื่อสื่อโซเชียลและการพัฒนาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เส้นเขตแดนจางหายไป สิงคโปร์ไม่ได้อยู่กับพื้นที่เล็ก ๆ ของประเทศอีกต่อไป’

บลูมเบิร์ก ระบุว่าสิงคโปร์จะต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ภายใต้โรดแมปของพิมพ์เขียวเศรษฐกิจแห่งอนาคต ซึ่งไม่ใช่เป็นสิ่งเหนือบ่าฝ่าแรงมากนักเนื่องจากสิงคโปร์ ได้ผ่านยุคการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ มาหลายครั้งอาทิในทศวรรษ 1990 ประเทศนี้ได้เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจมากเน้นเคมีภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมและเริ่มพัฒนาวิทยาการทางด้านชีวเวชศาสตร์

การพัฒนาทางด้านชีวเวชศาสตร์อย่างจริงจังทำให้ผลผลิตทางด้านนี้ของประเทศมีมูลค่าถึง 18,600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 669,600 ล้านบาท) ในปี 2558 ซึ่งเท่ากับ 10 % ของผลผลิตอุตสาหกรรมทั้งหมด

นายตัน กล่าวว่าการจ้างงาน จะเป็นอีกด้านหนึ่งที่คณะกรรมการฯ ให้ความสนใจในการทำโรดแมป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการฝึกอบรมผู้สูงอายุให้สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากมีข้อมูลที่ชัดเจนว่า ตำแหน่งงานบางประเภทกำลังจะหายไป ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการโยกย้ายแรงงานที่ตกงานจากตำแหน่งที่หายไปให้เข้าสู่ภาคธุรกิจใหม่ ๆ ได้ทันเวลา

นักวิเคราะห์ในสิงคโปร์ระบุชัดว่าการทำโรดแมปเศรษฐกิจประเทศใหม่ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์ได้เวลาจะต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,226 วันที่ 12 - 14 มกราคม 2560