‘อาร์เอส’ลงทุนเพิ่มคอนเทนต์ ส่งซีรีส์ฟอร์มยักษ์ปลุกธุรกิจทีวีดิจิตอลคึกคัก

13 ม.ค. 2560 | 07:00 น.
มั่นใจธุรกิจทีวีดิจิตอลเติบโตดี "อาร์เอส" ลุยเพิ่มคอนเทนต์มั่นใจโกยรายได้ 3,500 ล้านบาท ล่าสุดทุ่มซื้อซีรีส์ฟอร์มยักษ์ตำนานรักสีดา-พระราม จากแดนภารต คาดเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้าหลังฐานผู้ชมทะลุ 5 แสนราย

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลในปีนี้จะเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศใช้มาตรา 44 ขยายเวลาจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลออกไป และกองทุนวิจัย กสทช. เข้ามาสนับสนุนค่าใช้จ่ายส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมตามกฎมัสต์แครี่ รวมไปถึงนโยบายต่างๆ ที่ภาครัฐออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ และการผ่อนคลายของสถานการณ์บ้านเมือง ทำให้เชื่อว่าเจ้าของสินค้าจะกล้ากลับมาใช้งบทำการตลาดและโฆษณามากขึ้น

ทั้งนี้เชื่อว่าเม็ดเงินโฆษณาส่วนใหญ่จะยังคงกระจุกตัวอยู่แค่ 5 ช่องแรกที่ครองเรตติ้งสูงสุด ขณะที่ในปีที่ผ่านมา ช่อง 8 ประสบความสำเร็จครองเรตติ้งท็อปไฟว์ของเมืองไทยถือเป็นตำแหน่งที่สามารถช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณาจากตลาดได้ โดยมี 3 คอนเทนต์ที่แข็งแกร่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดสายตาผู้ชม คือ ละคร ข่าวและมวย

ด้านกลยุทธ์การทำตลาด ภายใต้แนวคิด The 8 perienceมุ่งเน้นนำเสนอผ่าน 4 คอนเทนต์หลักๆ คือ ละคร, ข่าว, กีฬา และวาไรตี เป็นแรงส่งสำคัญผลักดันให้เรตติ้งของช่องเติบโต ทำให้จะได้เห็นสัดส่วนคอนเทนต์บนหน้าจอแตกต่างกันไป โดยวันจันทร์-พฤหัสบดีก็จะได้ดูทั้งซีรีส์และละครใหม่แกะกล่องในช่วงไพรม์ไทม์ ในขณะที่ วันศุกร์-อาทิตย์ ผู้ชมช่อง 8 ก็จะได้มันสะใจกับกีฬาต่อสู้ จากรายการมวยในรูปแบบต่างๆอย่างจุใจ พร้อมทั้งเตรียมจัดกิจกรรมทางการตลาด "ช่อง 8 พบเพื่อน" ครอบคลุมทั่วประเทศ และวางแผนจะซื้อสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ครบวงจรเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย

"ล่าสุดบริษัททุ่มทุนซื้อลิขสิทธิ์ "สีดาราม ศึกรักมหาลงกา" อภิมหาซีรีส์ฟอร์มยักษ์จากประเทศอินเดีย มาออกอากาศ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยซึ่งเหตุผลที่เลือกเรื่องนี้ เพราะมองว่าเป็นการนำมหากาพย์วรรณกรรมสุดคลาสสิกมาทำทีวีซีรีส์แนวดราม่า แอกชัน แฟนตาซี จึงมั่นใจว่าจะกระแสตอบรับดีและประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องราวที่คนไทยคุ้นเคย เข้าถึงได้ง่าย สนุก ที่สำคัญยังถือเป็นครั้งแรกที่คนไทยจะได้รับชมมหาตำนานความรักของสีดาและพระราม ระดับต้นฉบับรามายณะที่สมบูรณ์แบบที่สุดทั้งเนื้อหาและงานสร้างสมจริงสุดยิ่งใหญ่อลังการด้วยทุนสร้างกว่า 1,500 ล้านบาท"

นอกจากนี้ยังมีละครใหม่อีก 9 เรื่อง ได้แก่ เชลยศึก เงาเสน่หา ทรายย้อมสี, เงาอาถรรพ์, เพลิงรักไฟมาร, เกมรักพยาบาท, เสน่ห์นางครวญ, ใจลวง และคุณผู้หญิงบานเบอะที่จะทยอยออกอากาศตลอดปี รวมถึงรายการวาไรตีอย่าง เสียงสวรรค์พิชิตล้านและเสียงสวรรค์ฟันน้ำนม เพื่อรองรับกลุ่มผู้ชมครอบครัวด้วย

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า แต่ละธุรกิจมีความโดดเด่น เช่น ไลฟ์สตาร์ในปีนี้บริษัทจะขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านทางโมเดิร์นเทรดและร้านสุขภาพและความงาม รวมทั้งใช้โซเชียลมีเดียและสื่อครบวงจร ส่วนธุรกิจเพลงมีการปรับโมเดลใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเปิดให้ศิลปินเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนผลิตและวางแผนงานอย่างเต็มที่ ด้านธุรกิจวิทยุ จะมีการเพิ่มแอพพลิเคชั่นเพื่อขยายฐานผู้ฟังทุกช่องทาง ซึ่งปัจจุบันถือเป็นผู้นำในตลาดด้วย

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้าที่จะมีรายได้ 3,500 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนมาจากธุรกิจสื่อ 75% ธุรกิจสุขภาพและความงาม 15% ธุรกิจเพลง 5% และอื่นๆ 5% โดยในสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายให้ช่อง 8 มีจำนวนสายตาผู้ชม (Eye ball) เฉลี่ย 5 แสนรายต่อนาที จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.5 แสนรายต่อนาที และคาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการปรับราคาโฆษณาเพิ่มให้สอดรับกับเรตติ้งที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนอัตราค่าโฆษณาที่ขายสูงสุดอยู่ในช่วงละครไพรม์ไทม์และรายการกีฬายอดนิยมเรตติ้งอันดับ 1 ของประเทศอย่าง "8 แม็กซ์ มวยไทย"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,226 วันที่ 12 - 14 มกราคม 2560