ผู้รับเหมาขาใหญ่ 23 ราย รับงานประมูลก่อสร้างมอเตอร์เวย์เฟส 2 มูลค่าเฉียด 5 หมื่นล้าน ประเดิมศักราชใหม่ ซิโน-ไทย ช.การช่าง กรุงธนเอนยิเนียร์ เชียงใหม่คอนสตรัคชั่น ประยูรวิศว์มาครบ กรมทางหลวงเร่งเซ็นสัญญา 31 ตอนการก่อสร้าง
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โครงการสร้างถนนมอเตอร์เวย์เฟส 2 เส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมาและบางใหญ่-กาญจนบุรี เป็น 2โครงการที่ต้องเปิดประมูลตามแผนงาน
หลังจากผ่านพ้นปี 2559 เข้าสู่ปี 2560 เพียงแค่ 6 วัน กรมทางหลวงในฐานะเจ้าของโครงการ ได้รายชื่อบริษัทรับเหมาที่ผ่านการคัดเลือกในการประกวดราคางานก่อสร้างแล้ว
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.)เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่ากรมจะเร่งรัดเซ็นสัญญาผู้รับเหมาก่อสร้าง 2 เส้นทางมอร์เตอร์เวย์ในส่วน 31 ตอนที่เหลือ โดยเส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา ที่เหลืออีก 15 สัญญาหรือ 15 ตอนนั้นล่าสุดได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว 14 ตอน(คิดเป็นวงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท)
โดยเหลือเพียงตอนที่ 2 (ราคากลาง 1,943 ล้านบาท)อยู่ระหว่างการปรับแนวหลบโรงงานไทค่อนคาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้างในเร็วๆ นี้
เส้นบางใหญ่ได้รับเหมา15ตอน
ในส่วนเส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่เหลืออีก 16 ตอนขณะนี้ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว 15 ตอน(คิดเป็นวงเงินกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท) เหลืออีก 1 ตอนที่อยู่ระหว่างการปรับแบบช่วงบางใหญ่ของตอนที่ 1 (ราคากลาง 1,645 ล้านบาท) คาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้างเร็วๆ นี้เช่นกัน
ทั้งนี้จะทยอยนำเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาราคากลางให้เหมาะสมหลังจากนั้นจึงจะนำเสนอกระทรวงคมนาคมนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมาทั้ง 31ตอนหรือ 31 สัญญาอย่างเป็นทางการต่อไป (อ่านรายชื่อบริษัทรับเหมา 23 รายที่ได้รับงานในตารางประกอบข่าว)
เร่งเซ็นสัญญาภายในเดือนนี้
โดยงบประมาณบางส่วนของทั้ง 2 มอเตอร์เวย์จะมีงบส่วนหนึ่งบรรจุเอาไว้ในงบประมาณรายปีด้วย โดยทั้ง 29 ตอนในเฟสแรกจะเร่งลงนามสัญญาภายในเดือนมกราคมนี้ทั้งหมด ส่วนโครงการที่ประกวดราคาในเดือนมกราคมซึ่งจัดอยู่ในเฟสที่ 2 ก็จะไปลงนามสัญญาไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งยังเป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้
"บางบริษัทได้รับงานก่อสร้างในเฟสแรกมาแล้วและยังมาชนะการประกวดราคาในเฟสที่ 2 อีก โดยเส้นบางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงแรกประมาณค่าก่อสร้างสูงถึง 4.3 หมื่นล้านบาทแต่สามารถต่อรองปรับลดลงมาเป็น 3.8 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับเส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงแรกประมาณค่าก่อสร้างสูงถึง 6.9 หมื่นล้านบาทแต่สามารถปรับลดลงมาเหลือ 5.9 หมื่นล้านบาท”นายธานินทร์ กล่าว
ยันกรมทางฯเบิกจ่ายงบเข้าเป้า
ทั้งนี้ทล.จะเร่งรัดการเบิกจ่ายงวดแรก 15% ให้ได้มากที่สุด โดยปี 2559 สามารถเบิกจ่ายได้มากกว่าปี 2558 ถึง 3 เท่า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดงบประมาณผ่านโครงการต่างๆโดยเป้าของรัฐบาลกำหนดไว้ต้องเบิกจ่ายให้ได้ 30% ส่วนเป้าของทล.ได้ 19.27% ในไตรมาสแรก ขณะนี้ทำได้แล้วประมาณ 18.88%
“ประยูรวิศว์” ฟัน 4 พันล้าน
ด้านนายสังวรณ์ ลิปตพัลลภกรรมการผู้จัดการ บริษัท ประยูรวิศว์จำกัด กล่าวว่า งานมอเตอร์เวย์ได้รับ 2สัญญา ยืนยันว่าบริษัทมีความพร้อมดำเนินการโดยเตรียมลงทุนเครื่องมือเพิ่มในบางส่วน กำลังคนพร้อมเต็มที่ รวมมูลค่าทั้ง 2 สัญญา 3,000-4,000 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างรายได้อีกไม่น้อยกว่า 2 ปีและยังจะหางานใหม่เข้ามาเพิ่มได้อีกอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี 2560-2561 นี้
กลุ่มวัสดุก่อสร้างลุ้นลงทุนรัฐ
ด้านวัสดุก่อสร้างซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ในปัจจุบันวัตถุดิบหลักที่สำคัญอย่างซีเมนต์ และทราย ยังไม่มีแผนปรับราคา ต้องการดูความชัดเจนการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐที่สามารถเดินหน้าก่อสร้างจำนวนมาก หลังจากปีที่ผ่านมาพลาดเป้า
แหล่งข่าวจากบริษัทท่าทรายเอกปฐพี จำกัด ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายทรายในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าคาดว่าครึ่งปีแรกนี้จะยังไม่มีการปรับราคาทรายหน้าท่าแต่อย่างใด ส่วนครึ่งปีหลังคงต้องลุ้นกันต่อไป ที่คาดว่าจะมีการก่อสร้างจำนวนมากเกิดขึ้น แต่ขณะนี้ภาวะยังปกติ ปัจจุบันยังผลิตได้ประมาณ 1,000 คิวต่อวัน
“ดังนั้นจึงจะยังไม่ปรับราคาทรายโดยปัจจุบันราคาทรายถม 100 บาทต่อคิว ส่วนทรายหยาบราคา 130 บาทต่อคิวซึ่งทรายทั้ง 2 ประเภทนี้จะใช้งานเพื่อโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีการก่อสร้างมากขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีหลัง 2559 ที่ผ่านมา”
ประกอบกับค่ายผู้ผลิตซีเมนต์อย่างซีแพคก็มีบ่อทรายเป็นของตนเองอยู่ที่อำเภอป่าโมก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่นเดียวกับน่ำเฮงคอนกรีตที่ผู้ประกอบการเหล่านี้ล้วนมีบ่อทรายเป็นของแต่ละบริษัทเองทั้งสิ้น ดังนั้นจึงยังคงรักษาฐานราคาทรายได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,225 วันที่ 8 - 11 มกราคม พ.ศ.2560