‘อีสเทิร์น ไทย ไรด์เดอร์’ทุ่ม 300 ล้านบาท ผุดโชว์รูมแฟลกชิพสโตร์‘ฮาร์เลย์-เดวิดสัน’

10 ม.ค. 2560 | 08:00 น.
ตลาดบิ๊กไบค์โตต่อเนื่อง ค่ายอีสเทิร์น ไทย ไรด์เดอร์ พร้อมเปิดโชว์รูมแฟลกชิพฮาร์เลย์ –เดวิดสัน ย่านวิภาวดีปลายเดือนมกราคมนี้ พร้อมอัดกลยุทธ์การตลาด 50 ล้านบาท หวังสิ้นปี 2560 ดันยอด 2 สาขาเข้าเป้า แง้มแผนรุกอนาคตหากมีช่องว่างการตลาดก็พร้อมขยายเพิ่ม

นายอนุวัชร อินทรภูวศักดิ์ กรรมการผู้จัดการริษัท อีสเทิร์น ไทย ไรด์เดอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน เปิดเผย ”ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เตรียมเปิดสาขาใหม่ของฮาร์เลย์-เดวิดสัน บนถนนวิภาวดี เยื้องกับโรงแรมมิราเคิลแกรนด์ หลักสี่ โดยถือเป็นสาขา 2 ที่บริษัทฯได้รับสิทธิในการเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ต่อจากสาขาแรกที่เปิดพัทยา จังหวัดชลบุรี

สำหรับสาขาใหม่ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ใช้งบลงทุน 300 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการปลายเดือนมกราคมนี้ ถือเป็นโชว์รูมแฟลกซิพสโตร์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของฮาร์เลย์-เดวิดสัน โดยมีรถครบทุกไลน์ สามารถจอดโชว์รถใหม่ได้มากกว่า 50 คัน รองรับการบริการหลังการขาย 10 ช่องซ่อม และสามารถขยายเพิ่มอีก 4 ช่องซ่อมในอนาคต

นายอนุวัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า โชว์รูมใหม่จะไม่ได้เน้นการขายรถ แต่จะครอบคลุมไปถึงไลฟ์สไตล์ โดยจะมีการนำรถรุ่นคลาสสิกที่หายาก และไม่มีจำหน่ายแล้วมาโชว์ ซึ่งบริษัทจะจัดโซนคล้ายพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส และมีการอบรมพนักงานที่ไม่ใช่แค่เพียงรู้เรื่องราวของรถรุ่นที่จะขาย แต่จะต้องเข้าถึงเทรนด์ของผู้บริโภคทั่วไปด้วย นอกจากนั้นแล้วจะมีการจัดโซน ไบค์ โมเต็ล ที่ลูกค้าสามารถนำรถมาฝากไว้ที่โชว์รูม โดยบริษัทฯจะดูแล และตรวจเช็คสภาพรถของลูกค้าเพื่อให้พร้อมในการขับขี่อย่างสม่ำเสมอ

“เราอยากสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จึงเป็นที่มาของการสร้างโชว์รูมแบบครบวงจร ที่ไม่ใช่แค่เพียงโชว์รถที่ขายเท่านั้น แต่จะมีทั้งส่วนมิวเซียม ส่วนไลฟ์สไตล์ที่จะสร้างคอมมิวนิตีของผู้ใช้รถฮาร์เลย์ สามารถมาแฮงเอาต์ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำกิจกรรมร่วมกัน มีสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งทั้งรถทั้งคน ไม่เพียงเท่านั้นเราจะมีส่วนที่รับฝากรถสำหรับลูกค้าที่ไม่มีสถานที่จอด หรือลูกค้าที่กำลังจะเดินทางไปทริป ก็สามารถนัดพบและนำรถเข้ามาฝากพร้อมทั้งตรวจเช็คก่อนเดินทาง”

ขณะที่งบประมาณทางการตลาดในปี 2560 วางไว้ 40 – 50 ล้านบาท โดยจะครอบคลุมทั้งการทำตลาดของสาขาพัทยา และ สาขากรุงเทพ รวมไปถึงโชว์รูม เอเอเอส ฮาเลย์ – เดวิดสัน พารากอน ที่เพิ่งจะเปิดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยโชว์รูมดังกล่าวตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสยามพารากอน โซนออโต ซึ่งจะจำหน่ายเฉพาะเสื้อผ้า อุปกรณ์ตกแต่ง สินค้าไลฟ์สไตล์ของฮาร์เลย์ – เดวิดสัน

“เราไม่ได้ขายเฉพาะโปรดักต์รถโมเดลต่างๆ เท่านั้น แต่เราต้องการขายประสบการณ์ ขายสินค้าพรีเมียม ทั้งเสื้อผ้า สินค้าที่ระลึก ดังนั้นจึงตัดสินใจเปิดโชว์รูมที่พารากอน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าทั่วไปได้เข้าถึงแบรนด์ฮาร์เลย์มากขึ้น และในอนาคตเรายังมีแผนงานที่จะขยายตลาดของฮาร์เลย์มากขึ้น โดยหากมีโอกาสทางการตลาดก็พร้อมที่จะรุกเข้าไป ”
นายอนุวัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านเป้าหมายยอดขายของฮาร์เลย์-เดวิดสัน ออฟ แบงคอก ในปี 2560 คาดว่าจะทำได้ 400 – 500 คันต่อปี ขณะที่เป้าหมายยอดขายของสาขาพัทยา วางไว้เดือนละ 20 คัน ซึ่งในปีที่ผ่านมา ก็ถือว่าทำได้เกินเป้าเล็กน้อย เพราะวางไว้เดือนละ 15 คัน

“การแข่งขันของตลาดรถบิ๊กไบค์ยังคงดุเดือดมากขึ้น ทั้งในแง่ของราคา แคมเปญ รถรุ่นใหม่อย่างไรก็ดีแต่ละแบรนด์จะเริ่มประสบกับปัญหาเรื่องการบริการหลังการขายบ้าง ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือความชอบต่อแบรนด์นั้นๆ ในส่วนของฮาร์เลย์ –เดวิดสัน ให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย และด้านต่างๆดังจะเห็นจากที่บริษัทฯแม่มีการเปิดมหาวิทยาลัย ฮาร์เลย์ –เดวิดสัน ที่จะเป็นศูนย์ฝึกอบรมทั้งด้านการขาย การบริการหลังการขาย ให้กับดีลเลอร์ทั้งในประเทศไทย อาเซียน และเอเชีย-แปซิฟิก”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,225 วันที่ 8 - 11 มกราคม 2560