ลุยต่อยอดเกษตรแปลงใหญ่ ‘ชุติมา’เชื่อมตลาดนำการผลิต-สร้างรูปธรรมดึงคนแห่ร่วม

05 ม.ค. 2560 | 02:00 น.
รมช.เกษตรฯเครื่องร้อน เดินหน้าเอกซเรย์ 600 เกษตรแปลงใหญ่ชี้หากโครงการใดยังไม่ประสบผลสำเร็จ จะผลักดันให้เป็นรูปธรรมผ่านโครงการ “จุดเทียนเล่มแรก” พร้อมนำบทเรียนปี 59 หารือโรงสีวางแผนผลิตเชื่อมชาวนาผลิตข้าวในพันธุ์ที่ต้องการ ด้าน 2 สมาคมชาวนาออกโรงเชียร์

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการ(รมช.)กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภารกิจเร่งด่วนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ) ประกอบด้วย เรื่องการวางแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรในปีผลิต 2560/2561 ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรฯจะอยู่ในเรื่องของภาคการผลิต โจทย์คือ จะทำอย่างไรให้การผลิตข้าวมีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด โดยเมื่อกระทรวงพาณิชย์ชี้เป้าว่าตลาดต้องการข้าวชนิดใด คุณภาพแบบไหน จะวางแผนผลิตให้ตรงตามนั้น

เรื่องต่อมาคือ การรวมกลุ่มของเกษตรกรในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่ที่ได้เริ่มดำเนินการแล้ว 600 แปลง ใน 12 ชนิดสินค้า(เป้าหมายเกษตรแปลงใหญ่ของกระทรวงเกษตรปี 2560 จะเพิ่มอีก 1,500 แปลง)ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันคิด ร่วมกันผลิต ร่วมกันขายเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มอำนาจต่อรอง โดยกระทรวงพาณิชย์จะช่วยหาตลาด ซึ่งจะต้องผลักดันให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เช่น นาแปลงใหญ่ที่ทำแล้วแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย จะดำเนินโครงการที่เรียกว่า "จุดเทียนเล่มแรก" เพื่อผลักดันให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเมื่อเกษตรกรรวมตัวกันได้ จะพัฒนาไปสู่เกษตรอินทรีย์

"เกษตรกรที่จะก้าวไปด้วยกัน จะต้องอดทน ร่วมผลักดันและก้าวไปด้วยกัน สู่เป้าหมายคือตลาดโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้น สำหรับภารกิจไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องข้าวอย่างเดียวจะต้องผลักดันการผลิตสินค้าเกษตรตัวอื่นให้มีคุณภาพมาตรฐานด้วย อาทิ พืช ผัก และผลไม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะเกษตรกรในแต่ละสินค้าจะมีจุดเล็กจุดน้อยที่แตกต่างกัน วิถีชีวิต วัฒนธรรม แต่ละท้องถิ่นก็แตกต่างกัน จะไปบอกเขาให้เชื่อเราไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้นต้องจุดเทียนเล่มแรกให้เขาเห็น โดยจะเริ่มวางแบบโครงการตั้งแต่เดือนมกราคม เป็นต้นไป"

รมช.กระทรวงเกษตรฯ ยังได้ยกตัวอย่างปัญหาการดำเนินการการนาแปลงใหญ่ที่โรงสีที่เข้าร่วมโครงการยินดีรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาสูงกว่าตลาด 200 บาทต่อตัน แต่พอถึงเวลาจริงคุณภาพไม่ได้ โรงสีตั้งแง่ราคารับซื้อซึ่งต้องเข้าไปดูให้ลึกในรายละเอียดว่าทำไมคุณภาพข้าวไม่ได้และต้องสำรวจว่าอะไรคือปัญหาที่ต้องแก้ไข รวมถึงสำรวจความต้องการของโรงสีแต่ละโรงที่เขาร่วมโครงการเลยว่าต้องการข้าวพันธุ์อะไรเพื่อให้ชาวนาผลิตให้ตรงกับความต้องการโดยเริ่มในปีการผลิต 2560/61

"ปีที่แล้วกระทรวงพาณิชย์ทำแผน แต่ชาวนาปลูกข้าวไปแล้ว แล้วดึงโรงสีมาช่วยทีหลังแล้วเกิดปัญหา แต่คราวนี้แตกต่างกัน เรากำลังจะทำ แล้วชวนโรงสีเข้าร่วม และให้เริ่มพร้อมจากในปี 1 ปีกว่าที่ผ่านมาท่านรัฐมนตรีฉัตรชัย ได้วางนโยบายไว้อย่างดีแล้ว ข้าราชการรับไปปฏิบัติก็จะคอยอำนวยการให้เกิดผลเห็นเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา วันนี้ได้มาอยู่ฝ่ายต้นน้ำ จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น แต่ที่สำคัญจะยังประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ ในสโลแกน "ตลาดนำการผลิต" ที่จะสอดประสานให้ชัดเจนมากขึ้น"

ด้านนายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนางสาวชุติมา ที่ได้รับตำแหน่งรมช.กระทรวงเกษตรฯ และต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เลือกคนที่ใช่ในการแก้ปัญหาภาคเกษตรโดยเฉพาะเรื่องข้าว ที่จะต้องมีนโยบายและการขับเคลื่อนไปในทิศทาง "การตลาดนำการผลิต"จะได้เดินหน้าอย่างเต็มที่และเป็นระบบ ซึ่งทางสมาคมพร้อมจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการสร้างอาชีพชาวนาให้มั่นคง เช่นเดียวกับนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วยคนใหม่ ท่านเป็นคนเก่ง ทราบปัญหาจากชาวนามาโดยตลอด และรับฟัง ครานี้มาอยู่ในฝั่งของฝ่ายผลิต ยิ่งมั่นใจว่าปัญหาของชาวนาจะลดน้อยลง ในส่วนของสมาคมก็พร้อมที่จะสนับสนุนและให้ความร่วมมือ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,224 วันที่ 5 - 7 มกราคม พ.ศ.2560