โรดโชว์‘กวางโจว’อัพเกรดไทยขึ้นแท่นควอลิตีเดสติเนชัน

29 ธ.ค. 2559 | 08:00 น.
การจัดงาน “ไทยแลนด์ ควอลิตี้ ทัวริซึม โรดโชว์” ไปยังนครกวางโจว สาธารณรัฐประชาจีน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) และสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน (ทีซีทีเอ) ภายใต้การนำทีมของ พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเวทีสุดท้ายของปีนี้ในการทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและสื่อมวลชนของจีน ถึงมาตรการการแก้ปัญหาทัวร์ผิดกฎหมายของรัฐบาลไทย ที่ต้องการยกระดับการให้บริการนักท่องเที่ยวจีน ที่จะดีกว่าเดิม “ฐานเศรษฐกิจ”ได้นำบรรยากาศการโรดโชว์มานำเสนอ

 ชู 2 ประเด็นสื่อสารตลาดจีน

การจัดงานดังกล่าว มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยกว่า 80 รายเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวของนครกวางโจวและเมืองใกล้เคียง รวมกว่า 300 ราย และมีสื่อมวลชนในมณฑลกวางตุ้งร่วม 80 รายเข้าร่วมงาน โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้เวทีดังกล่าว ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการจีนและสื่อมวลชนใน 2 ประเด็น

ประเด็นแรก จะเน้นสื่อสารให้เข้าใจถึงมาตรการการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายของรัฐบาล โดยชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำ เป็นการยกระดับการดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวของฝั่งไทยให้มีคุณภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวจีน

มาเที่ยวไทยจะได้รับบริการที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ถูกเอารัดเอาเปรียบไปซื้อของในราคาแพงแต่ได้สินค้าไม่มีคุณภาพ
ประเด็นที่ 2 เป็นการประชาสัมพันธ์มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ของรัฐบาล สำหรับผู้ที่มายื่นขอวีซ่าที่สถานทูตไทยและสถานกงสุลในประเทศจีนทั้ง 9 แห่ง รวมถึงกรณีนักท่องเที่ยวขอ Visa On Arrivalจะลดค่าธรรมเนียมจาก 2,000 บาท (400 หยวน)เหลือ 1,000 บาท (200 หยวน) เป็นระยะเวลา 3 เดือน มีผลปรับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม2559 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 กระตุ้นให้คนจีนมาเที่ยวไทยในช่วงปีใหม่และช่วงตรุษจีนนี้

พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยราว 8 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากมณฑลกวางตุ้งร่วม 2 ล้านคนดังนั้นการมาทำโรดโชว์ ที่นครกวางโจว จึงมีความสำคัญที่จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศ ทั้งในแง่ของการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงกีฬา ทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย และผลักดันให้ไทยเป็นควอลิตี ทัวริซึม เดสติเนชัน ได้อย่าง 100% ในปี2560 ผมได้ใช้เวทีนี้ สื่อสารให้ทราบถึงการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งแม้จะมีทัวร์ผิดกฎหมายเพียงส่วนน้อย แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยยอมรับไม่ได้ ที่จะเห็นนักท่องเที่ยวจีนถูกเอารัดเอาเปรียบ ไปซื้อของไม่คุณภาพ และเสียภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวไทย

“การปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายของไทยเป็นการอัพเกรดการทำทัวร์ของไทยให้มีคุณภาพ มีการอบรมมัคคุเทศก์ การทำประกันให้นักท่องเที่ยว โดยชื่อบริษัททัวร์ของไทยที่ทำตลาดจีน อย่างถูกต้องตามกฎหมายราว 400-500 บริษัทได้ถูกส่งไปยังสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน(China National Administration : CNTA)และได้นำชื่อขึ้นเว็บไซต์CNTA ไปแล้ว และผมยังจะร่วมมือกับสมาคมอัญมณีไทยและเครื่องประดับ การันตรีสินค้าที่มีคุณภาพ หากนักท่องเที่ยวซื้อแล้วไม่พอใจคืนสินค้าได้ และจะส่งรายชื่อร้านอัญมณีและเครื่องดับประดับที่มีมาตรฐานให้ CNTA เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์เขาต่อไปด้วย ผมเน้นย้ำกับทางฝั่งจีนว่าเราจัดระเบียบฝั่งไทย ต่อไปคนจีนมาเที่ยวไทยเสียเงินไม่ได้มากไปกว่าเดิม แต่จะได้บริการดีขึ้นและบริษัททัวร์ของจีน ก็จะไม่ขาดทุน แต่จะมีชื่อเสียงและลูกค้าเพิ่มขึ้น เพราะธุรกิจที่ผิดกฎหมายหรือขายถูกเกินความจริง ก็ถูกพักการดำเนินการไป”

 ยอดคนจีนขอวีซ่าพุ่ง300%

พล.อ.ธนะศักดิ์ ยังกล่าวต่อว่า ภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทย กว่า 60% เป็นนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเที่ยวด้วยตัวเองหรือเอฟไอที อีก 40% เป็นนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งในจำนวนนี้ 20% เป็นกลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญ การจัดระเบียบทัวร์ผิดกฎหมายของรัฐบาล ก็จะกระทบในส่วนนี้ ทำให้ตลาดหายไปราว 20-30%ที่ในช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน 2559 นักท่องเที่ยวจีนลดลงไป แต่ในเดือนธันวาคม ติดลบ 6% ซึ่งติดลบลดลง แสดงว่าผู้ประกอบการไทยปรับตัวดีขึ้น และโดยรวมตลอดทั้งปี2560 มั่นใจว่าการท่องเที่ยวไทยจะมีนักท่องเที่ยว 32 ล้านคนแน่นอน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 2.4 ล้านล้านบาท(ไทยเที่ยวไทย+ต่างชาติเที่ยวไทย)

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เผยว่าในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทย 7.9 ล้านคน ค่าใช้จ่าย 37,214 บาท (7,443 หยวน)ต่อคนต่อทริป มีวันพักเฉลี่ย 7 วัน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ เกาะสมุย นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย และมีแนวโน้มว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังประเทศไทย 8.8 ล้านคนเพิ่มขึ้น 10 % จากปี2558

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิกใต้ททท. กล่าวว่า จากมาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่า ในส่วนของตลาดจีน ได้รับทราบว่าคนจีนเข้ามาขอวีซ่าเพิ่มขึ้นบางแห่งเพิ่ม200%-300%อย่างที่เมืองเซี่ยงไฮ้ มียอดขอวีซ่าราว 2 หมื่นคนต่อวัน ส่วนที่กวางโจว อยู่ที่ราว 5,000-6,000 คนต่อวัน แสดงว่ามีความต้องการจากนักท่องเที่ยว ซึ่งก็คาดว่าจะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในช่วง 3 เดือนนี้

 ทัวร์จีนหนุนไทยจัดระเบียบทัวร์

ไม่เพียงแต่การสื่อสารจากภาครัฐเท่านั้น ภายในงานโรดโชว์นี้ ผู้ประกอบการไทยร่วม 80 ราย ก็นำสินค้าและบริการท่องเที่ยว มาแนะนำและเจาะตลาดโดยตรงกับบริษัทนำเที่ยวของนครกวางโจว และเมืองใกล้เคียง รวมกว่า 300 ราย ต่อเรื่องนี้ นายจักษวัฏ กิติสุข ผู้จัดการภูมิภาคจีนตอนใต้ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า เพื่อให้สอดรับกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่า ของรัฐบาล การบินไทย ก็ได้ออกโปรโมชันกระตุ้นตลาด โดยขายตั๋วโดยสารในเส้นทางกวางโจว-กรุงเทพ ราคาเริ่มต้นที่ 1,400 หยวน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในช่วง 3 เดือนนี้ และได้นำมาโปรโมตออกสู่ตลาดแล้ว ก็พบว่าได้รับการคอบรับที่ดี ซึ่งการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายของรัฐบาล ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของการบินไทยมากนัก เนื่องจากลูกค้าของการบินไทยไม่ใช่กลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญ

MP26-3222-B นายณัฐพล หงส์ศรีสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทจีเอ็มเอส ดิวตี้ฟรี จำกัด เผยว่า การเดินทางมาโรดโชว์ในครั้งนี้ บริษัทฯได้เดินทางมาโปรโมตดาวน์ทาวน์ดิวตี้ฟรีแห่งใหม่ บนพื้นที่ 1.8 หมื่นตร.ม. ในจ.ภูเก็ต ภายใต้ชื่อ The Shilla Duty Free ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2560 ซึ่งการลงทุนดังกล่าว มองว่ายังมีความเป็นไปได้ของธุรกิจเพื่อรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวภูเก็ตเพิ่มขึ้นทุกปี และการเดินทางมาทำโรดโชว์ที่เมือง เพราะมองว่านักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดที่เดินทางมาเที่ยวไทยสูงต่อเนื่อง

นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย กรรมการผู้จัดการใหญ่พีช ลากูนา รีสอร์ทแอนด์สปา จ.กระบี่ เผยว่า ปัจจุบันจ.กระบี่ กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจีน ดังนั้นการนำโรงแรมจำนวน 3 แห่งของผมที่จ.กระบี่ มาแนะนำแก่บริษัททัวร์จีน ก็มองว่าตอบโจทย์ตลาดนี้ได้

สำหรับมุมมองของคู่ค้าจีนที่มาร่วมงานโรดโชว์นั้น นายเขอปิ่น เฉิน รองผู้จัดการทั่วไปบริษัทเสิ่นเจิ้น โบทูน อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวิล เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า บริษัทไม่ได้ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่จะเน้นทำตลาดไมซ์ โดยเฉลี่ยส่งนักท่องเที่ยวตลาดไมซ์จีนไปเที่ยวไทยราว 2-3 หมื่นคนต่อปี โดยเฉลี่ยมีการใช้จ่ายในเมืองไทย 6 หมื่นหยวนต่อคนต่อทริป(3 แสนบาท) โดยส่วนใหญ่จะเที่ยวพัทยา เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต หัวหิน และไทยยังเป็นเดสติเนชันที่ดีสำหรับตลาดไมซ์ของจีน ส่วนการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายของไทย ผมมองว่าเห็นด้วย เพราะต่อไปประเทศไทยก็จะได้คนจีนที่มีการศึกษาและมีคุณภาพเข้าไปเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น และทำให้ประเทศไทยไม่เสียเปรียบและคนจีนก็จะไม่เสียหน้าจากการแสดงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปเที่ยวไทย และยังเชื่อว่าตลาดจีนยังคงเป็นตลาดที่เติบโตต่อเนื่องในปีหน้า

ทั้งหมดล้วนบรรยากาศและมุมมองต่างๆในเวทีไทยแลนด์ ควอลิตี้ ทัวริสซึม โรดโชว์ ณ นครกวางโจว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,222 วันที่ 29 - 31 ธันวาคม 2559