มีข่าวดีมาบอก

24 ธ.ค. 2559 | 04:00 น.

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมพูดถึง Luxury marketing ว่าคนที่มั่งคั่งในโลกเรามีสูงขึ้น ธุรกิจ Startup ควรให้ความสนใจ มีท่านผู้อ่านกรุณาโทรศัพท์เข้ามาที่มหาวิทยาลัย ขอเอกสารและให้ผมอธิบายเพิ่มขึ้น ขอบคุณ และยินดีมากครับ

ผมนั่งอยู่ที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ รอครอบครัวของเพื่อนๆ มารับประทานอาหารกัน ระหว่างนั่งรอก็พบว่ามีลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็มีลูกค้าชาวไทยจำนวนมากมารอซื้อกระเช้าปีใหม่ของโรงแรม รวมถึงเบเกอรี่ และร้านอาหาร เดินไปหยิบดูราคาก็ตกใจว่าเดี๋ยวนี้เราซื้อขนมปัง คุ้กกี้กันราคาขนาดนี้เชียวหรือ ทำให้คิดถึงบทความของตัวเองว่าอย่างไรเสีย ตลาดบนหรือ Luxury market ก็ยังคงมีกำลังซื้ออยู่ดี

โดยเฉพาะในปีใหม่ 2560 ที่กำลังจะมาถึงนี้ มีข่าวดีหลายประการ เริ่มตั้งแต่สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ หรือ Startup คาดว่าจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 300 % คิดเป็นมูลค่าการลงทุนที่เกิดขึ้น 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นายกสมาคม ยังกล่าวว่าปีหน้าจะมี Startup ที่หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น เพราะผู้ประกอบการเริ่มมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น ก็สามารถนำแนวคิดหรือธุรกิจของตนเองเข้าเป็น Startup ได้มากขึ้น นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยังแถลงชัดเจนว่า Startup จะเป็นตัวการสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคตยิ่งฟังแล้วน่ายินดีครับ

mp29-322004 ในด้านเศรษฐศาสตร์ผมฟังดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ วิเคราะห์ภาพรวมของปีนี้และปีหน้าว่าในประเทศไทยทั้งปีนี้และปีหน้าค่าเงินบาทก็ไม่ได้ผันผวนมาก ดัชนีความเชื่อมั่นก็อยู่ในเกณฑ์ดี

ภาครัฐมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเหมือนการเติมออกซิเจน ทำให้น่าจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ 2.5-3% ส่วนภาพรวมในปีหน้า ดร.เกียรติอนันต์กล่าวว่า ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานดี มีความคุ้นเคยกับการทำงานกับชาวต่างชาติ รวมถึงเป็นสะพานเชื่อมโยงอาเซียนได้ น่าจะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นในปีหน้า แม้เศรษฐกิจโลกจะยังซึมๆ อีกซัก 2-3ปี

จะเห็นได้ว่าช่วงปลายปีแบบนี้ มีข่าวดีๆ ส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจที่น่าจะดีขึ้นมาแล้ว ผู้ประกอบการต้องปรับตัวนะครับ สิ่งสำคัญที่เห็นได้ชัดเจนแน่นอนคือ เทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบหรือโมเดลในการดำเนินธุรกิจของท่าน ไม่ว่าจะเป็น FinTech ด้านการเงิน HealthTech ด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล TravelTech ด้านการท่องเที่ยว FoodTechด้านอาหาร EdTech ด้านการศึกษา CleanTech ด้านสิ่งแวดล้อม PropertyTech ด้านอุตสาหกรรมก่อสร้าง และที่ผมได้แนะนำไปเมื่อตอนที่แล้วขอเรียกว่า LuxuryTech ละกันครับ เพราะลูกค้าที่มั่งคั่งมีจำนวนมาก

สิ่งสำคัญคือการเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าอย่างชัดเจน รับรองว่าไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอนครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,220 วันที่ 22-24 ธันวาคม 2559