“ปราเสริฐ-อาริญา ปราสาททองโอสถ” ขายหุ้น BDMSและ BA ออกมามากในเดือนธันวาคม รวม 601 ล้านบาท นำเงินจ่ายหนี้แบงก์ไทยพาณิชย์ที่กู้มาซื้อหุ้น
แหล่งข่าวจากตลาดทุน เปิดเผยว่า นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) และผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ขายหุ้น BDMS ออกมามากผิดปกติในช่วงนี้ โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม ตั้งแต่วันที่ 1-14 ได้ขายหุ้นจำนวน 9 รายการ จำนวนทั้งสิ้น 16,020,300 หุ้น รวมเป็นเงินประมาณ 368.48 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาหุ้น BDMS ปรับตัวลงต่ำกว่า 23 บาท ล่าสุดปิดที่ 22.60 บาท
[caption id="attachment_120519" align="aligncenter" width="503"]
ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ[/caption]
นอกจากนั้น ยังพบการขายหุ้น บริษัท การบินกรุงเทพ (BA)จำนวนมากของ นางสาว อาริญา ปราสาททองโอสถ กรรมการ บริษัทBA และเป็นลูกสาวของนายประเสริฐด้วย นับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน-7 ธันวาคม ขายจำนวน 9.87 ล้านหุ้น รวมเป็นเงิน ประมาณ 232.72 ล้านบาท
แหล่งข่าวกล่าวว่า เหตุผลของการขายหุ้น BDMS และ BA ของนายปราเสริฐครั้งนี้เนื่องจากมีความจำเป็นต้องการใช้เงิน เพื่อนำไปชำระคืนหนี้ให้กับธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) ที่เคยกู้เงินมาใช้ซื้อหุ้นBDMS และ BA เข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง
“หมอปราเสริฐจะต้องขายหุ้นออกมา ผิดจากที่ผ่านมา ที่มักจะซื้อหุ้น BDMS และ BA โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงผิดปกติ จนทำให้ครอบครัวปราสาททองโอสถถือหุ้นเพิ่มขึ้น”แหล่งข่าวกล่าว
ปัจจุบัน ครอบครัวปราสาททองโอสถยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ BDMS และ BA ในส่วน BDMS มีนายปราเสริฐ ถืออันดับหนึ่งจำนวน 2,829 ล้านหุ้น สัดส่วน 18.26% ตามด้วยบริษัทกรุงเทพการบินถือจำนวน 1,008 ล้านหุ้น สัดส่วน 6.51% และ นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ถือ 521 ล้านหุ้น 3.37% ส่วนกลุ่มนายวิชัย ทองแตง ก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มหนึ่ง
ที่ผ่านมา BDMS ได้ซื้อกิจการโรงพยาบาลจำนวนมาก ทั้งการซื้อทางตรงและทางอ้อม รวมถึงการซื้อธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ล่าสุดได้ใช้บริษัทเปาโลเมดิค ซื้อบริษัทเมโยโพลีคลีนิคในราคาไม่เกิน 1,395 ล้านบาท แต่ที่โด่งดังมากคือการซื้อทรัพย์สิน ของโครงการปาร์คนายเลิศ บนถนนวิทยุ เนื้อที่รวม 15 ไร่ รวมถึงโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ มูลค่ารวมประมาณ 10,800 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นโครงการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจรBDMS Wellness Clinic ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากก่อนหน้านั้น6 เดือนได้ซื้อทรัพย์สินรวม 4,168 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในงวดไตรมาส 3 ปี 2559 มีกำไรสุทธิ 2,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 246 ล้านบาทหรือ ประมาณ 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,087 ล้านบาท รวม 9 เดือนปีนี้ กำไรสุทธิ 6,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 542 ล้านบาท เติบโตประมาณ 9% จากที่มีกำไรสุทธิ 5,867 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน
นักวิเคราะห์หลายรายยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้นให้เป้า BA ที่ 30.20 บาท และบล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)ให้มูลค่า 30.50 บาท เนื่องจากกำไรเติบโตและเงินลงทุนใน BDMS คาดว่าในปี 2560 กำไร2,923 ล้านบาทจะเติบโต 11.9 ชะลอลงตามทิศทางราคาน้ำมันที่จะเพิ่มเป็น 59 ดอลลาร์สหรัฐฯรวมถึงการแข่งขัน ทาง BA จะมีการรับเครื่องบินใหม่อีก 4 ลำ เป็น 39 ลำ ก็ตาม ส่วนรายได้อยู่ที่ 26,856 ล้านบาท โต 7.4%และเงินปันผลจาก BDMS จะลดลง เพราะมีจ่ายระหว่างกาล
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,219 วันที่ 18-21 ธันวาคม 2559