ยุทธศักดิ์ สุภสร การทำงานต้องไม่ติดยึดกับความสำเร็จในอดีต

17 ธ.ค. 2559 | 01:00 น.
บทบาทของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการตลาด กับภารกิจในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ให้ไปสู่ความสำเร็จ และยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ บทบาทการบริหารองค์กร ที่จะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ ซีอีโอ โฟกัส ได้เปิดใจ “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ต่อมุมมองในเรื่องนี้

ซีอีโอ ยุทธศักดิ์ ย้ำว่า การบริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้องค์กร เดินหน้าการทำงานได้อย่างบรรลุตามภารกิจที่วางไว้ ที่จะทำให้ “การท่องเที่ยวเป็นกลไกพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน” วันนี้การท่องเที่ยว มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะรายได้จากการท่องเที่ยว คิดเป็น 16% ของจีดีพีประเทศแล้ว ขณะที่กลไกด้านอื่นๆอย่างการส่งออก อยู่ในช่วงปรับตัว

“ทิศทางการบริหารองค์กร ผมสื่อสารให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ททท.ทุกคน มองการทำงานไปในภาพเดียวกันว่า การท่องเที่ยวมีความสำคัญ และจะเป็นเครื่องมือหนึ่ง ที่จะเป็นพลังหนึ่งที่จะทำให้ประเทศไทย หลุดออกจากกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งทุกองคาพยพต้องร่วมด้วยช่วยกันดำเนินกลยุทธ์การตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทย และกระตุ้นไทยเที่ยวไทย เราต้องไม่มองเพียงการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ต้องโฟกัสการเพิ่มรายได้เป็นสำคัญ ด้วยการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น”

รวมถึงเรายังต้องมองการแก้ปัญหาเรื่องของความเหลื่อมล้ำ และลดช่องว่างความยากจน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว ยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และในไม่กี่เมืองท่องเที่ยว ทำให้ททท.ต้องการผลักดันให้เกิดการกระจายตัวของรายได้จากการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้น ซึ่งเรายังคงเน้นต่อเนื่อง เรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง ภายใต้โครงการที่เดินหน้าต่อเนื่องอย่าง โครงการ 12 เมืองต้องห้าม... พลาด และ โครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส

ทั้งยังต้องส่งเสริมให้ชุมชนในภูมิภาคต่างๆได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง โดยที่ยังคงอัตลักษณ์ท้องถิ่น รักษาสมดุลสังคมและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เพื่อให้กระจายรายได้จากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค เป็นการกระจายตัวอย่างมั่นคง แต่การท่องเที่ยวต้องไม่ใช่อาชีพของชุมชน เพราะวิถีชีวิตปกติและดั้งเดิมของชุมชนต่างหาก ที่นำมาซึ่งเสน่ห์ของชุมชนที่จะดึงให้เกิดการเข้าไปทำกิจกรรมหรือท่องเที่ยว
กลยุทธ์การผลักดันการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวในปีหน้า ของสำนักงานททท.ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ จะอยู่บนพื้นฐานการนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยเฉพาะถิ่น (The Unique Thai Local Experiences) แก่นักท่องเที่ยว โดยการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศ ททท.ใช้แคมเปญ “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” โน้มน้าวให้นักท่องเที่ยวไทยได้เปิดมุมมองใหม่ต่อการท่องเที่ยววิถีท้องถิ่น เห็นถึงคุณค่าและมีส่วนร่วมกับประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์แต่ละท้องถิ่นของไทย และส่งต่อประสบการณ์ให้แก่คนรอบข้าง ส่วนตลาดต่างประเทศ ยังคงใช้ Amazing Thailand ภายใต้แนวทางการสื่อสาร “Discover Amazing Stories in Amazing Thailand” เพื่อนำประสบการณ์จากการท่องเที่ยวอันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของไทย ไปสู่สายตาคนทั่วโลก

ขณะเดียวกันการทำตลาดของททท. จะต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของ พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันจะเป็นการจองเดินทางท่องเที่ยวในลักษณะ

ลาสต์มินิต เพราะการเข้ามาของทราเวล เอเยนต์ ออนไลน์หรือโอทีเอ และการแข่งขันของธุรกิจโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ ที่นำเสนอราคาถูก ซึ่งททท.ต้องมีการระบบการบริหารจัดการด้านการตลาดที่รวดเร็วกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจมาเที่ยวเมืองไทย และการทำงานของททท.ต้องอยู่บนพื้นฐานธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้

อีกทั้งผมยังต้องชี้ให้พนักงานเห็นว่า คนเราไม่ควรยึดติดกับความสำเร็จในอดีต หรือจมกับอดีตที่ผ่านมา แต่ต้องมองอนาคต และออกแบบการปรับโครงสร้างองค์กร ให้รองรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปได้อีกอย่างน้อย 5 ปีข้างหน้า เพื่อให้เกิดการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ใช่เป็นการดูแบบหลอกตัวเอง และเราต้องเป็นกลไกรัฐ ที่ทำนายสถานการณ์ไปข้างหน้า เพื่อให้การส่งเสริมการท่องเที่ยวขององค์กรเดินไปได้อย่างทำประโยชน์สูงสุด เพราะนับวันการแข่งขันในธุรกิจท่องเที่ยวจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เมื่อหลายประเทศให้ความสำคัญด้านการท่องเที่ยว เพื่อใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเช่นกัน

คุณยุทธศักดิ์ มองว่า คนเป็นสินทรัพย์ขององค์กร คนเป็นยังไงก็สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรนั้นมีชีวิตเป็นแบบนั้น ททท.เป็นองค์กรที่โดยหน้าที่ควรเป็นองค์กรที่สนุกสนาน ไม่เคร่งเครียด คนในองค์กรต้องมี Passion (ความชอบ)ในงานที่ทำ เพื่อให้ใช้ศักยภาพของเขา ทำงานได้อย่างเต็มที่ ทั้งในโลกแห่งเทคโนโลยี ททท.ไม่เพียงนำเทคโนโลยี มาใช้ในการทำตลาดเพื่อขยายช่องทางสื่อสารกับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เทคโนโลยี ยังถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร เพราะการทำงานของพนักงานททท.โดยเฉพาะฝ่ายปฏิบัติงาน จะไม่ใช่ทำงานผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่สามารถทำงานได้ในหลายรูปแบบผ่านออนไลน์ จะทำให้เราทำงานได้ Anyway แต่ไม่ใช่ Anytime เพราะเราจะต้องไม่ไปยุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขา เพื่อให้เขาเกิดความชอบที่จะทำงาน และได้มุมมองใหม่ๆในการทำงาน

“เป้าหมาย ที่องค์กรต้องก้าวไป แน่นอนเราเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่เป็นกลไกของรัฐ เราต้องทำตัวเอง เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และต้องมีกระบวนการแก้ปัญหาต่างๆที่รวดเร็ว เพราะจะเห็นว่าแต่ละปี ก็มีปัญหาแตกต่างกันขึ้นกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วง ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ ความไม่สงบทางการเมือง สิ่งเหล่านี้เรามีการเรียนรู้มามาโดยตลอด ทำให้ททท.ต้องแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งความสำเร็จในการทำงานที่เกิดขึ้น คือความภาคภูมิใจของเจ้าหน้าที่ทุกองค์และตัวองค์กรเองด้วย” ซีอีโอ กล่าวปิดท้าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,218 วันที่ 15-17 ธันวาคม 2559