พิสิฐไชย สุวรรณเรือง สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยความรู้ที่มี
เด็กเล่นเกม ไมใช่เรื่องไร้สาระอีกต่อไป หากเด็กคนนั้น สามารถต่อยอดเรื่องไร้สาระ ให้เกิดประสิทธิผล เช่นเดียวกับ "อาร์ม - พิสิฐไชย สุวรรณเรือง" เด็กหนุ่มที่เล่นเกม Hey Day เกมเกษตรกรมือถือ ปลูกผักปลูกผลไม้รดน้ำต้นไม้ ด้วยปลายนิ้วคลิกไปคลิกมา จนวันนี้เขาได้พัฒนาความคิด สร้างสิ่งที่ผู้ใหญ่มองว่าไร้สาระ จนเกิดสาระ เป็นระบบบริหารจัดการน้ำให้กับเกษตรกรได้รดน้ำ ดูแลพืชผลของตัวอย่างง่ายๆ ด้วยต้นทุนที่ไม่สูงเกินความเป็นจริง
"พิสิฐไชย สุวรรณเรือง" ผู้ก่อตั้ง SP Smartplants ระบบบริหารจัดการน้ำ คนนี้ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เขาบอกว่า เขาเป็นคนไอที 100% แต่ที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้สนใจการเกษตร เป็นเพราะวันหนึ่งอาจารย์บอกว่า ลองทำอะไรที่เกี่ยวเนื่องระหว่างเกษตรกรรม กับเทคโนโลยีออกมาจะได้ไหม เพราะงานโปรแกรมเมอร์ คือ งานที่ต้องสร้างความต่าง
จากจุดเริ่มต้นตรงนั้น ผนวกเข้ากับสิ่งที่เขาได้สัมผัสจริง เมื่อวันหนึ่งได้เดินทางไปต่างจังหวัดกับครอบครัว มีโอกาสได้รถน้ำต้นไม้ในสวนที่บ้าน เขารู้สึกว่า มันเป็นอะไรที่เหนื่อย เดินไปเดินมา 2-3 รอบก็พอว่า แต่เมื่อต้องเดิน 5-6 รอบ คนหนุ่มที่แข็งแรงยังรู้สึกเหนื่อย แล้วเกษตรกรตัวจริงต้องเดินกันวันละหลายๆ รอบ จะไม่เหนื่อยเหรอ จากวันนั้น เขาจึงเกิดไอเดีย และลุกขึ้นมาเขียนโปรแกรม โดยมีเพื่อนอีก 2-3 คน เข้ามาช่วยงานด้านออกแบบ ด้านดีไซน์ กล่องควบคุมน้ำของเขาจึงเป็นความจริงขึ้นมาในที่สุด
ความคิดของเขาต่อยอดขึ้นเรื่อยๆ จาก กล่องควบคุมน้ำ ทำหน้าที่ดูแลระบบเปิด-ปิดน้ำ สำหรับรดน้ำต้นไม้ ไอเดียของเขาเริ่มต่อยอดไปไกล เมื่อได้ลงไปสัมผัสกับเกษตรกรตัวจริง และได้ศึกษาข้อมูลวิจัยทางเกษตรมากขึ้นเรื่อยๆ การทำแค่ระบบเปิด-ปิด น้ำ บนมือถือ พัฒนาไปสู่การดีไซน์โปรแกรมให้เหมาะกับความต้องการของเกษตรกรแต่คน แต่ละประเภทของพืช และดิน
ทุกอย่างสามารถต่อยอดได้ จากองค์ความรู้ที่มี ที่ได้ศึกษาเพิ่มเติม เพราะพืชต้นหนึ่งปลูกลงไปในดิน แม้จะปลูกห่างกันแค่ 5-6 เมตร ความต้องการน้ำก็ต่างกัน การรดน้ำ วิธีการปลูก วิธีการขุดดิน ล้วนส่งผลให้ผลิตผลของพืชแตกต่างกันไป "อาร์ม" จึงนำความรู้เหล่านั้น มาผนวกเข้ากับเรื่องของเทคโนโลยีที่เขาเรียนมา สร้างเป็น SP Academy ซึ่งจะเริ่มเปิดจริงจังปีหน้า โดยธันวาคมปีนี้ เขาได้จับมือกับ Grow Lab ทดลองปลูกสมุนไพรบนเนื้อที่ 7 x 9 เมตรย่านศรีนครินทร์ หลังจากนั้นจะนำความรู้และผลที่ได้มาต่อยอดเป็นองค์ความรู้ที่จะมาถ่ายถอดเกษตรกรต่อไป
"อาร์ม" ยอมรับว่า เขาไม่มีความรู้ด้านการตลาด หรือการประชาสัมพันธ์ ทุกอย่างกำลังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้ ทดลองออกบูธงานต่างๆ ทดลองออกไปพบปะเกษตรกรตัวจริง ศึกษาว่าเขาต้องการอะไร แล้วนำมาพัฒนาต่อ ซึ่งสิ่งที่เขามองขณะนี้ ไม่ใช่แค่การสร้างกล่องควบคุมการเปิด-ปิดน้ำ ออกมาจำหน่ายในราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น แต่เขาต้องการพัฒนาโปรดักต์ไปพร้อมกับองค์ความรู้ ที่จะส่งต่อไปยังเกษตรกร เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของพืชผลไม้ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่เจอคือ ปัญหาเรื่องของความรู้ และงบประมาณ เกษตรกรบางคนอาจลงทุนไม่ไหว กับเครื่องราคาหลักหมื่น เพราะฉะนั้น เขาก็มานั่งพัฒนาใหม่ จนสามารถลดต้นทุน จนสามารถสร้างโปรดักต์ออกมาได้ในราคาหลักพัน โดยเขาตั้งเป้าว่า เขาจะสามารถขายเครื่องมือควบคุมระบบการเปิด-ปิด ได้เดือนละ 5 เครื่อง ส่วนเรื่องขององค์ความรู้ แก้ไขได้ด้วย SP Academy ซึ่งเป็นรูปเป็นร่างปีหน้าแน่นอน
"งบเราจำกัด เราต้องใช้ความรู้ต่างๆ มาสร้างมูลค่าเพิ่ม"..."อาร์ม" บอกเลยว่า หากได้เงินทุนมาเป็นเรื่องเป็นราว โครงการของเขาจะสำเร็จได้ในช่วงเพียงไม่กี่เดือนแน่นอน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,215 วันที่ 8 - 10 ธันวาคม 2559
"พิสิฐไชย สุวรรณเรือง" ผู้ก่อตั้ง SP Smartplants ระบบบริหารจัดการน้ำ คนนี้ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เขาบอกว่า เขาเป็นคนไอที 100% แต่ที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้สนใจการเกษตร เป็นเพราะวันหนึ่งอาจารย์บอกว่า ลองทำอะไรที่เกี่ยวเนื่องระหว่างเกษตรกรรม กับเทคโนโลยีออกมาจะได้ไหม เพราะงานโปรแกรมเมอร์ คือ งานที่ต้องสร้างความต่าง
ความคิดของเขาต่อยอดขึ้นเรื่อยๆ จาก กล่องควบคุมน้ำ ทำหน้าที่ดูแลระบบเปิด-ปิดน้ำ สำหรับรดน้ำต้นไม้ ไอเดียของเขาเริ่มต่อยอดไปไกล เมื่อได้ลงไปสัมผัสกับเกษตรกรตัวจริง และได้ศึกษาข้อมูลวิจัยทางเกษตรมากขึ้นเรื่อยๆ การทำแค่ระบบเปิด-ปิด น้ำ บนมือถือ พัฒนาไปสู่การดีไซน์โปรแกรมให้เหมาะกับความต้องการของเกษตรกรแต่คน แต่ละประเภทของพืช และดิน
ทุกอย่างสามารถต่อยอดได้ จากองค์ความรู้ที่มี ที่ได้ศึกษาเพิ่มเติม เพราะพืชต้นหนึ่งปลูกลงไปในดิน แม้จะปลูกห่างกันแค่ 5-6 เมตร ความต้องการน้ำก็ต่างกัน การรดน้ำ วิธีการปลูก วิธีการขุดดิน ล้วนส่งผลให้ผลิตผลของพืชแตกต่างกันไป "อาร์ม" จึงนำความรู้เหล่านั้น มาผนวกเข้ากับเรื่องของเทคโนโลยีที่เขาเรียนมา สร้างเป็น SP Academy ซึ่งจะเริ่มเปิดจริงจังปีหน้า โดยธันวาคมปีนี้ เขาได้จับมือกับ Grow Lab ทดลองปลูกสมุนไพรบนเนื้อที่ 7 x 9 เมตรย่านศรีนครินทร์ หลังจากนั้นจะนำความรู้และผลที่ได้มาต่อยอดเป็นองค์ความรู้ที่จะมาถ่ายถอดเกษตรกรต่อไป
"อาร์ม" ยอมรับว่า เขาไม่มีความรู้ด้านการตลาด หรือการประชาสัมพันธ์ ทุกอย่างกำลังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้ ทดลองออกบูธงานต่างๆ ทดลองออกไปพบปะเกษตรกรตัวจริง ศึกษาว่าเขาต้องการอะไร แล้วนำมาพัฒนาต่อ ซึ่งสิ่งที่เขามองขณะนี้ ไม่ใช่แค่การสร้างกล่องควบคุมการเปิด-ปิดน้ำ ออกมาจำหน่ายในราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น แต่เขาต้องการพัฒนาโปรดักต์ไปพร้อมกับองค์ความรู้ ที่จะส่งต่อไปยังเกษตรกร เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของพืชผลไม้ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่เจอคือ ปัญหาเรื่องของความรู้ และงบประมาณ เกษตรกรบางคนอาจลงทุนไม่ไหว กับเครื่องราคาหลักหมื่น เพราะฉะนั้น เขาก็มานั่งพัฒนาใหม่ จนสามารถลดต้นทุน จนสามารถสร้างโปรดักต์ออกมาได้ในราคาหลักพัน โดยเขาตั้งเป้าว่า เขาจะสามารถขายเครื่องมือควบคุมระบบการเปิด-ปิด ได้เดือนละ 5 เครื่อง ส่วนเรื่องขององค์ความรู้ แก้ไขได้ด้วย SP Academy ซึ่งเป็นรูปเป็นร่างปีหน้าแน่นอน
"งบเราจำกัด เราต้องใช้ความรู้ต่างๆ มาสร้างมูลค่าเพิ่ม"..."อาร์ม" บอกเลยว่า หากได้เงินทุนมาเป็นเรื่องเป็นราว โครงการของเขาจะสำเร็จได้ในช่วงเพียงไม่กี่เดือนแน่นอน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,215 วันที่ 8 - 10 ธันวาคม 2559