กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ ‘เราสามารถทำขนมฝรั่ง แล้วขายฝรั่งได้รู้สึกภูมิใจ’

08 ธ.ค. 2559 | 11:00 น.
"อาฟเตอร์ยู" ร้านคาเฟ่ขนมหวาน (Dessert Cafe) ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งชาวและชาวต่างชาติ ถึงขั้นต้องเข้าคิวยาวเหยียดแทบทุกสาขา วันนี้ได้เดินทางมาถึงจุดที่ต้องเติบโตไปอีกขั้น จนต้องนำธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เพื่อระดมทุนไปใช้ในการขยายสาขา ขยายกำลังการผลิต นอกจากนี้เตรียมสร้างศูนย์ฝึกอบรมพนักงานและศูนย์กระจายสินค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจด้วยเป้าหมายขยายสาขาทั่วประเทศ 25-30 สาขาภายในปี 2561

"เมย์" กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ ผู้ก่อตั้งร้านอาฟเตอร์ยู เล่าว่า เธอมีความฝันอยากเปิดร้านคาเฟ่ขนมหวานตั้งแต่อายุ 17 ปี ได้สานฝันจริง ๆก็ตอนอายุ 23 ปี หรือเมื่อ 9 ปีก่อน (ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2550) และเป็นเจ้าแรกในตลาด ที่เน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง

“คุณพ่อบอกว่าต้องมีความฝัน จากนั้นต้องรอและเก็บข้อมูล”

กระทั่งมาถึงวันที่ตัดสินใจเปิดร้านอาฟเตอร์ยู เธอพร้อมและค่อนข้างตกผลึกทุกอย่างทั้งเมนู และไอเดีย แต่ก็มีความยากลำบากในการหาทำเลเปิดร้าน เพราะรูปแบบของร้านคาเฟ่ขนมหวานสมัยนั้นยังไม่มีใครทำ จึงทำให้ค่อนข้างลำบากในการอธิบายรูปแบบของธุรกิจต่อเจ้าของสถานที่ที่จะเช่า กระทั่งมาลงเอยเปิดสาขาแรก ย่านทองหล่อ เพราะทำเลดี
“เริ่มแรกที่เปิดร้าน ก็สร้างบรรยากาศให้คึกคักด้วยการเชิญเพื่อนๆมานั่งให้เต็มร้านแบบกินฟรี และใช้วิธีนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน “

ส่วนจุดเริ่มต้นการเปิดร้านอาฟเตอร์ยู ไม่มีอะไรจุดประกาย แต่เป็นไอเดีย และด้วยความที่ชอบเที่ยวต่างประเทศทำให้ได้เห็นร้านอาหารและร้านขนมหวาน เก็บเกี่ยวมาเรื่อย ๆจนหล่อหลอมเป็นไอเดียของตัวเอง

เมย์บอกว่า ช่วงเริ่มทำธุรกิจทุกอย่างแกว่งตลอดทาง เช่น หุ้นส่วนและพนักงานลาออก แต่ด้วยความที่มีรากฐานที่ดี คือ ครอบครัวคอยให้การสนับสนุน จึงทำให้ผ่านมาไปด้วยดี

จากความโด่งดังของร้านอาฟเตอร์ยู มีคนมาติดต่อจำนวนมาก เพื่อขอเปิดแฟรนไชส์ เช่นเดียวกับการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เธอบอกว่ายังไม่ไป เนื่องจากมองว่าตลาดในประเทศยังขยายตัวได้อีกมาก ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

M29321602 “เมย์ เป็นคนค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ คือ จะไม่ไปแบบเร็ว ๆ กลยุทธ์การทำธุรกิจของอาฟเตอร์ยู คือ ค่อย ๆขยายไปด้วยความมั่นคง เพราะจะทำให้ปลอดภัย”

กับความสำเร็จในวันนี้ เมย์ บอกว่าเธอมาไกลเกินคาดหมาย และไม่ได้คิดว่าจะทำให้ใหญ่ พร้อมเล่าว่า ทำขนมมาตั้งแต่เด็ก เก็บสูตรมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วงเรียนมัธยมปีที่ 5 ตอนนั้นได้ขอคุณพ่อเปิดร้านขนมเพราะกลัวคนแย่งสูตรขนมและชิงเปิดร้านเสียก่อน แต่ก็ต้องพับแผนเพราะคุณพ่อขอว่าขอให้เรียนจบปริญญาตรีเสียก่อน

“ตอนเก็บข้อมูล เมย์มีเมนูขนมหวานประมาณ 100 เมนู แต่เมื่อจะเปิดร้านจริง ๆต้องเลือกเมนูพระเอก หรือฮีโร่ ของร้าน มาปิ้งไอเดีย ตอนไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ในที่สุดก็มาลงเอยเมนู ชิบูย่า ฮันนี่โทรส เป็นพระเอกของร้าน “

ส่วนเรื่องการเลียนแบบเมนู คุณพ่อจะสอนว่าเราไปห้ามใครไม่ได้ ดังนั้นก็ให้โฟกัสของตัวเองทำให้ดีที่สุด ลูกค้าเขาอาจจะหนีไปลองกินที่อื่นบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็จะกลับมาหาเราเอง

ด้านแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ และคำแนะเธอบอกว่า “มีคนถามเมย์เยอะมากเพราะอยากให้ลูกทำธุรกิจ จริง ๆแล้วคุณพ่อ คุณแม่ ไม่เคยสอน ไม่เคยบังคับ อยากคิด อยากทำอะไรก็ทำ ครอบครัวเป็นแบ็กอัพ ขอให้ลองทำ”

เมย์ มีคำพูดสั้น ๆได้ใจความ ที่อยากแนะนำสำหรับผู้ที่อยากทำธุรกิจ นั่นคือ “ มีเงิน มีโอกาส มีเวลา อยากให้ลองทำ ”

ผู้ก่อตั้งร้านอาฟเตอร์ยู กล่าวได้น่าสนใจว่า การมีโซเชียลมีเดียยุคนี้ทำให้ไม่ต้องลงทุนมากสำหรับการสร้างแบรนด์ อย่างไรก็ดีเมย์ ทิ้งท้ายว่าเธอชอบร้องเพลง แต่เมื่อเลือกที่จะทำธุรกิจอาหารก็ต้องพักสิ่งที่รักไว้ก่อนเพื่อมาโฟกัสการทำธุรกิจร้านอาฟเตอร์ยู

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,215 วันที่ 8 - 10 ธันวาคม 2559