ครม.เห็นชอบกรอบความร่วมมือรถไฟไทย-จีน

นายอาคม  เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุมครม.วันนี้(7 ธ.ค.59) มติเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟหรือรถไฟไทย-จีน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565

ในที่ประชุมได้มีการรายงานเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการร่วมโครงการภายใต้ความร่วมมือการก่อสร้างเส้นรถไฟไทย-จีนที่ได้มีการประชุมในครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงคมนาคมเสนอให้มีการลงนามในบันทึกความร่วมมือ(MOC) เพื่อเป็นการยืนยันการดำเนินการตามกรอบความร่วมมือที่ได้เคยลงนามร่วมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ที่แต่เดิมได้มีการกำหนดการดำเนินในเส้นทางช่วงหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และช่วงแก่งคอย-กรุงเทพ ตามกรอบบันทึกความเข้าใจในข้อตกลงร่วมกัน(MOU) และได้มีการแบ่งการดำเนินการออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่

1)ช่วงกรุงเทพ-แก่งคอย  2)ช่วงแก่งคอย-มาบตาพุด  3)ช่วงแก่งคอย-นครราชสีมา และ 4)ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันว่าจะมีการเริ่มดำเนินโครงการในช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา และช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งในส่วนของการลงนามในสัญญา 3 สัญญา คือ สัญญาการออกแบบรายละเอียดของทั้งโครงการ ,สัญญาที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง และสัญญางานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งขบวนรถและการฝึกอบรมบุคลากร

โดยในวันที่ 7-11 ธันวาคมนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  จะเดินทางไปประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 5  ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยจะลงนามในบันทึกความร่วมมือกับรองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อยืนยันความร่วมมือในโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟระหว่างไทย - จีน

ทั้งนี้ทางจีนได้ขอให้มีการเร่งรัดการลงนามในส่วนของสัญญาการออกแบบราบละเอียดโครงการก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป  ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีความคืบหน้ามีอยู่ 3 เรื่อง คือ เรื่องการออกแบบที่ทางจีนได้ส่งแบบในช่วง 3.5 กิโลเมตร (สถานีกลางดง-ปางอโศก) มาแล้วและอยู่ระหว่างการตรวจแบบในการก่อสร้างได้ประมาณ 90% และคาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ ถึงต้นเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนร่างทั้ง 3 สัญญานั้นได้ตกลงกันว่าจะมีการเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ รวมถึงรอสรุปรายละเอียดโครงการที่ได้สรุปไปแล้วจากทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เพื่อนำเสนอ ครม. ที่จะต้องมีการขอความเห็นไปที่ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ด้วยก่อนที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2560 สำหรับการสรุปมูลค่าของโครงการจากการเจรจาล่าสุดในช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา วงเงินอยู่ที่ประมาณ 179,421 ล้านบาท ในส่วนของการดำเนินการช่วงนครราชสีมา-หนองคาย คาดว่าจะเริ่มงานทันทีที่ได้มีการลงนามในสัญญาประมาณเดือนมกราคม 2560 คู่ขนานไปกับการดำเนินการในช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา