BLT ฟรีก็อปปี้มาแรง! ซินเนอร์ยีสื่อในเครือ-ครั้งแรกกับไลฟ์สไตล์บิสิเนส

04 ธ.ค. 2559 | 06:00 น.
สปริงนิวส์ฯ เผยโฉม "BLT" ฟรีก็อปปี้รายสัปดาห์สำหรับคนเมือง ชูจุดต่างไลฟ์สไตล์บิสิเนส พิมพ์ 4 สี ด้วยกระดาษถนอมสายตา เข้มด้วยคุณภาพจากการซินเนอร์ยีสื่อในเครือครบเครื่อง ยอดพิมพ์ 5 แสนฉบับ ประเดิมแจกวันแรกกระแสตอบรับล้นหลาม

นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สปริงนิวส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารสถานีข่าวสปริงนิวส์ ทีวีดิจิตอล ช่อง 19 ,หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ , สปริงเรดิโอ 98.5 เอฟเอ็ม ฯลฯ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า "BLT" (บีแอลที) หนังสือพิมพ์ไลฟ์สไตล์รายสัปดาห์ฟรีก็อปปี้เริ่มแจกถึงมือผู้อ่านตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเน้นสร้างความแตกต่างและวางเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้บีแอลทีเป็นหนังสือพิมพ์ที่มีคุณภาพ และปริมาณ ไม่ว่าจะเป็นรูปเล่ม เนื้อหา กระดาษที่ใช้ คุณภาพการพิมพ์ โดยเน้นรูปแบบของไลฟ์สไตล์บิสิเนส รายสัปดาห์ จำนวน 32 หน้า พิมพ์ 4 สี ใช้กระดาษถนอมสายตา ซึ่งมีต้นทุนแพงกว่าฟรีก๊อบปี้ทั่วไป 20% เน้นเจาะกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่อายุ 30 ปีขึ้นไปในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายระดับเดียวกันกับสื่ออื่นๆในเครือสปริงนิวส์ พร้อมกันนี้ยังสร้างความแตกต่างในเรื่องของปริมาณที่บีแอลทีจะพิมพ์และแจกจำนวน 5 แสนฉบับ

"ปัจจุบันผู้คนยังต้องการบริโภคข่าวสารผ่านสิ่งที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสื่อดั้งเดิมอย่างสื่อสิ่งพิมพ์มีความน่าเชื่อถือมากกว่า มีความรับผิดชอบ มีที่มาที่ไป แต่ขณะเดียวกันในยามเศรษฐกิจชะลอตัวจะทำหนังสือออกมาให้ประชาชนจ่ายเงินซื้อถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากจึงเกิดเป็นฟรีก็อปปี้ขึ้นมา"

บริษัทยังให้ความสำคัญกับสื่อใหม่ควบคู่กันไปเพื่อรองรับความต้องการไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย ฉะนั้นสื่อทั้งหมดจะมีการนำเนื้อหาไปเผยแพร่ในช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดียด้วย โดยบีแอลทีจะมีเว็บไซต์และมีเนื้อหาในช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะต้องพัฒนาต่อไปว่าเนื้อหาที่ต้องนำเสนอเป็นรายวันจะเป็นอย่างไร เพื่อให้น่าสนใจและน่าอ่านทุกวัน

สำหรับที่มาของชื่อ "BLT" มาจากชื่อของแซนด์วิช ย่อมาจาก Bacon (เบคอน), Lettuce(ผักกาดหอม) และ Tomato(มะเขือเทศ) ซึ่งทานง่ายใช้เวลาสั้นแต่มีประโยชน์ หรืออีกความหมายหนึ่งคือ Best Living Taste นั่นเอง สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับคือ ข้อมูลข่าวสารทำให้ทันต่อเหตุการณ์ ไม่ล้าสมัย ทันสมัย มั่นใจ มีความพร้อมในการอยู่ในสังคมในการทำงาน มีเพื่อน มีครอบครัว โดยวางเป้าหมายว่าบีแอลทีจะประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักได้ภายใน 3 เดือน

"บีแอลทีมีความพร้อมเกิน 100% ทั้งเนื้อหาทีมการตลาด บุคลากร โรงพิมพ์ และทีมแจกด้วยปริมาณ 5 แสนเล่มจึงต้องมีความชำนาญ ความครบวงจรของสื่อเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่บริษัทมีการซินเนอร์ยีบริษัทในเครือ ที่เรียกว่าพลังของมัลติแพลตฟอร์ม ซึ่งหากจะเริ่มลงทุนหรือทำบีแอลทีโดยไม่มีข้อได้เปรียบด้านนี้คาดว่าจะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนร่วม 100 ล้านบาท โดยบริษัทไม่ได้ซื้อสื่อโฆษณาจากภายนอก แต่วางแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในเครือฯ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ ส่วนเนื้อหาได้รับการสนับสนุนจากสปริงนิวส์และฐานเศรษฐกิจซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานอยู่แล้ว"

อย่างไรก็ตามในยุคที่หลายสื่อกำลังปรับองค์กรให้เล็กลง ถือว่าเป็นยุคที่สื่อกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต แต่บริษัทมีการขยายสื่อในเครือมากขึ้น เพราะมองว่าถ้าบริษัทไม่ทำอะไรเลยปล่อยไปตามยถากรรมก็ไม่มีความหวังไม่มีอนาคต จะอยู่เฉยๆจะถอยหรือจะรับความท้าทาย นั่นคือสิ่งที่ต้องคิด ซึ่งบริษัทมีทั้งสื่อในเครือที่มีคุณภาพและปริมาณอยู่แล้วครบทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งมีไม่กี่องค์กรในประเทศไทยที่มีครบเช่นนี้ บริษัทมีกลยุทธ์ มีเป้าหมาย และเห็นโอกาสที่ชัดเจน โดยธุรกิจสื่อในปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและท้าทายที่จะทำอย่างไรให้อยู่รอด ดังนั้นทางกลุ่มของสปริงฯจะต้องมีความแตกต่างที่ชัดเจนสามารถดึงกลุ่มลูกค้าได้ ด้วยยุทธศาสตร์ความเป็นสื่อคุณภาพและเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายในระดับเดียวกันคือกลุ่มอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ถือเป็นวัยคนทำงานที่มีจำนวนเยอะที่สุดในกรุงเทพฯ

ด้านนายกิติภูมิ ศรีสมนึก บรรณาธิการบริหาร BLT กล่าวว่า BLT จะถูกแจกจ่ายทุกวันพฤหัสบดี ตามจุดต่างๆทั่วกรุงเทพฯ กว่า 100 จุด อาทิ ด่านเก็บเงินทางด่วน , สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส, สถานีรถไฟใต้ดินเอ็มอาร์ที , อาคารสำนักงาน ร้านกาแฟ ฯลฯ โดยเนื้อหาจะนำเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวในกระแส พร้อมเจาะลึกเรื่องราวที่น่าสนใจ เรื่องราวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพฯ ทั้งเรื่องกิน ดื่ม เที่ยว การลงทุน ฯลฯ แบ่งเป็นข่าวและสาระ 40% และ ไลฟ์สไตล์ 60%

"จุดเด่นของบีแอลทีคือ การคัดสรรข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่างๆ มาย่อยและสรุปออกมาในรูปแบบที่แตกต่าง เพื่อให้เสพได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาที่มีเฉพาะที่บีแอลทีเท่านั้น เช่น AU POLL ผลวิจัยโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กับเรื่องราวของคนเมืองในมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าจะเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งได้แก่ กลุ่มสตาร์อัพ คนทำงาน คนรุ่นใหม่ ที่มีอายุ 25-45 ปี อยู่ในระดับบีถึงบีบวกขึ้นไป" นายกิติภูมิ กล่าวและว่า

บรรยากาศการแจก BLT ในวันแรกได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด เห็นได้จากผู้ที่ได้รับแจกหนังสือพิมพ์ และร่วมถ่ายรูปคู่พร้อมแชร์มายัง Facebook : BLT Online เพื่อลุ้นรับบัตรกำนัลห้องพักโรงแรมหรู จำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้รับคูปองส่วนลดจากร้านอาหารดังต่างๆ ที่ร่วมกิจกรรมโปรโมชั่น ในทุกๆ ฉบับด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,215 วันที่ 4 - 7 ธันวาคม 2559