รัฐออกเอดีสกัดท่อเหล็กจีน-เกาหลี ผู้ผลิตห่วงสินค้าเวียดนามยังทะลัก

25 พ.ย. 2559 | 08:25 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ผู้ผลิตท่อเหล็กเฮ กระทรวงพาณิชย์ประกาศใช้เอดีชั่วคราว สกัดสินค้านำเข้าจากจีนและเกาหลีใน 26 พิกัดแล้ว เก็บอากรขาเข้าตั้งแต่ 3-66 % พิสูจน์แล้วสร้างความเสียหายให้กับผู้ผลิตภายในประเทศจริง พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งออกเอดี ท่อเหล็กจากเวียดนาม หลังจีนส่งวัตถุดิบไปผลิตส่งมาดัมพ์ราคา เผย 9 เดือน ยอดทะลัก 9.2 หมื่นตัน

นายวีรศักดิ์ ชัยสุพัฒน์ อุปนายกสมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่สมาคมได้ทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ดำเนินการออกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) สำหรับสินค้าหลอดและท่อทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐเกาหลีไปตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดให้มีการไต่สวน เพื่อใช้ปกป้องผู้ผลิตท่อเหล็กภายในประเทศนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามให้มีการใช้มาตรการเอดีดังกล่าวเป็นการชั่วคราวแล้ว สำหรับท่อเหล็กที่นำเข้ามารวม 26 พิกัด เป็นเวลา 4 เดือน(กลางพ.ย.2559-กลางมี.ค.2560) ก่อนที่จะประกาศใช้เป็นมาตรการถาวรต่อไป เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าทั้ง 2 ประเทศ มีการส่งสินค้าดังกล่าวมาทุ่มตลาดและก่อให้เกิดความเสียหายอย่างสำคัญแก่อุตสาหกรรมภายในประเทศ

โดยจะมีการเรียกเก็บอากรขาเข้าสำหรับท่อเหล็กนำเข้ามาจากจีนในอัตราตั้งแต่ 3.22 % ของราคาซีไอเอฟ (รวมค่าระวางและค่าประกันภัยสินค้า) ที่ผลิตจากบริษัท Tianjin Tianyingtai Steel Pipe และเก็บอากรขาเข้าในอัตรา 31.02 % ของราคาซีไอเอฟ ที่ผลิตจากบริษัท Huludao Steel Pipe Industrial รวมทั้ง จัดเก็บอากรขาเข้าในอัตรา 19.19-66.01 % ของราคาซีไอเอฟ สำหรับสินค้าที่ผลิตจากผู้ผลิตที่ให้ความร่วมมือแต่ไม่ได้รับการสุ่มตัวอย่างรวม 8 ราย เช่น ในกลุ่มบริษัท Youfa Group จำนวน 10 บริษัท เป็นต้น

ขณะที่เรียกเก็บอากรนำเข้าที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐเกาหลีในอัตรา 17.22 % ของราคาซีไอเอฟ สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากบริษัท SeAH Steel Corp. นำเข้าจากบริษัท Hyundai Steel Company ในอัตรา 32.62 % ของราคาซีไอเอฟ นำเข้าจากผู้ผลิต เช่น บริษัท SeAH Fs ที่ให้ความร่วมมือแต่ไม่ได้รับการสุ่มตัวอย่าง จัดเก็บ ในอัตรา 24.40 % ของราคาซีไอเอฟ

ส่วนสินค้าท่อเหล็กที่ผลิตหรือส่งออกจากรายอื่นๆ ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีนและเกาหลี เช่น การนำเข้าท่อชนิดที่ใช้เป็นท่อส่งน้ำมันหรือก๊าซ ท่อผนังบ่อ(เคสซิง) ชนิดที่ใช้ในการเจาะน้ำมันหรือก๊าซ ท่อเหล็กบุโพลิเอธิลีน รวมถึงสินค้าที่นำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออก เช่น จะเรียกเก็บอากรชั่วคราวในอัตรา 0 % ของราคาซีไอเอฟ

นายวีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การออกมาตรการเอดีเป็นการชั่วคราวดังกล่าวคาดว่าจะในระยะแรกๆ น่าจะส่งผลให้การนำท่อเหล็กจากทั้ง 2 ประเทศลดลงมาได้มาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่กระทรวงพาณิชย์ได้เริ่มเปิดไต่สวน ก็ได้รับสัญญาณที่ดีกว่าการนำเข้าท่อเหล็กเริ่มมีปริมาณลดลงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯยังมีความเป็นห่วง กรณีการนำสินค้าท่อเหล็กจากเวียดนามเข้ามาดัมพ์ราคาในประเทศ เนื่องจากยังไม่มีการเปิดไต่สวนจากกระทรวงพาณิชย์ หลังจากที่ได้ทำหนังสือขอให้มีการออกมาตรการเอดี สำหรับสินค้าที่ผลิตจากเวียดนามไปแล้ว

ทั้งนี้ เนื่องจากพบว่าเมื่อเริ่มมีการเปิดไต่ส่วนมาตรการเอดีเหล็กที่นำเข้าจากจีนและเกาหลี ทางผู้ผลิตจีนหันไปใช้ฐานการผลิตท่อเหล็กในเวียดนามแทน โดยการส่งวัตถุดิบจากจีนนำไปผลิต และส่งท่อเหล็กมายังไทย เท่ากับเป็นการหลบเลี่ยงไม่ให้ได้รับผลกระทบจากมาตรการเอดี ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่กับผู้ผลิตภายในประเทศ เพราะบางเดือนปริมาณท่อเหล็กที่นำเข้ามาสูงกว่าการนำเข้าจากจีนและเกาหลีด้วยซ้ำ

ดังนั้น ทางสมาคมฯหวังว่าทางกระทรวงพาณิชย์ จะเร่งเปิดไต่สวนเอดี สำหรับท่อเหล็กที่ส่งมาจากเวียดนามโดยเร็ว

สำหรับปริมาณท่อเหล็กที่นำเข้ามาในช่วง 9 เดือน ที่ผ่านมาพบว่า มีการนำเข้าจากจีนในปริมาณ 1.56 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่อยู่ในปริมาณ 9.41 หมื่นตัน นำเข้าจากเกาหลีในปริมาณ 1.03 หมื่นตัน ปรับตัวลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 1.1 หมื่นตัน และนำเข้าจากเวียดนามอยู่ที่ 9.27 หมื่นตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 5,854 ตัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,212 วันที่ 24 - 26 พฤศจิกายน 2559