รปภ.เฮ! ทั้งประเทศ ม.44 ปลดล็อค กม.บังคับต้องจบ ม.3

10 พ.ย. 2559 | 11:44 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 67/2559 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยธุรกิจรักษาความปลอดภัย มีรายละเอียดระบุว่า
ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 ในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 โดยให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด หนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป กล่าวคือ ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ด้วยเหตุที่ต้องเตรียมการต่าง ๆ อันพึงต้องกระทำเพื่อให้การใช้บังคับกฎหมาย แก่พนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวนหลายแสนคน และบริษัทรักษาความปลอดภัยจำนวนหลายพันแห่ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยนั้น เนื่องจากการตราอนุบัญญัติและการกำหนดมาตรการรองรับตามที่

 

กฎหมายบัญญัติยังคงมีปัญหาขัดข้อง ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เป็นจำนวนมาก เพราะเหตุแห่งคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของพนักงานรักษาความปลอดภัย
ทั้งที่ประกอบอาชีพนี้อยู่แต่เดิมและที่จะเข้าสู่อาชีพนี้ในอนาคต แม้มีบทเฉพาะกาลยกเว้นหรือผ่อนผัน ไว้ให้แล้วในบางเรื่อง และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ก็ให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขข้อขัดข้องต่าง ๆ แต่ผลกระทบต่อความรับรู้ความเข้าใจและการปรับตัวให้เข้ากับกฎเกณฑ์ใหม่ยังคงมีอยู่

 

นอกจากนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินยังได้ให้ข้อสังเกตและคำแนะนำมาหลายประการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลจึงได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาหารือแล้วมีความเห็นร่วมกันว่า แม้เจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมุ่งจัดระเบียบธุรกิจรักษาความปลอดภัยให้ผู้ประกอบอาชีพนี้มีความพร้อมทั้งทางสมรรถนะ วุฒิภาวะ และทัศนคติ จะเป็นเรื่องที่ดีเพื่อให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่น แต่จากเหตุขัดข้องในด้านความพร้อม การรับรู้ และความเข้าใจของผู้ประกอบธุรกิจ รักษาความปลอดภัยและพนักงานรักษาความปลอดภัย รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง อาจมีผลให้การใช้ บังคับกฎหมายกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและประโยชน์สาธารณะได้ จึงจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 ในบางประการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (3) ให้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรี ประกาศกำหนดให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นกรรมการและเลขานุการ และข้าราชการตำรวจ
ยศพันตำรวจตรีขึ้นไปในกองบัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแต่งตั้งจำนวน ไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ"

ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (3) ของ ก. ของมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจ รักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(3) สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับที่ใช้อยู่ในขณะที่สำเร็จการศึกษา"

ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัยพ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"มาตรา 73 ผู้ใดประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากประสงค์จะประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยต่อไป ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 16 วรรคหนึ่ง ภายในสามร้อยหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเมื่อได้ยื่นคำขอแล้ว ให้ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตจากนายทะเบียน"

ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"มาตรา 74 ผู้ใดเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในสังกัดของผู้ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ถ้าประสงค์จะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง ภายในสามร้อยหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเมื่อยื่นคำขอรับใบอนุญาตแล้ว ให้ประกอบอาชีพต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตจากนายทะเบียน ทั้งนี้ มิให้นำมาตรา 34 ก. (3) และมาตรา 34 ข. (3) มาใช้บังคับกับบุคคลดังกล่าว"

ข้อ 5 ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้

ข้อ 6 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2559
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
โดยก่อนหน้านี้นั้นมาตรา 34 ก. (3) พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 เดิมได้ระบุไว้ว่า ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตต้องมีคุณสมบัติ สำเร็จการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ