เปิดแนวคิด ‘บุญเกียรติ’ ขับเคลื่อนธุรกิจให้เข้ากับความรู้สึกคนไทย

04 พ.ย. 2559 | 07:00 น.
ในท่ามกลางความโศกเศร้าของประชาชนคนไทยเผชิญอยู่ในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคนใดต้องการให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นแม้แต่น้อย แต่เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามกฎธรรมชาติ ทุกคนจึงต้องยอมรับและพร้อมจะก้าวเดินต่อไปในอนาคต ในฐานะที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ อย่างบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่มี “บุญเกียรติ โชควัฒนา” เป็นหัวเรือใหญ่ กับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารที่จะต้องนำพาให้องค์กรแห่งนี้ ยังคงก้าวเดินต่อไปสร้างการเติบโตทางธุรกิจ

ขณะเดียวกันยังคงต้องอยู่ภายใต้ความเหมาะสม อย่างที่ควรจะเป็นกับสถานการณ์บ้านเมือง การบริหารงานและทิศทางการเติบโตขององค์กรแห่งนี้จะเป็นอย่างไรนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ เพื่อฉายภาพองค์กรที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีคุณธรรมที่ดีในระดับต้นๆ ของประเทศ

สถานการณ์ธุรกิจปลายปีนี้

ในภาวะเช่นนี้ผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ที่จับจ่ายใช้สอยสินค้าเท่าไรนัก ยกเว้นเสื้อผ้าขาวและดำที่เป็นสินค้าที่คนต้องการหาซื้อมาสวมใส่ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนคนไทยยังคงสวมใส่เสื้อผ้าขาวดำเช่นนี้ไปเป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่มีใครต้องการให้เกิตเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ผู้ประกอบการก็ไม่ได้ต้องการขายเสื้อดำเพื่อไว้ทุกข์ เชื่อว่าแต่ละคนที่อาจจะมีเสื้อผ้าสีดำอยู่ 1-2 ตัวอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการสวมใส่ จึงต้องหาซื้อเสื้อผ้าสีดำจำนวนมาก ยอดขายของบริษัทก็เพิ่มมากขึ้น จากการสำรวจตลาดก็ยังพบว่ามีบางแห่งที่สินค้ายังขาดตลาดอยู่เหมือนกัน

 ปรับระบบการผลิตและจำหน่ายอย่างไร

ช่วงอาทิตย์แรกยังปรับตัวไม่ทัน เพราะไม่ได้เตรียมวัตถุดิบอะไรไว้ แต่ขณะนี้ได้ปรับรูปแบบการผลิตทั้งระบบตั้งแต่โรงงานทอผ้า โรงย้อมผ้า ตัดเย็บ และจัดจำหน่ายให้ผลิตเสื้อผ้าสีดำและขาวออกมาจำหน่ายเป็นหลัก และเพิ่มกำลังการผลิตอย่างเต็มที่เพื่อให้เพียงพอ ปัจจุบันกระบวนการผลิตสินค้าตั้งแต่ต้นจนออกมาจำหน่ายได้ สามารถใช้เวลาการผลิตเพียง 2 สัปดาห์ จากก่อนหน้านี้ใช้ระยะเวลาประมาณ1 เดือน

 การเติบโตของไอ.ซี.ซี.ปีนี้

ยอดขายปีนี้คงเติบโตเพียงเล็กน้อยเป็นเลขตัวเดียว แต่อัตรากำไรปีนี้น่าจะเป็นเลขสองหลัก ซึ่งผลที่เกิดขึ้นเป็นเพราะได้กลับมาใส่ใจในด้านการบริหารงานภายใน การเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไร จริงๆ ได้เริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จากปีก่อนๆ หน้าไม่ได้สนใจเรื่องประสิทธิภาพหรือการปรับตัวเพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตเท่าไรนัก ทำงานทุกอย่างเหมือนเดิม ขณะที่สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คู่แข่งทางธุรกิจก็มีมากขึ้น ปัจจุบันการเติบโตทำได้ 2-3% ก็ถือว่าดีแล้ว

[caption id="attachment_111217" align="aligncenter" width="503"] เปิดแนวคิด ‘บุญเกียรติ’ ขับเคลื่อนธุรกิจให้เข้ากับความรู้สึกคนไทย เปิดแนวคิด ‘บุญเกียรติ’ ขับเคลื่อนธุรกิจให้เข้ากับความรู้สึกคนไทย[/caption]

การดำเนินธุรกิจปีหน้า

ธุรกิจแฟชั่นคงจะโฟกัสเรื่องชุดดำเป็นหลัก เสื้อผ้าสีดำก็คงเน้นความเป็นแฟชั่นมากขึ้น การใส่ดีไซน์ การใส่ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการนำสีเทาเข้ามาใช้ในการออกแบบเสื้อผ้า การประดับด้วยคริสตัล หรือเครื่องประดับอื่นๆ เพื่อให้การสวมใช่ชุดดำดูดี เหมาะสม และมีความทันสมัย หรือแม้แต่เครื่องสำอาง ก็คงต้องปรับโทษสีให้เหมาะสมกับการสวมใส่ชุดดำ สินค้ากลุ่มกีฬาก็คงต้องปรับเช่นกัน เสื้อผ้ากีฬาในร่มก็ใช้สีดำได้ แต่หากเป็นกีฬากลางแจ้งก็ต้องเป็นสีขาว หรือแม้แต่เสื้อยืด อาจจะนำเอาพระราชกรณียกิจมาสกรีนบนเสื้อ หรือการนำเอาโครงการตามพระราชดำริ หรือสัตว์ทรงเลี้ยงมาทำเป็นลายเสื้อก็ได้

สิ่งสำคัญจะต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อนสัก 1 เดือน และการทำต้องครีเอทีฟและรีแอคชั่นให้รวดเร็ว ขณะที่รูปแบบการทำตลาดจะต้องให้ไม่เป็นอะไรที่เกินเลยไปจากความเหมาะสม ทุกอย่างต้องปรับให้อยู่บนความพอดี การลดแลกแจกแถม หรือกลยุทธ์การตลาดอย่างอื่น ยังคงทำเป็นปกติ แต่ไม่เน้นความเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์มากนัก

 วางเป้าการเติบโตในปีหน้า

ไอ.ซี.ซี. ยังคงวางเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการเติบโตจากการปรับตัว โดยไม่ได้ฝากชีวิตหรือธุรกิจไว้กับภาวะเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไม่น่าจะอยู่ในภาวะที่สามารถฝากชีวิตไว้ได้ สิ่งสำคัญการดำเนินธุรกิจจะต้องไม่เอาเรื่องลบ มาเป็นเงื่อนไขที่ทำให้บริษัทไม่เติบโต จะต้องหาแนวทางการสร้างวิธีการที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างอยู่ที่วิธีการคิด วิธีการทำงาน ในการขับเคลื่อนให้องค์กรเติบโต สิ่งสำคัญจะต้องมีใช้ความคิดและมีความมุ่งมั่น เอาสองเรื่องนี้มาเปลี่ยนมาเป็นวิธีการ มีเป้าหมายว่าจะเติบโตเท่าไร และมุ่งมั่นไปให้ถึงเป้าหมายนั้น

 ยังมีการลงทุนอะไรต่อเนื่อง

ปีหน้าคงมีการลงทุนพัฒนาแบรนด์สินค้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำตลาดในปีนี้ จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ สินค้าคาแรกเตอร์ คุมะมง (Kumamon) ยีนส์แบรนด์เปเป้ ยีนส์ (Pepe Jeans) และเสื้อผ้าลำลองสตรีดิซิงกัล (Desigual) จากประเทศสเปน แต่ยังไม่สามารถบอกมูลค่าการลงทุนทางการตลาดได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบ วิธีการ และความจำเป็น ขณะเดียวกันปีหน้าก็ยังคงมองหาแบรนด์สินค้าที่มีศักยภาพ และมีโอกาสทำกำไรได้ตั้งแต่ปีแรกที่นำเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะปกติสินค้าแบรนด์ใหม่มักจะขาดทุน แต่บริษัทจะมองหาแบรนด์ที่ทำกำไรได้เลย

 ข้อคิดสำหรับนักธุรกิจในภาวะปัจจุบัน

อย่าโศกเศร้า และอย่าจิตตก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงอยู่ในใจประชาชนคนไทยตลอดเวลา พระองค์ไม่ได้หายไปไหน ทุกคนที่ดำเนินธุรกิจจะต้องเดินหน้าต่อไป พระองค์ท่านคงไม่ทรงโปรดหากเห็นประชาชนคนไทยโศกเศร้า แต่สำคัญการดำเนินธุรกิจจะต้องยืนอยู่บนความซื้อสัตย์ สุจริต พิถีพิถันในทุกเรื่องให้มาก ต้องใช้ความคิด อย่างทำด้วยกิเลศ อย่าทำอะไรด้วยอัตตา ต้องใช้สติปัญญา และอย่างใช้อารมณ์ เชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะทรงพอพระทัย หากทอดพระเนตรเห็นว่าคนไทยมีความสามัคคี ช่วยสร้งาภาพลักษณ์ให้ประเทศเตนิญก้าวหน้าต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,206 วันที่ 3 - 5 พฤศจิกายน 2559