‘ซีพี’ผนึกยักษ์‘อาลีบาบา’ ยึดตลาดอี-เพย์เมนต์เอเชีย

02 พ.ย. 2559 | 08:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“ซีพี” จับมือ “อาลีบาบา” เป็นพันธมิตรธุรกิจ ปักธงธุรกิจอี-เพย์เมนต์ในเอเชีย ตั้งเป้าเป็น “ฟินเทค” ในอีก 2ปีข้างหน้าหวังเข้าถึงผู้ใช้กว่า 2 พันล้านคนใน 10 ปี

ภายหลังที่มีกระแสข่าวว่า อาลีบาบา ร่วมกับกลุ่มซีพี ลงทุนในธุรกิจรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” รายงานข่าวจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประกาศร่วมทุน โดยมีนายธนินท์เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์และแจ็ค หม่า ประธานบริหาร อาลีบาบา กรุ๊ป พร้อมกับคณะผู้บริหารของทั้ง 2 กลุ่ม

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แอสเซนด์ กรุ๊ป ตั้งมาเป็นเวลา9 ปี ได้แตกธุรกิจกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรีอ E-Wallet และนาโนไฟแนนช์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาและมองหาการสร้างโอกาสให้กับบริการใหม่บนที่เป็นดิจิตอลแพลตฟอร์มเซอร์วิสโดยตั้งเป้าเป็นผู้นำ ฟินเทค และดิจิตอลเซอร์วิส ในภูมิภาคเอเชียในปี2561

“ความร่วมมือกับ แอนท์ไฟแนนเชียล. และ. แอสเซนด์ มันนี่เป็นผลจากมีพันธกิจคล้ายกันคือการขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับประชากรทุกคนรวมไปถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสและความยั่งยืน”นายศุภชัย กล่าว

ด้านนายอีริค จิง ประธานคณะผู้บริหารบริษัท แอนท์ไฟแนนเชียล เซอร์วิส กรุ๊ปกล่าวว่า บริษัทมุ่งขยายบริการสู่ผู้บริโภคกว่า 2 พันล้านคนใน 10ปีข้างหน้า โดยการสร้างระบบเปิดกับพันธมิตรของบริษัทฯทั่วโลกตลาดการชำระเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพที่สูงและการแข่งขันที่ยังน้อยอยู่บริษัทฯยังอยากที่จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมรายเล็กและรายย่อย และประชาชนทั่วไปในการนำเสนอบริการทางการเงินที่ปลอดภัยและไว้ใจได้ และแอสเซนด์ มันนี่ในฐานะผู้นำในประเทศไทยก็พร้อมที่สุดที่จะสร้างระบบนวัตกรรมทางการเงินใหม่ในไทย

ขณะที่นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผู้บริหาร บริษัทแอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยให้แอนเซนด์ มันนี่ได้รับการสนับสนุนด้านกลยุทธ์ และเทคนิคซึ่งเป็นนวัตกรรมระดับโลก แอนท์ไฟแนนเชียล ได้นำพาบริการอาลีเพย์แอพพลิเคชั่นการชำระเงินและไลฟ์สไตล์โมบายล์ประสบความสำเร็จอย่างสูงและมีผู้ใช้งานมากที่สุดของจีน โดยแอสเซนด็ มันนี่ มีแผนการผลักดันธุรกิจจากผู้ให้บริการการเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือฟินเทค ไปสู่ฟินไลฟ์ที่จะครอบคลุมการให้บริการชำระเงินค่าสินค้าบริการต่างๆบริการ สินเชื่อการซื้อหน่วยลงทุน ประกันภัย เช่นเดียวกับแอนท์ไฟแนนเชียล

อย่างไรก็ตามความร่วมมือครั้งนี้ยังให้การสนับสนุนลูกค้าของทั้ง 2 ฝ่ายโดยลูกค้าจีนที่ใช้บริการอาลีเพย์สามารถชำระเงินค่าสินค้าและบริการในไทยได้ขณะที่คนไทยสามารถชำระค่าสินค้าและบริการได้ทุกที่ที่มีอาลีเพย์ สุดท้ายคือการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน โดยแอสเซนด์ มันนี่จะเรียนรู้กรณีศึกษาต่างๆที่เกิดขึ้นจากบริการอาลีเพย์และนำมาประยุกต์ใช้ในการขยายตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขณะที่แอนท์ไฟแนนซ์เชียล ก็จะเรียนรู้ สิ่งที่แอสเซนด์มันนี่ประสบความสำเร็จในการขยายกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีบัญชีธนาคารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการขยายตลาดโดยเฉพาะประเทศอินเดีย

นอกจากนี้บริษัทแอนท์ไฟแนนเชียล เซอร์วิส กรุ๊ป ยังเข้ามาลงถือหุ้นในบริษัทแอสเซนด์ มันนี่ จำกัด สัดส่วน 20% และมีโอกาสขยายเพิ่มเป็น30% ในปี 2561 ตั้งเป้าขยายผู้ใช้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้บริการประจำ หรือแอคทีฟยูสเซอร์จาก 7 แสนรายเป็น 7 ล้านราย ภายในระยะเวลา 1-1.5 ปี และตั้งเป้ามีตัวแทนให้บริการทรูมันนี่ 5 แสนราย จากปัจจุบัน 40,000 รายรวมถึงตั้งเป้าการเติบโตการทำธุรกรรม หรือทรานเซ็คชั่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 30 % จากปีนี้มีมูลค่าราว 7.5 หมื่นล้านบาท ส่วนมูลค่าการลงทุนนั้นในปีหน้ามีแผนลงทุนเพิ่ม 2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 100%

อนึ่ง บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เป็นผู้นำด้านธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ fintech ในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ชื่อ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด สำหรับธุรกิจการให้บริการด้านการเงิน และ บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด สำหรับธุรกิจเงินกู้รายย่อย บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ และมีให้บริการใน 6 ประเทศ รวมไปถึงไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,206 วันที่ 3 - 5 พฤศจิกายน 2559