ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 3 ปี 2559

28 ต.ค. 2559 | 07:28 น.
“เศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการใช้จ่ายจากรายจ่ายลงทุนภาครัฐ ที่ยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลัก การส่งออกสินค้าเดือนกันยายนยังขยายตัวดีติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 3 ของปี 2559 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากการบริโภคภาคเอกชน ที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการใช้จ่ายจากรายจ่ายลงทุนภาครัฐ ที่ยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลัก
นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าในเดือนกันยายนยังขยายตัวดีติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง

3. Thai graphic Oct 16 final การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจาก ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนกันยายน 2559 กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 5.5 ต่อเดือน จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศที่ขยายตัวร้อยละ 5.2 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 1.2 ต่อปี

เช่นเดียวกับ ปริมาณรถจักรยานยนต์ จดทะเบียนใหม่ในเดือนกันยายน 2559 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ที่ร้อยละ 13.4 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเขตภูมิภาค ตามรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งที่คลี่คลายลง และราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 14.1 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 2.2 ต่อไตรมาส สำหรับปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่องที่ร้อยละ 13.6 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 2.2 ต่อเดือน ทำให้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัวที่ร้อยละ 10.6 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 1.2 ต่อไตรมาส ในขณะที่รายได้เกษตรกรที่แท้จริง ขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 11.3 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 รายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวร้อยละ 11.0 ต่อปี

สำหรับ ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคหดตัวร้อยละ -3.7 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวร้อยละ 1.5 ต่อปี ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น สะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 63.4 และเป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ทำให้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 62.3 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 61.1

การลงทุนภาคเอกชนในภาพรวมมีสัญญาณทรงตัว โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 6.1 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 8.6 ต่อเดือน ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนหดตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ -0.3 ต่อปี แต่เมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 4.2 ต่อไตรมาส

การใช้จ่ายของรัฐบาลโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนกลับมาขยายตัวได้ดี พบว่า การเบิกจ่ายงบประมาณรวมในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 (ไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2559) รายจ่ายงบประมาณรวมเบิกจ่ายได้ 558.7 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -2.0 ต่อปี ขณะที่การเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันเบิกจ่ายได้จำนวน 528.3 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.7 ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากรายจ่ายลงทุนที่เบิกจ่ายได้ 100.1 พันล้านบาท ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 31.0 ต่อปี ทำให้รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 สามารถเบิกจ่ายได้ 2,578.9 พันล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 92.9 ของกรอบวงเงินงบประมาณ (2,776.0 พันล้านบาท)

สำหรับการจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักจัดสรรให้ อปท.) ในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 (ไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2559) การจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักจัดสรรให้ อปท.) จัดเก็บได้จำนวน 597.7 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.4 ต่อปี และทำให้ทั้งปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักจัดสรรให้ อปท.) ได้ทั้งสิ้น 2,393.5 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.1 ต่อปี

สำหรับดุลเงินงบประมาณในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 (ไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2559) ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 44.1 พันล้านบาท และทำให้ทั้งปีงบประมาณ 2559 ดุลเงินงบประมาณขาดดุล -395.8 พันล้านบาท มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนกันยายน 2559 กลับมาขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.4 ต่อปี และเป็นการขยายตัวได้ดีในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดส่งออกสำคัญ อาทิ สหภาพยุโรป จีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ที่ขยายตัวได้ดี

ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนมาจากการส่งออกสินค้าในกลุ่มยานพาหนะและส่วนประกอบ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้ากลุ่มเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลัง อาหาร และไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เป็นต้น ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 1.2 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 3.5 ต่อไตรมาส

สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐกลับมาขยายตัวในระดับสูงถึงร้อยละ 5.6 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 หดตัวร้อยละ -1.2 ต่อปี แต่เมื่อปรับผลทางฤดูกาลออก ขยายตัวร้อยละ 3.4 ต่อไตรมาส ทั้งนี้ มูลค่าส่งออกสินค้าที่สูงกว่าการนำเข้าสินค้าส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศเกินดุล 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ดุลการค้าระหว่างประเทศเกินดุล 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานมีสัญญาณดีขึ้น สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทย (ข้อมูลเบื้องต้น) ในเดือนกันยายน 2559 มีจำนวน 2.41 ล้านคน ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 17.7 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาล ขยายตัวร้อยละ 0.2 ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวน 8.23 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 12.8 ต่อปี และเมื่อหักผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 2.9 ต่อไตรมาส

สำหรับดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือนกันยายน 2559 ขยายตัวที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 7.4 ต่อเดือน โดยเป็นผลจากการขยายตัวของหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะมันสำปะหลัง และข้าวโพดที่ผลผลิตออกมากตามฤดูกาลเก็บเกี่ยว ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัวชะลอลงที่ร้อยละ -0.5 ต่อปี แต่เมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 2.1 ต่อไตรมาส ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรในเดือนกันยายน 2559 ขยายตัวร้อยละ 8.0 ต่อปี ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากราคาในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ มันสำปะหลัง และข้าวโพดที่ราคาหดตัวเนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2559 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรกรรมขยายตัวร้อยละ 13.1 ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 6.6 ต่อไตรมาส นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) ในเดือนกันยายน 2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 84.8 โดยมีปัจจัยหลักจากองค์ประกอบของยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น เป็นสำคัญ

เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.4 และ 0.8 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวที่ร้อยละ 0.3 และ 0.8 ต่อปี ด้านอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำเช่นกันที่ร้อยละ 0.9 ของแรงงานรวม หรือคิดเป็นผู้ว่างงาน 3.3 แสนคน ทำให้ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม นอกจากนี้ สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ยังอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 โดยล่าสุด ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2559 อยู่ที่ระดับร้อยละ 42.6 ส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2559 อยู่ที่ 180.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 3.1 เท่าเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจไทยในการรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้เป็นอย่างดี